จารบุรุษ
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความห่วงใยมาด้วยจิตคารวะ แด่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เคลื่อนพลบุกยึดรอบบริเวณทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายใต้แผนบัญชาการ"สงครามเก้าทัพ" โดยตำรวจ 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย ส.ต.ต.หญิง พรพิรุณ โตกำจร ผบ.หมู่ บก.สอ.บช.ตชด. ค่ายนเรศวร แขนขวาหัก จ.ส.ต.พจนา แก้วเกษศรี ผบ.หมู่ บก.สอ.บช.ตชด. ค่ายนเรศวร ข้อศอกซ้ายแตก จ.ส.ต.คมสัน ศรีคำ ผบ.หมู่ ป. สน.บางนา และ จ.ส.ต.ศราวุธ เลิศพร ผบ.หมู่ ป. สน.ลุมพินี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ในการเคลื่อนขบวนจากสะพานมัฆวานรังสรรค์สู่ทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรฯ "ทัพหน้า" ซึ่งนำโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ได้เคลื่อนพลเข้ามาทางถนนนครปฐม ผ่านหน้าวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และสามารถ"อารยะขัดขืน" ฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปบริเวณถนนพิษณุโลก แตะประตูทำเนียบรัฐบาลได้เป็นกลุ่มแรก!
ตรงบริเวณที่กลุ่มพันธมิตรฯ ทัพหน้า อารยะขัดขืนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นั้น เมื่อสังเกตการรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี ดูเหมือนจะมีเพียง 2 ช่องที่ทำการออกอากาศสด คือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่ต้องยอมรับว่า บัดนี้ คือทีวีสาธารณะอย่างแท้จริง มีการรายงานทั้งภาพและเสียงอย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่สถานีโทรทัศน์ NBT หรือช่อง 11 เดิม ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งถือเป็นสถานีโทรทัศน์ของประเทศไทย ได้ส่งผู้สื่อข่าวไปรายงานสถานการณ์อยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาลด้วย และผู้สื่อข่าว NBT ที่รายงานสถานการณ์อยู่ตรงบริเวณนั้น คือ คุณรัชนีวรรณ ดวงแก้ว อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวการเมือง ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ที่ต้องขอเอ่ยนามถึง"รัชนีวรรณ" ก็เพราะเมื่อได้ดูการรายงานสดของเธอแล้ว มันให้ติดขัดหัวใจยังไงชอบกลนัก
การรายงานสถานการณ์ของ"รัชนีวรรณ"ในครั้งนั้น ท่าทีค่อนข้างแข็งกร้าว มาดมั่น แต่นี่ก็คือบุคลิกของเธอตั้งแต่อยู่ไอทีวีมาแล้ว แต่การรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้บุกฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามาแล้ว ส่งผลให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ และเธอก็ย้ำอยู่อย่างนั้นว่า การบุกของพันธมิตรฯ ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ มีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการบุกของพันธมิตรฯ ปะหนึ่งเพื่อต้องการให้เห็นว่า การกระทำของพันธมิตรฯนั้นช่างป่าเถื่อนเสียเหลือเกิน
อยากจะอ่านผ่านแววตาของ"รัชนีวรรณ" ที่เสมือนหนึ่งมีความเคียดแค้นชิงชังในกลุ่มพันธมิตรฯยิ่งนัก โดยเฉพาะแกนนำพันธมิตรฯที่ชื่อ"สนธิ ลิ้มทองกุล" ที่เมื่อครั้ง คมช.เข้าปกครองประเทศ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ออกมาตีแผ่ว่า "ไอทีวี" เบี้ยวหรือโกงค่าสัมปทานของรัฐ จนส่งผลให้ สถานะของผู้สื่อข่าวไอทีวี ในขณะนั้นต้อง"ตกงาน" และน้ำตาแทบจะท่วมจอไอทีวี แต่หลังจากการร่ำไห้กันท่วมจอจนคนทั้งประเทศเกิดความสงสารแล้ว ถัดจากนั้นเพียงไม่กี่วัน มีนักข่าวไอทีวีกลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับเงินชดเชย พากันไปปิดผับแถวหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ฉลองกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ไม่รู้ว่าเสียใจหรือดีใจที่ต้อง"ตกงาน"
