2 ผู้ต้องหายิงแสกหน้า “สำลี ใหญ่อิ่ม” ที่ยกพวกบุกรื้อตลาดซันเดย์ ดอดมอบตัวสู้คดี ตำรวจสอบเครียดหลายชั่วโมง เจ้าตัวยังปฏิเสธทุกข้อหา บอกขอให้การชั้นศาลเท่านั้น แต่ผู้กำกับยันหลักฐานแน่นเอาผิดได้แน่นอน
วันนี้ (19 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายสำลี ใหญ่อิ่ม อายุ 50 ปี พากลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 50 คนบุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินของกลุ่มผู้ค้าภายในตลาดซันเดย์ จนได้รับความเสียหาย แต่เจ้าตัวกลับถูกยิงแสกหน้าจนเสียชีวิตคาที่ โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งเป้ามือปืนไปที่คนเฝ้าตลาดดังกล่าว
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ สน.บางซื่อ นายพัฒนพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 ม.4 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และนายนิมิตร ทองเพ็ชร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.2 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ทั้งสองเป็นคนเฝ้าตลาดนัดซันเดย์ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญารัชดา เลขที่ 2182-83/2551 ลงวันที่ 14 ก.ค.51 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปชุมชน หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามฆ่าผู้อื่น ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 และ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผกก.สน.บางซื่อ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า บุคคลทั้ง 2 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ นายสำลี ใหญ่อิ่ม อายุ 50 ปี หัวหน้ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าไปรื้อถอดตลาดนัดซันเดย์ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงทำการรวบรวมเอกสารหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองจากศาลอาญา เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังจากผู้ต้องหาทั้งสองคนเข้ามอบตัว พล.ต.ต.วรศักดิ์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวไปสอบสวน ซึ่งทั้งสองยังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับการเสียชีวิตของ นายสำลี และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น เพื่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม และที่เข้ามอบตัวในวันนี้เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งหลังสอบปากคำจนถึงเวลา 11.00 น. พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งสองไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาฯ โดยไม่ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองได้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง เจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วไม่มีเจตนาที่จะหลบหนี
ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลาพอสมควรในการรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองได้ในวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่สายสืบออกติดตามจับกุม และกดดันทุกพื้นที่ จนกระทั่งผู้ต้องหาทั้งสองได้เดินทางมามอบตัวในวันนี้ และถึงแม้ผู้ต้องหาทั้งสองจะให้การปฏิเสธ บอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายสำลี แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ สามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งสองได้ ซึ่งต้องต่อสู้คดีกันในชั้นศาลต่อไป