xs
xsm
sm
md
lg

ตร.รอ “สนธิ” มอบตัว ยันไม่บุกจับถึงบ้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


บิ๊กตำรวจพรึบ แถลงข่าวศาลอนุมัติหมายจับ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ระบุเปิดโอกาสให้เข้ามอบตัว ยันไม่มีการบุกไปค้นและจับกุมถึงบ้าน ส่วนจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ ยังไม่บอก ขณะที่ผบช.น.ลั่น "อัศวิน มีมาตรฐานเดียว" พร้อมจัดเตรียมบริเวณหน้าห้องทำงานไว้รอมอบตัว

วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รองผบช.น. และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวกรณีศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ในข้อหา หมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินี ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112

ทั้งนี้ ก่อนการแถลงข่าว พล.ต.อ.จงรัก ได้อ่านหมายจับของศาลว่า หมายจับเลขที่ 2245/2551 ด้วยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี เพราะฉะนั้นให้ท่านจับกุมนายสนธิ ลิ้มทองกุล ไปส่งที่สน.ดุสิตภายในอายุความ 15 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา นายสนธิ ได้ขึ้นเวที และพูดจาที่มิบังควร ซึ่งศาลเห็นว่า มีมูลความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ และพระราชินี ซึ่งศาลได้ออกหมายจับมาให้ตำรวจดำเนินการ เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีที่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาล

พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ภายหลังที่ศาลอนุมัติออกหมายจับแล้ว ตำรวจจะยังไม่ไปจับนายสนธิ แต่พร้อมที่จะเปิดโอกาสให้นายสนธิ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมไปตามรูปคดีทุกประการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิ ได้มีการประกาศขอเข้ามอบตัวหรือไม่ พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า ขณะนี้ ทางพล.ต.ท.อัศวิน กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกันอยู่ ส่วนจะเป็นเวลา 09.00 น. ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หรือไม่ ต้องดูอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อหมายจับออกมาแล้ว ตำรวจต้องปฏิบัติตามหมาย หากพบตัวที่ไหน ต้องควบคุมตัวมาดำเนินคดี แต่อยากให้นายสนธิเข้ามอบตัวเอง เพราะนายสนธิเอง ก็มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ขณะเดียวกัน การเข้ามอบตัว ก็สามารถที่จะแสดงพยานหลักฐานต่างๆ ว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ได้ ตำรวจพร้อมจะให้ความเป็นธรรมตามรูปคดี ส่วนเรื่องการประกันตัว เป็นอำนาจของผบช.น. ซึ่งจะต้องพิจารณาไปตามหลักเกณฑ์ ตามกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108 ซึ่งระบุว่า การให้ปล่อยตัวชั่วคราว ต้องพิจารณาถึงความหนักเบาของข้อกล่าวหา หากให้ประกันไปแล้ว จะหลบหนีหรือไม่ พยานหลักฐานได้พิจารณาไปแล้วมากน้อยเพียงใด และหากประกันไปแล้ว จะก่อให้เกิดอันตรายหรือไม่ ซึ่งเหล่านี้ ก็ล้วนเป็นดุลยพินิจของบช.น.

เมื่อถามว่า พนักงานสอบสวนจะมีการคัดค้านการประกันตัว เหมือนกรณีน.สงดารณี เชิงชาญศิลปกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” หรือไม่ รองผบ.ตร.เลี่ยงตอบว่า ขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ต้องรอให้นายสนธิเข้ามอบตัวเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กรณีที่นายสนธิ มีการเปิดเผยทางสื่อจะเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้ ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า หลังมีหมายจับมาแล้ว ตำรวจต้องดำเนินการไปตามหมาย หากพบเห็นตัวนายสนธิที่ไหน ก็ต้องดำเนินการ มิฉะนั้นก็จะมีความผิด แต่ระหว่างที่ไม่พบตัว หากเข้ามอบตัวกับตำรวจเอง ตำรวจก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมมือ โดยจะเตรียมจัดสถานที่ และให้ความเป็นธรรมในการต่อสู้คดีต่อไป

เมื่อซักว่า หากมีการต่อรองเรื่องการประกันตัว ตำรวจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.จงรักตอบว่า ต่อรองไม่ได้ การมามอบตัว ก็ถือเป็นการมอบตัวตามหมายจับ ไม่มีการต่อรอง ซึ่งเชื่อว่า ผบช.น.จะใช้ดุลยพินิจ ไปในทางที่ถูกต้อง ส่วนกรณีที่มีหมายเก่า ก็ต้องแล้วแต่ศาลว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังจากที่ทางตำรวจได้ส่งตัวนายสนธิไปให้

ขณะที่พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ล่าสุด ได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯว่า นายสนธิ จะเข้ามามอบตัวในเวลา 09.00 น.พรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม หากตำรวจเจอตัวก็จะต้องจับกุม แต่คงไม่ถึงขนาดนำกำลังไปค้นบ้าน เรื่องแบบนี้คงไม่มี ซึ่งในการเข้ามอบตัวของนายสนธิ ทางตำรวจได้เตรียมสถานที่หน้าห้องทำงานของตน และจัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้รอพร้อมแล้ว

"ต้องรอดูพรุ่งนี้ แต่ว่า คนอย่างอัศวิน มีมาตรฐานเดียว" พล.ต.ท.อัศวินกล่าวปนเสียงหัวเราะเมื่อถูกถามว่า จะมีการคัดค้านการประกันตัวเหมือนกรณีดา ตอร์ปิโดหรือไม่

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า กรณีนี้ดำเนินการเหมือนกับกรณีของ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ และน.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” สมาชิกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่ไม่ได้ออกหมายเรียกก่อน เพราะหากพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกก่อนก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมขั้นต้น คือการสอบสวน โดยดุลพินิจของพนักงานสอบสวนเพียงอย่างเดียว ซึ่งตามกฎหมาย คดีนี้มีโทษจำคุกเกิน 3 ปี พนักงานสอบสวนสามารถใช้อำนาจของศาลซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นกลาง พิจารณาผู้ถูกกล่าวหาเพื่อนำเข้าสู่ขบวนการสอบสวนได้ ซึ่งการออกหมายจับและหมายเรียกถือเป็นขั้นตอนเดียวกัน เพียงแต่การออกหมายจับศาลจะเป็นผู้พิจารณาจากหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมส่งให้เท่านั้น

"กรณีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นตำรวจสามารถใช้ดุลพินิจในการออกหมายเรียก มาด้วยตนเองเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนได้ทันที โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าตำรวจจะใส่ร้ายกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะสังคมไม่มีความคลางแคลงใจในการดำเนินคดีนี้ แต่กรณีของ นายสนธิ นายสมเกียรติ และน.ส.ดารณี นั้นถ้าตำรวจออกหมายเรียกโดยใช้ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนเพียงอย่างเดียวก็อาจถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งผู้ถูกกล่าวหา จึงเลือกวิธีออกหมายจับโดยให้ศาลใช้ดุลพินิจตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้สังคมคลางแคลงใจในการดำเนินคดีของตำรวจ" พล.ต.ต.สุรพล กล่าว
พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.
กำลังโหลดความคิดเห็น