“อิทธิพล” เผย อัยการ เตรียมประชุมตรวจสำนวนกองปราบสั่งไม่ฟ้อง “ตระกูลชินวัตร-นัก กม.” ดูหมิ่น คตส.สัปดาห์หน้า หากผลสรุปออกมาอัยการเห็นด้วยต้องส่งให้ “พัชรวาท” พิจารณา แต่ถ้าอัยการเห็นแย้ง ต้องเสนอให้ อสส.เป็นผู้ชี้ขาดควรสั่งฟ้อง หรือไม่ฟ้อง
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายอิทธิพล เพิ่มศรี อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 (รัชดา) กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำสำนวนการสอบสวนคดีดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แจ้งความ พร้อมความเห็นสั่งไม่ฟ้องครอบครัวชินวัตร และสำนักกฎหมายนิติเอกราช ผู้ต้องหา ให้อัยการพิจารณาสั่งคดี ว่า พนักงานสอบสวนกองปราบปรามพึ่งนำสำนวนคดีดังกล่าวมาส่งมอบให้อัยการพิจารณาสั่งคดีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตนได้สั่งตั้งคณะทำงานอัยการจำนวน 5 คน มารับผิดชอบตรวจพิจารณาสำนวนการสอบสวน และพยานเอกสารทั้งหมด ซึ่งคณะทำงานอัยการจะร่วมประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจพิจารณาสำนวนการสอบสวนและเอกสารหลักฐานว่าครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอแล้วหรือไม่ และอัยการต้องสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ และหากสั่งสอบเพิ่มเติมแล้วพนักงานสอบสวนจะส่งผลสอบเพิ่มเติมให้กับอัยการเร็วหรือช้าเพียงใด คือปัจจัยในการพิจารณาสั่งคดี โดยอัยการมีเวลาพิจารณาสั่งคดีประมาณ 1-2 เดือน
“ตามขั้นตอนแล้ว หากอัยการพิจารณาแล้วเห็นด้วยกับพนักงานสอบสวนก็จะทำความเห็นไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณา แต่หากอัยการเห็นแย้งกับพนักงานสอบสวนก็จะต้องเสนอไปยังอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องผู้ต้องหา” นายอิทธิพล กล่าว
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายอิทธิพล เพิ่มศรี อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 (รัชดา) กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำสำนวนการสอบสวนคดีดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แจ้งความ พร้อมความเห็นสั่งไม่ฟ้องครอบครัวชินวัตร และสำนักกฎหมายนิติเอกราช ผู้ต้องหา ให้อัยการพิจารณาสั่งคดี ว่า พนักงานสอบสวนกองปราบปรามพึ่งนำสำนวนคดีดังกล่าวมาส่งมอบให้อัยการพิจารณาสั่งคดีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตนได้สั่งตั้งคณะทำงานอัยการจำนวน 5 คน มารับผิดชอบตรวจพิจารณาสำนวนการสอบสวน และพยานเอกสารทั้งหมด ซึ่งคณะทำงานอัยการจะร่วมประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจพิจารณาสำนวนการสอบสวนและเอกสารหลักฐานว่าครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอแล้วหรือไม่ และอัยการต้องสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ และหากสั่งสอบเพิ่มเติมแล้วพนักงานสอบสวนจะส่งผลสอบเพิ่มเติมให้กับอัยการเร็วหรือช้าเพียงใด คือปัจจัยในการพิจารณาสั่งคดี โดยอัยการมีเวลาพิจารณาสั่งคดีประมาณ 1-2 เดือน
“ตามขั้นตอนแล้ว หากอัยการพิจารณาแล้วเห็นด้วยกับพนักงานสอบสวนก็จะทำความเห็นไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณา แต่หากอัยการเห็นแย้งกับพนักงานสอบสวนก็จะต้องเสนอไปยังอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องผู้ต้องหา” นายอิทธิพล กล่าว