คุก 22 เดือน ปรับ 1.6 หมื่น สาวเจ้าเนื้อแชตลวงขายบริการหนุ่มอารมณ์เปลี่ยว พฤติกรรมแสบยึดโทรศัพท์เหยื่อที่ไม่ร่วมหลับนอนด้วยก่อนกรรโชกทรัพย์ รับสารภาพศาลปรานีลดโทษเหลือ 11 เดือนปรับ 8 พัน โทษคุกรอลงอาญา 2 ปี
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.เขมจิรา หรือน้ำ ตันไพบูลย์ อายุ 27 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานโฆษณาชักชวนด้วยการกระทำให้แพร่หลายเพื่อการค้าประเวณี, หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ และพยายามกรรโชกทรัพย์
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 15 พ.ย.50 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 26-27 ก.ย.50 ต่อเนื่องกัน จำเลยทำการค้าประเวณีได้โฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไปทางอินเทอร์เน็ตแพร่หลายไปยังสาธารณะ เป็นการเรียกร้องการกระทำเพื่อสำเร็จความใคร่ในทางกามารมณ์ของผู้อื่น อันเป็นการสำส่อนเพื่อสินจ้างและเป็นการค้าประเวณีของจำเลยเอง ต่อมานายกิติชัย (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย ได้ติดต่อขอมีเพศสัมพันธ์กับจำเลย โดยนัดไปร่วมหลับนอนที่ห้องพักของจำเลย ห้องเลขที่ 389/93 เดอะแกรนด์คอนโดมิเนียม ซอยมหาดไทย แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.
โจทก์นำสืบด้วยว่า เมื่อผู้เสียหายเห็นรูปร่างของจำเลยที่อ้วนใหญ่ ไม่เหมือนที่โฆษณาไว้ในอินเทอร์เน็ตจึงจะขอตัวกลับ จำเลยไม่ยอมให้กลับ อ้างว่าได้เปิดแอร์รอไว้แล้ว ก่อนจะกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้เสียหายไว้ในห้อง โดยยืนขวางประตูห้องพักไม่ยอมให้ ผู้เสียหายออกไปจนกว่าผู้เสียหายจะยอมมีเพศสัมพันธ์กับจำเลย และเสียค่าบริการเสียก่อน จนผู้เสียหายต้องทำทีเป็นยอมร่วมหลับนอนด้วย จนจำเลยตายใจ ผู้เสียหายจึงรีบวิ่งหนีออกจากห้อง โดยที่จำเลยคว้าโทรศัพท์พีซีทีของผู้เสียหายไว้ จากนั้นจำเลยได้ขู่ให้ผู้เสียหายนำเงินจำนวน 500 บาท มาแลกเป็นค่าไถ่โทรศัพท์ แล้วจำเลยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และเสรีภาพของผู้เสียหายถ้าไม่ยินยอมให้เงินแก่จำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 7 จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิเคราะห์ประกอบการสืบเสาะประวัติของจำเลยแล้วเห็นว่า จากพฤติกรรมของจำเลยมีการค้าบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยจำเลยไม่เคยรู้จัก หรือมีเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน ซึ่งผู้เสียหายไม่ติดใจในความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหาย ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยมีพฤติกรรมโฆษณาชักชวนด้วยการกระทำให้แพร่หลายเพื่อการค้าประเวณีจริงตามฟ้องโจทก์
พิพากษาให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามกรรโชกทรัพย์ จำคุก 1 ปี 4 เดือน ปรับ 6,000 บาท ฐาน โฆษณาชักชวนด้วยการกระทำให้แพร่หลายเพื่อการค้าประเวณี ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 11 เดือน ปรับ 8,000 บาท จำเลยไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง มีกำหนด 1 ปี และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
แอบเมียนัดสาวเน็ตเล่นเสียว กลับเจอสาวตุ้ยนุ้ยข่มขู่ วิ่งโร่ฟ้องตำรวจตามรวบตัว
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.เขมจิรา หรือน้ำ ตันไพบูลย์ อายุ 27 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานโฆษณาชักชวนด้วยการกระทำให้แพร่หลายเพื่อการค้าประเวณี, หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ และพยายามกรรโชกทรัพย์
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 15 พ.ย.50 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 26-27 ก.ย.50 ต่อเนื่องกัน จำเลยทำการค้าประเวณีได้โฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไปทางอินเทอร์เน็ตแพร่หลายไปยังสาธารณะ เป็นการเรียกร้องการกระทำเพื่อสำเร็จความใคร่ในทางกามารมณ์ของผู้อื่น อันเป็นการสำส่อนเพื่อสินจ้างและเป็นการค้าประเวณีของจำเลยเอง ต่อมานายกิติชัย (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย ได้ติดต่อขอมีเพศสัมพันธ์กับจำเลย โดยนัดไปร่วมหลับนอนที่ห้องพักของจำเลย ห้องเลขที่ 389/93 เดอะแกรนด์คอนโดมิเนียม ซอยมหาดไทย แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.
โจทก์นำสืบด้วยว่า เมื่อผู้เสียหายเห็นรูปร่างของจำเลยที่อ้วนใหญ่ ไม่เหมือนที่โฆษณาไว้ในอินเทอร์เน็ตจึงจะขอตัวกลับ จำเลยไม่ยอมให้กลับ อ้างว่าได้เปิดแอร์รอไว้แล้ว ก่อนจะกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้เสียหายไว้ในห้อง โดยยืนขวางประตูห้องพักไม่ยอมให้ ผู้เสียหายออกไปจนกว่าผู้เสียหายจะยอมมีเพศสัมพันธ์กับจำเลย และเสียค่าบริการเสียก่อน จนผู้เสียหายต้องทำทีเป็นยอมร่วมหลับนอนด้วย จนจำเลยตายใจ ผู้เสียหายจึงรีบวิ่งหนีออกจากห้อง โดยที่จำเลยคว้าโทรศัพท์พีซีทีของผู้เสียหายไว้ จากนั้นจำเลยได้ขู่ให้ผู้เสียหายนำเงินจำนวน 500 บาท มาแลกเป็นค่าไถ่โทรศัพท์ แล้วจำเลยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และเสรีภาพของผู้เสียหายถ้าไม่ยินยอมให้เงินแก่จำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 7 จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิเคราะห์ประกอบการสืบเสาะประวัติของจำเลยแล้วเห็นว่า จากพฤติกรรมของจำเลยมีการค้าบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยจำเลยไม่เคยรู้จัก หรือมีเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน ซึ่งผู้เสียหายไม่ติดใจในความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหาย ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยมีพฤติกรรมโฆษณาชักชวนด้วยการกระทำให้แพร่หลายเพื่อการค้าประเวณีจริงตามฟ้องโจทก์
พิพากษาให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามกรรโชกทรัพย์ จำคุก 1 ปี 4 เดือน ปรับ 6,000 บาท ฐาน โฆษณาชักชวนด้วยการกระทำให้แพร่หลายเพื่อการค้าประเวณี ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 11 เดือน ปรับ 8,000 บาท จำเลยไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง มีกำหนด 1 ปี และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
แอบเมียนัดสาวเน็ตเล่นเสียว กลับเจอสาวตุ้ยนุ้ยข่มขู่ วิ่งโร่ฟ้องตำรวจตามรวบตัว