“สมเกียรติ” มอบตัวสู้คดีหมิ่นฯ ก่อนใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวออกมา นัดสอบเพิ่มอีก 16 ส.ค. ชี้ตำรวจเลือกปฏิบัติออกหมายจับโดยไม่ออกหมายเรียก ต่างจากคดี “เพ็ญ” ที่ทำเชื่องช้า ทนายเชื่อไม่พาดพิงสถาบัน สกรีนก่อนขึ้นเวทีทุกครั้ง เตรียมฟ้องกลับฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น.ที่ สน.นางเลิ้ง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วย นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายนิติธร ล้ำเหลือ กรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความแห่งประเทศไทย และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายกู้ชาติ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ท.ดำรงพงศ์ เพชรสุวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.นางเลิ้ง ซึ่งได้ออกหมายจับนายสมเกียรติในกรณีที่นายธนชาติ แสงประดับธรรมโชติ เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2551 โดยกล่าวหานายสมเกียรติขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ มีการกล่าวพาดพิง ดูหมิ่น สถาบันกษัตริย์ มีความผิดตามประมวล ป.อาญา มาตรา 112 โดยนำเทปการกล่าวปราศรัย ภาพถ่าย ภาพวิดีโอ มอบตำรวจเป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ตำรวจได้นำนายสมเกียรติพร้อมทนายมาสอบปากคำในห้องสอบสวน พร้อมได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือโดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้น นายสมเกียรติ จึงได้ใช้ตำแหน่ง ส.ส.ขอยื่นประกันตัวออกมาได้ และตำรวจยังได้นัดนายสมเกียรติมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกในวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยตลอดการสอบสวน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ได้มาคอยสังเกตการณ์อยู่ภายในห้องสอบสวนอย่างใกล้ชิดด้วย
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขอบคุณตำรวจที่ทำคดีนี้ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับคดีของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน อย่างไรก็ตามจะขอพูดเกี่ยวกับคดีให้น้อยที่สุด เนื่องจากเป็นที่น่าสังเกตว่าพนักงานสอบสวนนี้เร็วมาก โดยไม่ได้ออกหมายเรียกมาก่อน แต่วันนี้กลับมาออกหมายจับเลยทันที
ด้าน นายสุวัตร กล่าวว่า ถ้าคดีนี้มีเหตุได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการโดยไม่ถูกไม่ควรก็จะดำเนินการฟ้องกลับในทันที ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่านายสมเกียรติไม่ได้พูดพาดพิงถึงสถาบันในการปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ เนื่องจากทุกครั้งก่อนที่ 5 แกนนำพันธมิตรฯ จะขึ้นปราศรัยบนเวทีก็จะต้องมีการตรวจสอบก่อนตลอด
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น.ที่ สน.นางเลิ้ง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วย นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายนิติธร ล้ำเหลือ กรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความแห่งประเทศไทย และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายกู้ชาติ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ท.ดำรงพงศ์ เพชรสุวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.นางเลิ้ง ซึ่งได้ออกหมายจับนายสมเกียรติในกรณีที่นายธนชาติ แสงประดับธรรมโชติ เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2551 โดยกล่าวหานายสมเกียรติขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ มีการกล่าวพาดพิง ดูหมิ่น สถาบันกษัตริย์ มีความผิดตามประมวล ป.อาญา มาตรา 112 โดยนำเทปการกล่าวปราศรัย ภาพถ่าย ภาพวิดีโอ มอบตำรวจเป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ตำรวจได้นำนายสมเกียรติพร้อมทนายมาสอบปากคำในห้องสอบสวน พร้อมได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือโดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้น นายสมเกียรติ จึงได้ใช้ตำแหน่ง ส.ส.ขอยื่นประกันตัวออกมาได้ และตำรวจยังได้นัดนายสมเกียรติมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกในวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยตลอดการสอบสวน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ได้มาคอยสังเกตการณ์อยู่ภายในห้องสอบสวนอย่างใกล้ชิดด้วย
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขอบคุณตำรวจที่ทำคดีนี้ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับคดีของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน อย่างไรก็ตามจะขอพูดเกี่ยวกับคดีให้น้อยที่สุด เนื่องจากเป็นที่น่าสังเกตว่าพนักงานสอบสวนนี้เร็วมาก โดยไม่ได้ออกหมายเรียกมาก่อน แต่วันนี้กลับมาออกหมายจับเลยทันที
ด้าน นายสุวัตร กล่าวว่า ถ้าคดีนี้มีเหตุได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการโดยไม่ถูกไม่ควรก็จะดำเนินการฟ้องกลับในทันที ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่านายสมเกียรติไม่ได้พูดพาดพิงถึงสถาบันในการปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ เนื่องจากทุกครั้งก่อนที่ 5 แกนนำพันธมิตรฯ จะขึ้นปราศรัยบนเวทีก็จะต้องมีการตรวจสอบก่อนตลอด
