พระวัดปรกเกิดอาการทางประสาทกำเริบ คลั่งคว้าเหล็กไล่ฟาดชาวบ้าน ทำลายข้าวของ ตร.ยิงขึ้นฟ้าขู่ก็ไม่กลัว แถมยังท้าให้ยิงใส่ ก่อนจะหนีเข้ากุฏิไปขังตัวเอง สุดท้ายต้องใช้ถังดับเพลิงฉีดใส่เข้าไปถึงยอมออกมาให้จับตัว
เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (21 ก.ค.) ขณะที่ ร.ต.ท.ประสิทธิ์ กัณหา หัวหน้าสายตรวจ สน.ยานนาวา กำลังออกปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้รับแจ้งว่ามีพระภิกษุคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของและพยายามทำร้ายร่างกายผู้อื่นภายในวัดปรก ตั้งอยู่ถนนจันทร์ แขวงวัดดอน เขตยานนาวา กทม.จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบพระสหาย จำปาทอง อายุ 45 ปี พระลูกวัดดังกล่าว ยืนโวยวายเสียงดังลั่น พร้อมกับใช้ท่อนเหล็กฟาดทำลายข้าวของภายในวัดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปเกลี้ยกล่อมแต่ไม่เป็นผล โดย ด.ต.ปรีชา ผบ.หมู่ ป.สน.ยานนาวา ถูกคมมีดพระสหายพกไว้เฉี่ยวเครื่องแบบจนขาด อีกทั้งยังถูกตีด้วยเหล็กตีจนฟกช้ำ ทำให้ด.ต.ปรีชา ต้องใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าไป 2 นัด เพื่อขู่ให้พระสหายเกิดอาการกลัว แต่พระสหายกลับยืนตัวตรง แล้วพูดท้าให้เจ้าหน้าที่ตำใส่อีกด้วย
หลังจากนั้น พระสหายได้วิ่งเข้าไปภายในกุฏิก่อนจะล็อกลอนขังตัวเองอยู่ในนั้น เจ้าหน้าที่จึงวิทยุเรียกกำลังเสริม พร้อมหน่วยกู้ภัยมาที่เกิดเหตุ ก่อนจะพยายามเกลี้ยกล่อมอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้สารเคมีดับเพลิงฉีดเข้าไปในกุฏิ จนทำให้พระสหายต้องวิ่งออกมา เจ้าหน้าที่จึงรับเข้าชาร์จตัวไว้ได้ ก่อนจะนำตัวพระสหายส่งไปที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาเพื่อรักษาอาการทางจิตต่อไป
จากการสอบถามพระครูวิมลชัยธรรม หรือพระอาจารย์วิชาญ เจ้าอาวาสวัดปรก เปิดเผยว่า พระสหายจำวัดอยู่ที่วัดมาประมาณ 20 พรรษาแล้ว โดยก่อนหน้านี้ก็มีอาการคลุ้มคลั่งอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ได้ทำลายข้าวของหรือทำร้ายใคร จนเมื่อ 2 ปีก่อน อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา และต้องกินยาอยู่ตลอด เมื่อหมดฤทธิ์ยาก็จะเกิดอาการคลุ้มคลั่งอีก แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง เพราะใช้เหล็กไล่ทำร้ายคนอื่นและทำลายข้างของด้วย ซึ่งถือว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส