พ่อ-แม่ จากเมืองเกินร้อย เข้าร้องกองปราบให้ช่วยตามหาลูกสาว “แวว หรือ ป๊อกแป๊ก” นศ.ราชภัฏพระนคร หายตัวจากหอพักแฟชั่นไอส์แลนด์ ผู้เป็นแม่คิดถึงมาก วอนลูกติดต่อกลับด้วย ด้านพี่สาว ระบุ น้องสาวหายไปเกือบเดือน ก่อนหายตัวมีปากเสียงกับสามี ขณะที่สามี บอก ได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.บางชัน กระทั่ง จนท.สืบทราบว่า ภรรยาหนีไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ติดยา แล้วนำรถยนต์ไปขาย เจอคลิปขณะกลุ่มเพื่อนและแฟนสาวกำลังเสพยาบ้าในห้อง จึงมีปากเสียงและหนีไป
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปราม เมื่อเวลา 15.30 น.นายสุนทร มหามาตย์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 4 ต.บ้านดู่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นางอ้วน อายุ 53 ปี และ น.ส.บุญญาลักษณ์ มหามาตย์ อายุ 27 ปี บิดา มารดา และ พี่สาวของ น.ส.สุธิดา มหามาตย์ หรือ แวว หรือ ป๊อกแป๊ก อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ ต่อมหล้า พนักงานสอบสวน (สบ2) บก.ป.เพื่อขอให้ช่วยติดตามตัว น.ส.สุธิดา ที่หายตัวไปจากหอพักแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา ซอย 99 แขวงและเขตคันนายาว กทม.พร้อมกับรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น อี 230 สีน้ำเงิน ทะเบียน สบ-1498 กทม.ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2550 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ นายวุฒิชัย วงษ์พานิช อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตประเวศ สามี น.ส.สุธิดา ได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.บางชัน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงเกรงว่า น.ส.สุธิดา จะได้รับอันตราย
น.ส.บุญญาลักษณ์ ให้การว่า น้องสาวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ จะคบหากับ นายวุฒิชัย แล้วแต่งงานกันที่บ้านพักใน จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2550 โดยตนทราบเพียงว่า ฝ่ายชายเคยมีครอบครัวมาแล้ว ซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จากนั้นน้องสาวตนก็อาศัยอยู่กับนายวุฒิชัย ซึ่งนานๆ ครั้งจึงติดต่อบอกข่าวคราวกับทางบ้าน ส่วนตนไม่ติดต่อกับน้องสาวมากนักเนื่องจากต้องทำงาน
น.ส.บุญญาลักษณ์ ให้การต่อว่า ก่อนที่น้องสาวจะหายตัวไป เกือบ 1 เดือน น้องสาวได้ขับรถยนต์มาหาตนเพื่อมาขอยืมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตนก็ให้ยืมไป และก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก จนนายวุฒิชัย ได้โทรศัพท์มาบอกว่า น้องสาวได้หายตัวไปพร้อมกับรถยนต์ เมื่อทราบข่าวจึงรีบบอกกับบิดา มารดา และออกตามหาน้องสาวโดยพยายามติดต่อกับเพื่อนๆ ของน้องสาวแต่ไม่มีใครทราบ ส่วน นายวุฒิชัย ได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดของหอพักแฟชั่นไอส์แลนด์ มาตรวจสอบก่อนจะพากันเข้าแจ้งความที่ สน.บางชัน ซึ่งภายหลังแจ้งความแล้วตนก็ยังพยายามออกติดตามหาน้องสาวอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ทราบเบาะแสแต่อย่างใด
“ปกติน้องสาวเป็นคนร่าเริง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ก่อนหน้านี้ก็พอทราบมาว่า น้องสาวมีปัญหาระหองระแหงกับนายวุฒิชัย เกี่ยวกับเรื่องที่ นายวุฒิชัย ไม่พอใจที่มีผู้ชายมาติดพันกับน้อง หลังจากที่น้องสาว หายตัวไปก็ดูเหมือนนายวุฒิชัย จะกระตือรือร้นเพียงช่วงแรก ๆ เท่านั้น แถมยังบอกว่า “เลี้ยงดูอย่างดีแล้วแต่กลับมาหนีไป ทำให้ตนกับทางบ้านรู้สึกเป็นห่วงในความปลอดภัยของน้องสาวอย่างมาก จึงเข้าแจ้งความให้ตำรวจกองปราบให้ช่วยติดตามตัวอีกแรง” น.ส.บุญญาลักษณ์ กล่าว
ด้าน นางอ้วน มารดา กล่าวว่า ตนคิดถึงลูกมาก ไม่ทราบว่าลูกเป็นตายร้ายดีอย่างไร หลังจากหายตัวไปก็ไม่เคยโทรศัพท์หาคนในครอบครัวเลย หากลูกทราบข่าวก็ขอให้โทรหาแม่ด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์หา นายวุฒิชัย สามี น.ส.สุธิดา เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหา โดย นายวุฒิชัย กล่าวว่า หลังภรรยาหายตัวไปก็ได้เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ให้ออกติดตามหา กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าภรรยา หนีไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ติดยาเสพติด แล้วนำรถยนต์ไปขาย นอกจากนี้ตนเจอคลิปขณะกลุ่มเพื่อนและแฟนสาวกำลังเสพยาบ้า ในห้องตน จึงมีปากเสียงกันจนน้องป๊อกแป๊ก หนีไปกับเพื่อนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งภรรยาหนีไปไม่ติดต่อใครนั้นคงกลัวถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ที่ตนแจ้งความไว้
