ลอบกัด! รถผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ถูกมือชั่วแอบราดน้ำมันเบรกหลายคัน

ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯเซ็ง! ถูกมือชั่ว ลอบกัดเอาน้ำมันเบรกสาดใส่รถยนต์ ขณะจอดไว้บริเวณลานพระบรมรูป จนเสียหายไปหลายคัน ตำรวจยังงงเหมือนเคย ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร คิดได้แค่ฝากเตือนไม่ให้ขับรถยนต์มาฟัง


วันนี้ (22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 01.00 น.พ.ต.ต.ธันยวัต ชวาฤทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.ดุสิต รับแจ้งเหตุรถยนต์ของประชาชนถูกน้ำมันเบรกสาดใส่ตัวรถได้รับความเสียหาย ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า แขวงและเขตดุสิต กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า มีรถยนต์ของประชาชนที่มาจอดเพื่อฟังการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจอดอยู่จำนวนหลายคัน พบรถยนต์จำนวน 14 คัน ถูกน้ำมันเบรกสาดที่บริเวณตัวรถยนต์ทำให้ตัวรถมีคราบน้ำมันติด และกัดสีรถยนต์จนได้รับความเสียหาย

นายจักริน ขุนชู อายุ 35 ปี เจ้าของรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน ภว 8164 กทม.กล่าวว่า ตนขับรถยนต์มาจอดที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่ช่วงเวลา 06.00 น. เพื่อมาฟังการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น.ตนได้กลับมาที่รถจะเดินทางกลับบ้าน ก็พบว่า รถถูกน้ำมันเบรกสาดใส่ที่ด้านซ้ายของรถทั้งแถบ คาดว่า น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรง

นางพิมพ์รดา รุ่งเศวตวิวัฒน์ อายุ 34 ปี เจ้าของรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน ษฐ 8055 กทม.กล่าวว่า ตนขับรถมาจากบ้านเพื่อที่จะมาฟังการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยได้ขับรถมาจอดที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่เวลา 20.00 น.จนกระทั่งตนจะเดินทางกลับบ้านก็ได้เดินมาที่บริเวณที่จอดรถ เมื่อมาถึงที่รถรู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะรถถูกสาดน้ำมันเบรกด้านฝั่งคนขับจนเลอะเทอะได้รับความเสียหาย คาดว่า น่าจะเป็นฝีมือของฝ่ายตรงข้าม หรือกลุ่มมือที่ 3 ที่เข้ามาก่อความวุ่นวาย

ด้าน พ.ต.ต.ธันยวัต กล่าวว่า เบื้องต้นมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความทั้งหมด จำนวน 3 ราย เพื่อนำหลักฐานไปให้กับบริษัทประกันรถยนต์ คือ นายถาวร มินทวงศ์ เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ษ 6869 กทม.และ นางปรีมล ลุยจันทร์ อายุ 32 ปี เจ้าของรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ณง 8803 แต่บางรายไม่ได้เดินทางมาแจ้งความ เพราะเห็นว่ามาแจ้งความก็ไม่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้และต้องรีบเดินทางกลับบ้าน จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณที่ผู้เสียหายจอดรถไม่มีกล้องวงจรปิด และขณะเกิดเหตุก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ทำให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ยาก

“อยากฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนที่จะเดินทางมาฟังการปราศรัยของพันธมิตรฯ ว่า ไม่ควรขับรถยนต์มาและไม่ควรนำทรัพย์สินมีค่าติดตัวมาจำนวนมาก เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นใคร บางทีอาจจะเป็นการกลั่นแกล้งกันในเรื่องส่วนตัว หรืออาจจะเป็นมือที่ 3 ที่เข้ามาก่อความวุ่นวาย ประชาชนจึงต้องป้องกันตัวเองด้วยเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มดังกล่าว” พ.ต.ต.ธันยวัต กล่าว