เศรษฐกิจตกต่ำ พ่อบังเกิดเกล้าลักพาลูกสาวเกิดจากอดีตเมีย จับไปซ่อนตัวอยู่ด้วยกันที่จังหวัดเลย เพื่อหลอกเอาเงินแสนจากอดีตเมีย หลงเชื่อดิ้นรนกู้หนี้เตรียมส่งมอบเงินให้ แต่ จนท.สงสัยพฤติกรรมผู้เป็นพ่อ จึงสืบสวนติดตามจับกุมได้คาหนังคาเขา สารภาพต้องการเงินไปเลี้ยงดูเมียน้อยให้สุขสบาย
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.ฝป.10 แถลงข่าวจับกุมพ่อจับลูกเรียกค่าไถ่ โดย พ.ต.ท.กิตติภพ อนุวงศ์วรเวทย์ สว.ฝป.บก.ปดส.นำกำลังจับกุม นายนายไส สีถิ่นวัน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.13 ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เอาตัวเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไป กรรโชกทรัพย์ และแจ้งความเท็จ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 38 ม.5 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาพร้อมด้วย นางจงรักษ์ บำเพ็ญ อดีตภรรยา อายุ 43 ปี เข้าร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวน บก.ปดส.ว่า ด.ญ.แนน (นามสมมติ) บุตรสาวหายตัวไป โดยหายไปขณะอยู่ที่ขนส่งหมอชิต โดยสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือของนางไก่ เมียน้อยนายไส และกิ๊กที่คบหาอยู่ของนางไก่ลักพาตัวไป เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัวนางไก่มาสอบสวน แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ ด.ญ.แนน นอกจากนี้ นางไก่ยังให้การที่น่าเชื่อถือว่า นายสีน่าจะเป็นคนร้ายที่สร้างสถานการณ์เพื่อเรียกเงินจากอดีตภรรยา
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ก.ค.นายไส ได้โทรศัพท์หานางคำและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คนร้ายให้ไปรับตัว ด.ญ.แนน ย่านพุทธมณฑลสาย 4 แต่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไป เมื่อไปถึงสถานที่นัดหมายกลับไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อกับนายไสได้ หลังจากนั้นนายไสโทร.กลับมาหานางคำอีกว่าถูกคนร้ายจับกุมตัวไปพร้อมบุตรสาว และให้นำเงินมาจ่ายค่าไถ่ตนและลูกจำนวน 1 แสนบาท หากไม่ทำตามจะถูกทำร้ายด้วยความเป็นห่วงลูก นางคำจึงกลับบ้านที่ จ. อุบลราชธานี เพื่อกู้ยืมเงินมาและจำนองที่นามาไถ่ตัวลูก ด้านเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสงสัยในพฤติกรรมนายไสมาตลอดจึงสืบสวนจนทราบว่าหลบหนีไปอยู่ ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายไสอยู่กับ ด.ญ.แนน ที่บ้านหลังดังหกล่าว จึงจับกุมตัวมาสอบสวน ทราบว่าวางแผนหลอกให้นางคำส่งลูกมาอยู่กับตนสักระยะแล้วเรียกค่าไถ่เพื่อนำเงินไปปรนเปรอเมียน้อย
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.ฝป.10 แถลงข่าวจับกุมพ่อจับลูกเรียกค่าไถ่ โดย พ.ต.ท.กิตติภพ อนุวงศ์วรเวทย์ สว.ฝป.บก.ปดส.นำกำลังจับกุม นายนายไส สีถิ่นวัน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.13 ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เอาตัวเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไป กรรโชกทรัพย์ และแจ้งความเท็จ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 38 ม.5 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาพร้อมด้วย นางจงรักษ์ บำเพ็ญ อดีตภรรยา อายุ 43 ปี เข้าร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวน บก.ปดส.ว่า ด.ญ.แนน (นามสมมติ) บุตรสาวหายตัวไป โดยหายไปขณะอยู่ที่ขนส่งหมอชิต โดยสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือของนางไก่ เมียน้อยนายไส และกิ๊กที่คบหาอยู่ของนางไก่ลักพาตัวไป เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัวนางไก่มาสอบสวน แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ ด.ญ.แนน นอกจากนี้ นางไก่ยังให้การที่น่าเชื่อถือว่า นายสีน่าจะเป็นคนร้ายที่สร้างสถานการณ์เพื่อเรียกเงินจากอดีตภรรยา
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ก.ค.นายไส ได้โทรศัพท์หานางคำและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คนร้ายให้ไปรับตัว ด.ญ.แนน ย่านพุทธมณฑลสาย 4 แต่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไป เมื่อไปถึงสถานที่นัดหมายกลับไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อกับนายไสได้ หลังจากนั้นนายไสโทร.กลับมาหานางคำอีกว่าถูกคนร้ายจับกุมตัวไปพร้อมบุตรสาว และให้นำเงินมาจ่ายค่าไถ่ตนและลูกจำนวน 1 แสนบาท หากไม่ทำตามจะถูกทำร้ายด้วยความเป็นห่วงลูก นางคำจึงกลับบ้านที่ จ. อุบลราชธานี เพื่อกู้ยืมเงินมาและจำนองที่นามาไถ่ตัวลูก ด้านเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสงสัยในพฤติกรรมนายไสมาตลอดจึงสืบสวนจนทราบว่าหลบหนีไปอยู่ ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายไสอยู่กับ ด.ญ.แนน ที่บ้านหลังดังหกล่าว จึงจับกุมตัวมาสอบสวน ทราบว่าวางแผนหลอกให้นางคำส่งลูกมาอยู่กับตนสักระยะแล้วเรียกค่าไถ่เพื่อนำเงินไปปรนเปรอเมียน้อย