ผู้สมัครนายกเล็กเมืองอรัญ ร้องสื่อให้ กกต.กลาง สอบทุจริต เลือกตั้งในพื้นที่ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมแฉหลักฐานพฤติการณ์กลโกง หลายรูปแบบ
วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิสุทธิ์ ศิริกำจร ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เข้าร้องคัดค้านผลเลือกตั้งผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองอรัญประเทศ ซึ่งทาง กกต.ได้ประกาศรับรองให้นายอนุสรณ์ ลักษณะละม้าย ผู้สมัครหมายเลข 1 ว่าได้มีพฤติการณ์ทุจริตการเลือกตั้ง โดยกระทำผิดพระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมนำหลักฐานการกระทำความผิด อาทิ ภาพถ่ายและเทปบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่สามารถบันทึกพฤติการณ์การทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นได้ ไปมอบให้ กกต.ตรวจสอบและเร่งสืบสวนสอบสวน พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่ากรรมการประจำหน่วย(กปน.)ในหน่วยดังกล่าวจะวางตัวไม่เป็นกลาง ไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม เอื้อประโยชน์ให้ผู้ได้รับการเลือกตั้ง เพราะผลการเลือกตั้งมีคะแนนห่างกันเพียง 400 คะแนนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์ซื้อสิทธิขายเสียงของผู้ได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งด้วย
หลังการร้องคัดค้านนายวิสุทธิ์เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่11 พ.ค.2551 เวลา 14.30 น. นายทอง ชินสมบูรณ์ ซึ่งเป็นหัวคะแนนของนายอนุสรณ์ ได้นำเงินสดจำนวน 500 บาท มาให้นางเพลิน อำพันธ์ ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เพื่อให้ไปลงคะแนนให้แก่นายอนุสรณ์ และบอกว่าเงินจำนวน 500 บาทดังกล่าวเป็นเงินของนายอนุสรณ์ ต่อมานางเพลินทราบจากเพื่อนบ้านว่านายอนุสรณ์ได้จ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งหัวละ 500 บาท นางเพลินจึงไปพบนายอนุสรณ์ และบอกกับนายอนุสรณ์ว่าครอบครัวของนางเพลินมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 3 คน แต่ทำไมจึงได้เงินในราคาเหมาแค่ 500 บาทเท่านั้น ซึ่งนายอนุสรณ์ได้แจ้งกับนางเพลินว่าจะจัดการให้ โดยรายละเอียดปรากฏตามเทปบันทึกภาพและเสียงพร้อมสิ่งที่ส่งไปให้ กกต.
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันหัวคะแนนของนายอนุสรณ์ยังนำเงินสดจำนวน 1,000 บาทไปแจกจ่ายให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายอื่นๆ ด้วย อีกทั้งยังมีหลักฐานทุจริตการลงคะแนนเลือกตั้งโดยนายวัชริน อรัญเจริญยิ่ง หนึ่งในทีมงานของผู้สมัครหมายเลข 1 และว่าที่รองนายกเข้าไปพูดจากับคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งในหน่วยดังกล่าวจนผิดสังเกต ขณะที่กำลังนำบัตรไปหย่อนในหีบรับบัตร โดยนายวัชรินได้คอยชี้แนะและกดดันผู้มาใช้สิทธิบริเวณรั้วของหน่วยเลือกตั้ง นอกจากนี้ นายวัชรินยังมีการส่งสิ่งของบางอย่างและมีการข่มขู่ช่างภาพจนไม่สามารถทำงานได้นอกจากนี้ยังข่มขู่กับช่างภาพสื่อมวลชนท้องถิ่นรายหนึ่งที่เข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวว่า “ลูกปืนราคาถูก” โดยมีพยานยืนยันจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีหลักฐานภาพถ่ายและเทปบันทึกภาพที่นำมาแสดงต่อผู้สื่อข่าวพบว่า มีการใช้สิทธิเลือกตั้ง 2 หน่วย โดยกรรมการหน่วยรู้เห็นเป็นใจอีกด้วย
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า การร้องคัดค้านครั้งนี้ต้องการให้ กกต.ให้ความเป็นธรรมกับสิ่งที่ปรากฏอีกทั้งยังต้องการให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวในหน่วยเลือกตั้งอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่เฉพาะในหน่วยเลือกตั้งแห่งนี้ที่เดียวเพราะเชื่อว่าจะมีการระทำลักษณะเช่นนี้อย่างแน่นอน และต้องการให้ตรวจสอบการทำงานของพนักงานสืบสวนของสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง จ.สระแก้ว ที่โทรศัพท์ไปข่มขู่พยานทำให้พยานเกิดความกลัวไม่กล้าให้ปากคำถือว่าเป็นการขัดขวางต่อขบวนการสืบสวนตามที่กำหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการเลือกตั้งและถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกด้วย