อดีตคนไอทีวีรู้ดีว่า รัชนีวรรณ เป็นคนเช่นไร จากกรณี"ขบถไอทีวี" ที่พวกเขาไม่ยอมก้มหัวให้กับนายทุนตระกูลชิน แต่รัชนีวรรณ ก็ยังคงอยู่ที่ไอทีวีจนเฮือกสุดท้าย และในที่สุด ก็ได้รับเศษอานิสงส์จากการที่ได้รับใช้ตระกูลชิน เข้ามาสังกัด NBT ภายใต้บังคับบัญชาของ"จักรภพ เพ็ญแข" อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงไม่แปลกเลย ที่รัชนีวรรณ ได้รายงานสถานการณ์บริเวณที่ทัพหน้าของพันธมิตรฯ บุกเข้าไปถึงทำเนียบรัฐบาล ด้วยการย้ำและย้ำอีกว่า "มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ ๆ"
ถามว่า การที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นความผิดของพันธมิตรฯ หรือไม่ ด้วยตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการผลักและดัน ไม่ใช่เจตนาที่จ้องทำร้ายร่างกาย โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งที่ นปก. หรือพวกนรกป่วนกรุง ยกพวกไปบุกบ้านสี่เสาเทเวศน์เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 นั่นคือการจงใจทำร้ายร่างกายตำรวจต่างหาก เพราะมีตำรวจได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คน
แม้ประเด็นนี้ จะเป็นเพียงประเด็นเล็กน้อย แต่การรายงานที่มีเจตนาบิดเบือนอยู่ภายในใจ ที่แพร่ภาพและเสียงไปให้ประชาชนทั่วประเทศรับรู้ มันก็ส่งผลสะท้อนกลับไปยังผู้บริหาร NBT แล้วว่า ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อสถานี เปลี่ยนโลโก้ ปรับเปลี่ยนลุคใหม่แล้ว แต่ธาตุแท้ก็ยังคงเดิม เพราะเป็นเพียงแค่ "เบ๊"ตัวหนึ่งให้กับนักการเมืองเท่านั้น มิได้เป็นสถานีโทรทัศน์ที่รับใช้ประชาชนให้สมค่าเงินภาษีแม้แต่น้อย
สุดท้าย...ขอฝาก"คุณรัชนีวรรณ"ไว้ คุณไม่ได้เป็นดอกไม้เพื่อมวลชนอีกต่อไปแล้ว หากคุณคิดจะเป็น"ดอกลิลลี่"ในแวดวงสื่อมวลชน มันก็ดูจะสูงค่าเกินไปนัก แต่หากจะยังคงยืนหยัดที่จะเป็นดอกไม้เพื่อมวลชนต่อไป ก็คงเป็นได้แค่เพียง "ดอกอุตพิด"เท่านั้น!! ....ยี้ยยยยยยยยยย...
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความห่วงใยมาด้วยจิตคารวะ แด่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เคลื่อนพลบุกยึดรอบบริเวณทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายใต้แผนบัญชาการ"สงครามเก้าทัพ" โดยตำรวจ 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย ส.ต.ต.หญิง พรพิรุณ โตกำจร ผบ.หมู่ บก.สอ.บช.ตชด. ค่ายนเรศวร แขนขวาหัก จ.ส.ต.พจนา แก้วเกษศรี ผบ.หมู่ บก.สอ.บช.ตชด. ค่ายนเรศวร ข้อศอกซ้ายแตก จ.ส.ต.คมสัน ศรีคำ ผบ.หมู่ ป. สน.บางนา และ จ.ส.ต.ศราวุธ เลิศพร ผบ.หมู่ ป. สน.ลุมพินี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ในการเคลื่อนขบวนจากสะพานมัฆวานรังสรรค์สู่ทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรฯ "ทัพหน้า" ซึ่งนำโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ได้เคลื่อนพลเข้ามาทางถนนนครปฐม ผ่านหน้าวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และสามารถ"อารยะขัดขืน" ฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปบริเวณถนนพิษณุโลก แตะประตูทำเนียบรัฐบาลได้เป็นกลุ่มแรก!
