“เสี่ยอู๊ด” สั่งห้ามญาติเยี่ยมยกเว้นทนายความกับลูกน้องคนสนิท ส่วนความเป็นอยู่ไม่มีปัญหา ขณะที่เรือนจำจังหวัดชลบุรีพบยัดยาเสพติดใส่ท้องคางคกปาเข้าคุก อธิบดีราชทัณฑ์สั่งสร้างรั้วกั้นอีกชั้น
วันนี้ (25 มิ.ย.) นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีนายสิทธิกร บุญฉิม หรือ “เสี่ยอู๊ด” อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน จากการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว และศาลไม่อนุญาตให้ประกัน จนต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า จนถึงขณะนี้นายสิทธิกรยังคงใช้ชีวิตในเรือนจำร่วมกับผู้ต้องหารายอื่นได้ไม่มีปัญหาใดๆ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติคนใดเดินทางเข้าเยี่ยม ซึ่งนายสิทธิกรแจ้งกับเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าได้สั่งห้ามไม่ให้ญาติคนใดเดินทางมาเยี่ยม มีเพียงทนายความและลูกน้องคนสนิทเท่านั้นที่นายสิทธิกรอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้แต่ไม่ได้ระบุสาเหตุ สำหรับการยื่นอุทธรณ์เป็นขั้นตอนที่นายสิทธิกร และทนายความกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถเข้าไปของทราบได้เนื่องจากเป็นระเบียบที่ทนายความกับผู้ต้องขังสามารถหารือทางคดีได้โดยไม่ต้องเปิดเผยให้ผู้ควบคุมในเรือนจำทราบ
นายวันชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นักโทษของเรือนจำในต่างประเทศเลี้ยงนกพิราบเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับญาติในการส่งยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือผ่านนกพิราบเข้าไปในเรือนจำ ว่า ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังสอดส่องดูแลอยู่แล้ว เพราะผู้ต้องขังมักเปลี่ยนวิธีลักลอบนำเข้ายาเสพติดและโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำตลอดเวลา หลังจากนี้จะย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลการทำลังของนกทุกประเภทภายในเรือนจำด้วย อย่างไรก็ตามยังพบว่ามีความพยายามลักลอบนำยาเสพติดยัดเข้าไปในท้องคางคกที่ตายแล้วและโยนเข้ามาจากกำแพงเรือนจำที่เรือนจำจังหวัดชลบุรี โดยได้โยนมาในเวลากลางคืนแต่เจ้าหน้าที่ตรวจพบช่วงเช้าก่อนที่ผู้ต้องขังจะลงมาจากเรือนนอน ซึ่งวิธีนี้ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ตนจึงสั่งการให้ทางเรือนจำชลบุรีสร้างรั้วกั้นกำแพงเรือนจำอีกชั้นหนึ่งแล้วเพื่อป้องกันให้คนภายนอนเรือนจำเข้าใกล้กำแพงเรือนจำได้ยากขึ้น