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปราม เมื่อเวลา 15.30 น.นายสุนทร มหามาตย์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 4 ต.บ้านดู่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นางอ้วน อายุ 53 ปี และ น.ส.บุญญาลักษณ์ มหามาตย์ อายุ 27 ปี บิดา มารดา และ พี่สาวของ น.ส.สุธิดา มหามาตย์ หรือ แวว หรือ ป๊อกแป๊ก อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ ต่อมหล้า พนักงานสอบสวน (สบ2) บก.ป.เพื่อขอให้ช่วยติดตามตัว น.ส.สุธิดา ที่หายตัวไปจากหอพักแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา ซอย 99 แขวงและเขตคันนายาว กทม.พร้อมกับรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น อี 230 สีน้ำเงิน ทะเบียน สบ-1498 กทม.ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2550 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ นายวุฒิชัย วงษ์พานิช อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตประเวศ สามี น.ส.สุธิดา ได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.บางชัน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงเกรงว่า น.ส.สุธิดา จะได้รับอันตราย
น.ส.บุญญาลักษณ์ ให้การว่า น้องสาวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ จะคบหากับ นายวุฒิชัย แล้วแต่งงานกันที่บ้านพักใน จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2550 โดยตนทราบเพียงว่า ฝ่ายชายเคยมีครอบครัวมาแล้ว ซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จากนั้นน้องสาวตนก็อาศัยอยู่กับนายวุฒิชัย ซึ่งนานๆ ครั้งจึงติดต่อบอกข่าวคราวกับทางบ้าน ส่วนตนไม่ติดต่อกับน้องสาวมากนักเนื่องจากต้องทำงาน
น.ส.บุญญาลักษณ์ ให้การต่อว่า ก่อนที่น้องสาวจะหายตัวไป เกือบ 1 เดือน น้องสาวได้ขับรถยนต์มาหาตนเพื่อมาขอยืมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตนก็ให้ยืมไป และก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก จนนายวุฒิชัย ได้โทรศัพท์มาบอกว่า น้องสาวได้หายตัวไปพร้อมกับรถยนต์ เมื่อทราบข่าวจึงรีบบอกกับบิดา มารดา และออกตามหาน้องสาวโดยพยายามติดต่อกับเพื่อนๆ ของน้องสาวแต่ไม่มีใครทราบ ส่วน นายวุฒิชัย ได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดของหอพักแฟชั่นไอส์แลนด์ มาตรวจสอบก่อนจะพากันเข้าแจ้งความที่ สน.บางชัน ซึ่งภายหลังแจ้งความแล้วตนก็ยังพยายามออกติดตามหาน้องสาวอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ทราบเบาะแสแต่อย่างใด
“ปกติน้องสาวเป็นคนร่าเริง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ก่อนหน้านี้ก็พอทราบมาว่า น้องสาวมีปัญหาระหองระแหงกับนายวุฒิชัย เกี่ยวกับเรื่องที่ นายวุฒิชัย ไม่พอใจที่มีผู้ชายมาติดพันกับน้อง หลังจากที่น้องสาว หายตัวไปก็ดูเหมือนนายวุฒิชัย จะกระตือรือร้นเพียงช่วงแรก ๆ เท่านั้น แถมยังบอกว่า “เลี้ยงดูอย่างดีแล้วแต่กลับมาหนีไป ทำให้ตนกับทางบ้านรู้สึกเป็นห่วงในความปลอดภัยของน้องสาวอย่างมาก จึงเข้าแจ้งความให้ตำรวจกองปราบให้ช่วยติดตามตัวอีกแรง” น.ส.บุญญาลักษณ์ กล่าว
ด้าน นางอ้วน มารดา กล่าวว่า ตนคิดถึงลูกมาก ไม่ทราบว่าลูกเป็นตายร้ายดีอย่างไร หลังจากหายตัวไปก็ไม่เคยโทรศัพท์หาคนในครอบครัวเลย หากลูกทราบข่าวก็ขอให้โทรหาแม่ด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์หา นายวุฒิชัย สามี น.ส.สุธิดา เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหา โดย นายวุฒิชัย กล่าวว่า หลังภรรยาหายตัวไปก็ได้เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ให้ออกติดตามหา กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าภรรยา หนีไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ติดยาเสพติด แล้วนำรถยนต์ไปขาย นอกจากนี้ตนเจอคลิปขณะกลุ่มเพื่อนและแฟนสาวกำลังเสพยาบ้า ในห้องตน จึงมีปากเสียงกันจนน้องป๊อกแป๊ก หนีไปกับเพื่อนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งภรรยาหนีไปไม่ติดต่อใครนั้นคงกลัวถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ที่ตนแจ้งความไว้