“ลูกเสือชาวบ้าน” ออกประกาศจุดยืน ยึดมั่นและจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมสนับสนุนให้ดำเนินการต่อผู้กระทำผิดต่อสถาบันอย่างเข้มงวดกวดขัน รวดเร็ว มีความเป็นธรรม เท่าเทียมกันและไม่เลือกปฏิบัติ
วันนี้ (24 ก.ค.) ศูนย์ปฏิบัติการลึกเสือชาวบ้านในพระบรมราชานุเคราะห์ โดย พล.ต.ท.เจริญฤทธิ์ จำรัสโรมรัน ประธานที่ปรึกษา พล.ต.ท.สมศักดิ์ แขวงโสภา ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ร่วมกับคณะกรรมการบริหารกิจการลูกเสือชาวบ้าน และคณะที่ปรึกษาศูนย์ฯ ได้ร่วมประกาศจุดยืนและแนวทางของลูกเสือต่อสถานการร์ปัจจุบัน
ประกาศจุดยืนดังกล่าวระบุว่า จากสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่อความมั่นคงของชาติ ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมีผู้จาบจ้วงล่วงละเมิดเบื้องสูง ลูกเสือชาวบ้านจึงพร้อมใจกันประกาศจุดยืนและแนวทาง เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง 4 ประการ ดังนี้ 1.ลูกเสือชาวบ้านเป็นองค์กรที่มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความมั่นคงและศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศชาติและประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ลูกเสือชาวบ้านจึงพร้อมใจแระกาศเจตนารมณ์ว่า “สถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องอยู่คู่ชาติและประเทศไทยตลอดไป” ในโอกาสอันควรและจำเป็น ลูกเสือชาวบ้านทั่วประเทศจะแสดงพลังต่อต้าน และพิทักษ์รักษาอย่างเต็มความสามารถ และขอสนับสนุนให้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการต่อผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวดกวดขัน รวดเร็ว มีความเป็นธรรม เท่าเทียมกันและไม่เลือกปฏิบัติ
2.ลูกเสือชาวบ้าน วางตนเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด สนับสนุนการดำเนินงานทางการเมืองที่มีความโปร่งใส สุจริต และเที่ยงธรรม โดยเฉพาะการเลือกตั้งต้องไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อพัฒนาการเมืองให้มั่นคง และปูทางให้คนดี มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ได้มีโอกาสเข้ามารับใช้ชาติบ้านเมือง โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อเสียง
3.ลูกเสือชาวบ้านขอให้ทุกฝ่ายที่มีความขัดแย้ง แก้ปัญหาด้วยความรักความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนึกเสมอว่าเราคือคนไทยด้วยกัน ต้องอยู่ร่วมกันในแผ่นดินนี้ไปชั่วกาลนาน ต้องร่วมมือร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรคของชาติให้บรรลุผลด้วยการน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “รู้รักสามัคคี” มาเป็นหลักในการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ
4.ลูกเสือชาวบ้าน ขอประณามผู้ใช้ความรุนแรง ข่มขู่ เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ อย่างโหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ทุกภาคส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อย ยึดถือพระราชดำรัส “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นแนวทางในการทำงาน มั่นคงในการไม่ใช้ความรุนแรง แต่ใช้ความนุ่มนวลและให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา เหตุการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ขอให้กำลังใจทุกท่านที่ทำงานด้วยความเสียสละ อดทน และมุ่งมั่นในการเสริมสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอแสดงความเสียใจ ห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบด้วยความจริงใจ
วันนี้ (24 ก.ค.) ศูนย์ปฏิบัติการลึกเสือชาวบ้านในพระบรมราชานุเคราะห์ โดย พล.ต.ท.เจริญฤทธิ์ จำรัสโรมรัน ประธานที่ปรึกษา พล.ต.ท.สมศักดิ์ แขวงโสภา ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ร่วมกับคณะกรรมการบริหารกิจการลูกเสือชาวบ้าน และคณะที่ปรึกษาศูนย์ฯ ได้ร่วมประกาศจุดยืนและแนวทางของลูกเสือต่อสถานการร์ปัจจุบัน
ประกาศจุดยืนดังกล่าวระบุว่า จากสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่อความมั่นคงของชาติ ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมีผู้จาบจ้วงล่วงละเมิดเบื้องสูง ลูกเสือชาวบ้านจึงพร้อมใจกันประกาศจุดยืนและแนวทาง เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง 4 ประการ ดังนี้ 1.ลูกเสือชาวบ้านเป็นองค์กรที่มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความมั่นคงและศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศชาติและประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ลูกเสือชาวบ้านจึงพร้อมใจแระกาศเจตนารมณ์ว่า “สถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องอยู่คู่ชาติและประเทศไทยตลอดไป” ในโอกาสอันควรและจำเป็น ลูกเสือชาวบ้านทั่วประเทศจะแสดงพลังต่อต้าน และพิทักษ์รักษาอย่างเต็มความสามารถ และขอสนับสนุนให้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการต่อผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวดกวดขัน รวดเร็ว มีความเป็นธรรม เท่าเทียมกันและไม่เลือกปฏิบัติ
2.ลูกเสือชาวบ้าน วางตนเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด สนับสนุนการดำเนินงานทางการเมืองที่มีความโปร่งใส สุจริต และเที่ยงธรรม โดยเฉพาะการเลือกตั้งต้องไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อพัฒนาการเมืองให้มั่นคง และปูทางให้คนดี มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ได้มีโอกาสเข้ามารับใช้ชาติบ้านเมือง โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อเสียง
3.ลูกเสือชาวบ้านขอให้ทุกฝ่ายที่มีความขัดแย้ง แก้ปัญหาด้วยความรักความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนึกเสมอว่าเราคือคนไทยด้วยกัน ต้องอยู่ร่วมกันในแผ่นดินนี้ไปชั่วกาลนาน ต้องร่วมมือร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรคของชาติให้บรรลุผลด้วยการน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “รู้รักสามัคคี” มาเป็นหลักในการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ
4.ลูกเสือชาวบ้าน ขอประณามผู้ใช้ความรุนแรง ข่มขู่ เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ อย่างโหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ทุกภาคส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อย ยึดถือพระราชดำรัส “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นแนวทางในการทำงาน มั่นคงในการไม่ใช้ความรุนแรง แต่ใช้ความนุ่มนวลและให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา เหตุการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ขอให้กำลังใจทุกท่านที่ทำงานด้วยความเสียสละ อดทน และมุ่งมั่นในการเสริมสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอแสดงความเสียใจ ห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบด้วยความจริงใจ