ตรงบริเวณที่กลุ่มพันธมิตรฯ ทัพหน้า อารยะขัดขืนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นั้น เมื่อสังเกตการรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี ดูเหมือนจะมีเพียง 2 ช่องที่ทำการออกอากาศสด คือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่ต้องยอมรับว่า บัดนี้ คือทีวีสาธารณะอย่างแท้จริง มีการรายงานทั้งภาพและเสียงอย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่สถานีโทรทัศน์ NBT หรือช่อง 11 เดิม ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งถือเป็นสถานีโทรทัศน์ของประเทศไทย ได้ส่งผู้สื่อข่าวไปรายงานสถานการณ์อยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาลด้วย และผู้สื่อข่าว NBT ที่รายงานสถานการณ์อยู่ตรงบริเวณนั้น คือ คุณรัชนีวรรณ ดวงแก้ว อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวการเมือง ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ที่ต้องขอเอ่ยนามถึง"รัชนีวรรณ" ก็เพราะเมื่อได้ดูการรายงานสดของเธอแล้ว มันให้ติดขัดหัวใจยังไงชอบกลนัก
การรายงานสถานการณ์ของ"รัชนีวรรณ"ในครั้งนั้น ท่าทีค่อนข้างแข็งกร้าว มาดมั่น แต่นี่ก็คือบุคลิกของเธอตั้งแต่อยู่ไอทีวีมาแล้ว แต่การรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้บุกฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามาแล้ว ส่งผลให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ และเธอก็ย้ำอยู่อย่างนั้นว่า การบุกของพันธมิตรฯ ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ มีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการบุกของพันธมิตรฯ ปะหนึ่งเพื่อต้องการให้เห็นว่า การกระทำของพันธมิตรฯนั้นช่างป่าเถื่อนเสียเหลือเกิน
อยากจะอ่านผ่านแววตาของ"รัชนีวรรณ" ที่เสมือนหนึ่งมีความเคียดแค้นชิงชังในกลุ่มพันธมิตรฯยิ่งนัก โดยเฉพาะแกนนำพันธมิตรฯที่ชื่อ"สนธิ ลิ้มทองกุล" ที่เมื่อครั้ง คมช.เข้าปกครองประเทศ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ออกมาตีแผ่ว่า "ไอทีวี" เบี้ยวหรือโกงค่าสัมปทานของรัฐ จนส่งผลให้ สถานะของผู้สื่อข่าวไอทีวี ในขณะนั้นต้อง"ตกงาน" และน้ำตาแทบจะท่วมจอไอทีวี แต่หลังจากการร่ำไห้กันท่วมจอจนคนทั้งประเทศเกิดความสงสารแล้ว ถัดจากนั้นเพียงไม่กี่วัน มีนักข่าวไอทีวีกลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับเงินชดเชย พากันไปปิดผับแถวหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ฉลองกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ไม่รู้ว่าเสียใจหรือดีใจที่ต้อง"ตกงาน"
อดีตคนไอทีวีรู้ดีว่า รัชนีวรรณ เป็นคนเช่นไร จากกรณี"ขบถไอทีวี" ที่พวกเขาไม่ยอมก้มหัวให้กับนายทุนตระกูลชิน แต่รัชนีวรรณ ก็ยังคงอยู่ที่ไอทีวีจนเฮือกสุดท้าย และในที่สุด ก็ได้รับเศษอานิสงส์จากการที่ได้รับใช้ตระกูลชิน เข้ามาสังกัด NBT ภายใต้บังคับบัญชาของ"จักรภพ เพ็ญแข" อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงไม่แปลกเลย ที่รัชนีวรรณ ได้รายงานสถานการณ์บริเวณที่ทัพหน้าของพันธมิตรฯ บุกเข้าไปถึงทำเนียบรัฐบาล ด้วยการย้ำและย้ำอีกว่า "มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ ๆ"
ถามว่า การที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นความผิดของพันธมิตรฯ หรือไม่ ด้วยตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการผลักและดัน ไม่ใช่เจตนาที่จ้องทำร้ายร่างกาย โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งที่ นปก. หรือพวกนรกป่วนกรุง ยกพวกไปบุกบ้านสี่เสาเทเวศน์เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 นั่นคือการจงใจทำร้ายร่างกายตำรวจต่างหาก เพราะมีตำรวจได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คน
แม้ประเด็นนี้ จะเป็นเพียงประเด็นเล็กน้อย แต่การรายงานที่มีเจตนาบิดเบือนอยู่ภายในใจ ที่แพร่ภาพและเสียงไปให้ประชาชนทั่วประเทศรับรู้ มันก็ส่งผลสะท้อนกลับไปยังผู้บริหาร NBT แล้วว่า ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อสถานี เปลี่ยนโลโก้ ปรับเปลี่ยนลุคใหม่แล้ว แต่ธาตุแท้ก็ยังคงเดิม เพราะเป็นเพียงแค่ "เบ๊"ตัวหนึ่งให้กับนักการเมืองเท่านั้น มิได้เป็นสถานีโทรทัศน์ที่รับใช้ประชาชนให้สมค่าเงินภาษีแม้แต่น้อย
สุดท้าย...ขอฝาก"คุณรัชนีวรรณ"ไว้ คุณไม่ได้เป็นดอกไม้เพื่อมวลชนอีกต่อไปแล้ว หากคุณคิดจะเป็น"ดอกลิลลี่"ในแวดวงสื่อมวลชน มันก็ดูจะสูงค่าเกินไปนัก แต่หากจะยังคงยืนหยัดที่จะเป็นดอกไม้เพื่อมวลชนต่อไป ก็คงเป็นได้แค่เพียง "ดอกอุตพิด"เท่านั้น!! ....ยี้ยยยยยยยยยย...