ศาลนัดพิพากษา “ หญิงอ้อ - บรรณพจน์- เลขาส่วนตัวอ้อ ” เลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ 546 ล้าน 31 ก.ค.นี้ 09.00 น. หลังรับทราบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ ประกาศ คปค.ฉบับ 30 ไม่ขัด รธน. สั่งโจทก์ – จำเลย ยื่นคำแถลงปิดคดีภายใน 10 วัน
วันนี้ ( 4 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความในคดีหมายเลขดำที่ อ.1149/2550 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ อดีตประธานกรรมการบริหารชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมานเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 546 ล้านบาทจากหุ้นจำนวน 4.5 ล้านหุ้นซึ่งมีหุ้นมูลค่า 738 ล้านบาท โดยความเท็จ โดยฉ้อโกง โดยใช้กลอุบาย อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 (1) (2) และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91 เพื่อฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องอำนาจการสืบสวนคดีของ คตส.ประกาศ ตาม คปค.ฉบับที่ 30
โดยในวันนี้ จำเลยทั้ง 3 ไม่ได้เดินทางมาศาล มีเพียงทนายความที่ 1-3 เดินทางมาฟังคำสั่ง พร้อมกับ อัยการโจทก์ ซึ่งการนัดพร้อมคู่ความ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 พ.ค.หลังจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ขึ้นเบิกความเป็นพยานจำเลยปากสุดท้ายเสร็จแล้ว ศาลเห็นว่าคดีนี้มีปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 จึงให้รอนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาประกอบ ซึ่งวันนี้ศาลอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ โจทก์ – ทนายจำเลยทั้งสาม ฟังแล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 5/2551 ลง วันที่ 30 มิ.ย.51 ว่า ประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 เรื่อการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ไม่มีบทบัญญัติใดขัด หรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาคดี ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. โดยให้โจทก์ –จำเลย ยื่นคำแถลงปิดคดีภายใน 10 วัน นับจากวันนี้ หากไม่ยื่นภายในกำหนด ให้ถือว่าไม่ติดใจยื่นคำแถลงปิดคดี
ขณะที่นายเมธา ธรรมวิหาร ทนายความนาบรรณพจน์ กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมเขียนคำแถลงปิดคดีไว้ที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 26 มี.ค.50 โดยใช้โจทก์นำสืบพยานกว่า 30 ปาก ทั้งในส่วนของ คตส. อาทิ นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) , เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร , นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลังและอดีตอธิบดีกรมสรรพากร อดีตปลัดกระทรวงการคลัง, น.ส.ปนัดดา พ่วงพลับ คณะกรรมการพิจารณาวินัย กระทรวงคลัง และเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ ขณะที่ฝ่ายจำเลย นำสืบพยานร่วม 20 ปาก ต่อสู้คดี โดยมีนายบรรณพจน์ คุณหญิงพจมาน และนางกาญจนาภา จำเลยทั้งสาม ขึ้นเบิกความ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร และ อดีตเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ซึ่งจำเลยทั้งสาม ต่างยืนกรานให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
วันนี้ ( 4 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความในคดีหมายเลขดำที่ อ.1149/2550 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ อดีตประธานกรรมการบริหารชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมานเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 546 ล้านบาทจากหุ้นจำนวน 4.5 ล้านหุ้นซึ่งมีหุ้นมูลค่า 738 ล้านบาท โดยความเท็จ โดยฉ้อโกง โดยใช้กลอุบาย อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 (1) (2) และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91 เพื่อฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องอำนาจการสืบสวนคดีของ คตส.ประกาศ ตาม คปค.ฉบับที่ 30
โดยในวันนี้ จำเลยทั้ง 3 ไม่ได้เดินทางมาศาล มีเพียงทนายความที่ 1-3 เดินทางมาฟังคำสั่ง พร้อมกับ อัยการโจทก์ ซึ่งการนัดพร้อมคู่ความ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 พ.ค.หลังจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ขึ้นเบิกความเป็นพยานจำเลยปากสุดท้ายเสร็จแล้ว ศาลเห็นว่าคดีนี้มีปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 จึงให้รอนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาประกอบ ซึ่งวันนี้ศาลอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ โจทก์ – ทนายจำเลยทั้งสาม ฟังแล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 5/2551 ลง วันที่ 30 มิ.ย.51 ว่า ประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 เรื่อการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ไม่มีบทบัญญัติใดขัด หรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาคดี ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. โดยให้โจทก์ –จำเลย ยื่นคำแถลงปิดคดีภายใน 10 วัน นับจากวันนี้ หากไม่ยื่นภายในกำหนด ให้ถือว่าไม่ติดใจยื่นคำแถลงปิดคดี
ขณะที่นายเมธา ธรรมวิหาร ทนายความนาบรรณพจน์ กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมเขียนคำแถลงปิดคดีไว้ที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 26 มี.ค.50 โดยใช้โจทก์นำสืบพยานกว่า 30 ปาก ทั้งในส่วนของ คตส. อาทิ นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) , เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร , นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลังและอดีตอธิบดีกรมสรรพากร อดีตปลัดกระทรวงการคลัง, น.ส.ปนัดดา พ่วงพลับ คณะกรรมการพิจารณาวินัย กระทรวงคลัง และเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ ขณะที่ฝ่ายจำเลย นำสืบพยานร่วม 20 ปาก ต่อสู้คดี โดยมีนายบรรณพจน์ คุณหญิงพจมาน และนางกาญจนาภา จำเลยทั้งสาม ขึ้นเบิกความ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร และ อดีตเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ซึ่งจำเลยทั้งสาม ต่างยืนกรานให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา