“พันธมิตรฯ” กู้ชาติสวมเสื้อเหลืองถึง กกต.ให้กำลังใจ 3 กกต.น้ำดี “อภิชาต-ประพันธ์-สุเมธ” สาปส่ง “สดศรี-สมชัย” รับใช้ระบอบทักษิณ ตร.จัด 200 นายรับมือ สั่งปิดถนน จราจรอัมพาตหนัก
วันนี้ (16 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รวมตัวกันที่สนามศุภชลาศัยประมาณ 30,000 คน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดได้รวมตัวกันสวมเสื้อเหลือง หมวก ผ้าพันคอมีสัญลักษณ์ “กู้ชาติ” พร้อมด้วยธงชาติและดอกกุหลาบ เพื่อเดินทางไปให้กำลังใจ 3 กกต. พร้อมขับไล่และมอบพวงหรีดให้กับนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวน ทั้งนี้ ระหว่างเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามากีดกั้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม การเดินขบวนทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก
จนกระทั่งเวลา 10.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมาถึงบริเวณหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ โดยมีรถเครื่องขยายเสียงจำนวน 2 คัน นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เมื่อมาถึงอาคารศรีจุลทรัพย์ บริเวณด้านหน้ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 200 นาย ได้นำแผงเหล็กมากั้นโดยรอบบริเวณอาคาร พร้อมทั้งปิดการจราจรตั้งแต่แยกพระราม จนถึงเชิงสะพานกษัตริย์ศึก และตลอดแนวถนนด้านหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังอย่างเข้มงวดห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าเขตสำนักงาน กกต.โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ และกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้นำพวงหรีด ข้อความว่าระบุว่า “สมชัย + สดศรี get out” พร้อมป้ายข้อความให้กำลังใจพันธมิตรน้ำดี 3 ท่านประกอบด้วย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท และนายสุเมธ อุปนิสากร และยังได้ตะโกนขับไล่ กกต.บางคนที่ทำงานรับใช้ระบอบทักษิณ โดยขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ตรงบริเวณสะพานยศเส ทั้งนี้ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่างทยอยมาสมทบกันเป็นระยะ
ด้าน พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิทย์ ผบก.น.6 กล่าวว่า ในวันนี้ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 200 นาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 8 สน.ของ บก.น.6 โดยได้วางกำลังบริเวณรอบอาคารศรีจุลทรัพย์ และดูแลหัวและท้ายขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยป้องกันมือที่ 3 ที่จะมาก่อความวุ่นวาย ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดความรุนแรงหรือเกิดการปะทะกันในครั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ชุมนุมในวันนี้คาดว่าจะไม่มีความรุนแรงแรงเกิดขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมอ่านแถลงการณ์และพูดคุยจนเป็นที่พอใจแล้ว คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมคงจะเดินทางกลับไปชุมนุมต่อที่สะพานมัฆวานฯ
วันนี้ (16 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รวมตัวกันที่สนามศุภชลาศัยประมาณ 30,000 คน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดได้รวมตัวกันสวมเสื้อเหลือง หมวก ผ้าพันคอมีสัญลักษณ์ “กู้ชาติ” พร้อมด้วยธงชาติและดอกกุหลาบ เพื่อเดินทางไปให้กำลังใจ 3 กกต. พร้อมขับไล่และมอบพวงหรีดให้กับนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวน ทั้งนี้ ระหว่างเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามากีดกั้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม การเดินขบวนทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก
จนกระทั่งเวลา 10.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมาถึงบริเวณหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ โดยมีรถเครื่องขยายเสียงจำนวน 2 คัน นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เมื่อมาถึงอาคารศรีจุลทรัพย์ บริเวณด้านหน้ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 200 นาย ได้นำแผงเหล็กมากั้นโดยรอบบริเวณอาคาร พร้อมทั้งปิดการจราจรตั้งแต่แยกพระราม จนถึงเชิงสะพานกษัตริย์ศึก และตลอดแนวถนนด้านหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังอย่างเข้มงวดห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าเขตสำนักงาน กกต.โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ และกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้นำพวงหรีด ข้อความว่าระบุว่า “สมชัย + สดศรี get out” พร้อมป้ายข้อความให้กำลังใจพันธมิตรน้ำดี 3 ท่านประกอบด้วย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท และนายสุเมธ อุปนิสากร และยังได้ตะโกนขับไล่ กกต.บางคนที่ทำงานรับใช้ระบอบทักษิณ โดยขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ตรงบริเวณสะพานยศเส ทั้งนี้ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่างทยอยมาสมทบกันเป็นระยะ
ด้าน พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิทย์ ผบก.น.6 กล่าวว่า ในวันนี้ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 200 นาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 8 สน.ของ บก.น.6 โดยได้วางกำลังบริเวณรอบอาคารศรีจุลทรัพย์ และดูแลหัวและท้ายขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยป้องกันมือที่ 3 ที่จะมาก่อความวุ่นวาย ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดความรุนแรงหรือเกิดการปะทะกันในครั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ชุมนุมในวันนี้คาดว่าจะไม่มีความรุนแรงแรงเกิดขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมอ่านแถลงการณ์และพูดคุยจนเป็นที่พอใจแล้ว คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมคงจะเดินทางกลับไปชุมนุมต่อที่สะพานมัฆวานฯ
