xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก! “เตมูจิน” 6 เดือน หมิ่น “เนวิน” ปูดข่าวต้าน คมช.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายชนาพัทธ์  ณ  นคร เจ้าของฉายา  เตมูจิน  อดีตประธานกลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ศาลตัดสินจำคุก “เตมูจิน” อดีตประธานกลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 6 เดือน ฐานหมิ่น “ยี้ห้อย” กล่าวหาให้เงิน 10 ล้าน สนับสนุนกลุ่มคนวันเสาร์ฯ ต่อต้าน คมช. ชี้พยานหลักฐานไม่มีน้ำหนัก เชื่อจำเลยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์จริง พิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท ไม่เคยต้องโทษจึงให้รอลงอาญา 2 ปี

วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 708 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชนาพัทธ์ ณ นคร เจ้าของฉายาเตมูจิน อดีตประธานกลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีที่จำเลยให้สัมภาษณ์กล่าวหานายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นผู้สนับสนุนเงินจำนวน 10 ล้านบาท ให้กับนายสุดชาย บุญชัย อดีตแกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลทหาร รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์จำเลยแล้วเห็นว่า โจทก์มีผู้รับมอบอำนาจ คือ ไทจุฑาเกตุ ทนายความ และผู้เสียหายที่ 2 คือ นายสุดชาย บุญชัย เบิกความสอดคล้องกันว่า จำเลยให้สัมภาษณ์ข้อความอันเป็นเท็จและไม่เคยรับเงินมาเคลื่อนไหวทางการเมือง คำให้สัมภาษณ์ของจำเลยทำให้ คมช. และประชาชนทั่วไปเกลียดชัง ผู้เสียหายทั้ง 2 ทั้งนี้ โจทก์มีนายไพทูรย์ สุนทร บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เบิกความยืนยันว่าจำเลยให้สัมภาษณ์จริง

เห็นว่าแม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แต่โจทก์มี พ.ต.ท.วัชรินทร์ วารินทร์หอมหวน พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เบิกความรับว่าจำเลยยอมรับว่าให้สัมภาษณ์จริง โดยมีการบันทึกคำให้การ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาให้ทราบ และจำเลยลงลายมือชื่อไว้ โดยจำเลยอ้างว่าระหว่างให้การต่อพนักงานสอบสวน ได้มีเพื่อนซึ่งเป็นนักกฎหมาย โทรศัพท์เข้ามาเตือนว่าจะพูดอะไรให้ระวังไว้ ดังนั้น จำเลยจึงไม่ทันที่จะได้อ่านข้อความโดยละเอียดจึงลงลายมือชื่อไว้ และรีบเดินทางกลับไป เห็นว่า พ.ต.ท.วัชรินทร์ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับ คู่ความทั้ง 2 ฝ่าย และไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงไม่น่าเชื่อว่าจะกลั่นแกล้งใส่ความจำเลย

เมื่อวิเคราะห์กับการศึกษาของจำเลยแล้วพบว่าจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ และเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งน่าที่จะใช้ถ้อยคำและระมัดระวังในการพูดอีกทั้ง ควรตรวจดูเอกสารบันทึกคำให้การของพนักงานสอบสวนอย่างละเอียด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็มีการแจ้งสิทธิ์ให้จำเลยได้ทราบก่อนแล้ว จำเลยย่อมต้องมองเห็นข้อความบันทึกคำให้การ หากไม่เป็นจริง ก็สามารถทักท้วงได้ มีเหตุให้เชื่อว่าจำเลยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์จริง

พยานหลักฐานของจำเลยไม่มีน้ำหนักที่จะหักล้างพยานโจทก์ได้ ทำให้ประชาชนทั่วไปที่ได้อ่านข้อความแล้ว ทำให้เชื่อว่านายสุดชายรับเงินจากนายเนวินมาใช้เคลื่อนไหวทางการเมือง ทำให้ผู้เสียหายถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 พิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท วิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้เป็นเวลา 2 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น