เรือนจำคลองเปรม รวบแก๊งค้ายาบ้าหัวใส ซุกยาบ้า 2,200 เม็ด ในเปลือกหอยแครงแล้วใช้กาวปิดฝาก่อนนำส่งแฝงเป็นของเยี่ยมญาติเตรียมลำเลียงขายในคุก ส่วนอีกรายยัดในหลอดกาแฟกว่า 700 เม็ด เตรียมส่งให้สิงห์ขี้คุกขายให้ขี้ยา พร้อมจู่โจมยึดโทรศัพท์มือถือได้ 3 เครื่อง เป็นของนักโทษชาย 2 ราย ขณะที่ “สมพงษ์” ระบุ เจ้าของมือถือต้องถูกลงโทษทางวินัย
วันนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 14.00 น.ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ ว่า ภายหลังตนได้มีนโยบายเข้มงวดการปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ โดยเฉพาะการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปจำหน่ายให้แก่นักโทษในเรือนจำ และการสั่งซื้อขายยาเสพติดของนักโทษในเรือนจำ ล่าสุด นายสมศักดิ์ รังสิโยภาส ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ได้ร่วมกันจับกุม น.ช.ไม้แสน แสนทวีสุข นักโทษของเรือนจำกลางคลองเปรม และกำลังเร่งขยายผลสืบสวนถึงนักโทษรายอื่นๆ ที่ร่วมอยู่ในแก๊งค้ายาเสพติด โดยการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำได้เบาะแส ว่า น.ช.ไม้แสน ได้ลักลอบนำยาบ้าจำนวน 2,200 เม็ด ซุกซ่อนมาในหอยแครง ที่แกะเอาเนื้อหอยออกแล้วนำยาบ้าบรรจุใส่ถุงพลาสติก รวม 55 ถุง มีขนาดเท่ากับหัวแม่มือ ซ่อนมาในเปลือกหอยแครง แล้วใช้กาวปิดฝาหอยแครงก่อนจะนำส่งเข้ามาเป็นของเยี่ยมจากญาติ ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงเข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนห้อง 211 ภายในแดนความมั่นคงสูง โดยจับกุม น.ช.ไม้แสน ได้พร้อมของกลางยาบ้า 2,200 เม็ด พร้อมกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียอีก 1 เครื่อง โดยผู้ต้องขังให้การรับสารภาพว่า มีญาตินำยาบ้าซุกซ่อนในเปลือกหอยแครงส่งเข้ามาให้จำหน่ายในเรือนจำ
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องขังยังพยายามลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในเรือนจำอีกหลายรูปแบบ โดยในวันนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายสีนวล จันทร์เพ็ญ พร้อมของกลางยาบ้า 740 เม็ด บรรจุในหลอดกาแฟ หลอดละ 20 เม็ด ซุกซ่อนมาในถุงลูกอมยี่ห้อมีร่า โดยยาบ้าดังกล่าวจะถูกส่งเข้ามาเป็นของเยี่ยมให้กับ น.ช.เรืองสันต์ มาสะเละ ผู้ต้องขังแดน 5
ทั้งนี้ จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องขังให้การรับสารภาพ เรือนจำกลางคลองเปรมจึงได้ประสานให้ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสน.ประชาชื่น นำตัวผู้ต้องหาและของกลางยาเสพติดไปขยายผลจับกุมถึงเครือข่ายรายอื่นๆ
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า จากการจู่โจมตรวจค้นแดนความมั่นคงสูงของเรือนจำกลางคลองเปรม เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดโทรศัพท์มือถือได้ 3 เครื่อง เป็นโทรศัพท์โนเกีย รุ่น เอ็น 82 โนเกียรุ่น 6300 และโทรศัพท์ยี่ห้อ จี-เน็ต สำหรับ น.ช.อาวุธ ชีกว้าง และ น.ช.สุรสิทธิ์ คำต่าย เจ้าของโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 เครื่องจะถูกลงโทษทางวินัย ฐานนำสิ่งของต้องห้ามตามระเบียบเรือนจำเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร
อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมจะเร่งประสานไปยังสำนักงบประมาณเพื่อขอจัดสรรงบประมาณมาซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับตรวจค้นของเยี่ยมจากภายนอกและเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หากงบประมาณไม่เพียงพอก็จะนำเงินของกรมบังคับคดีไปใช้จัดซื้อแทน เนื่องจากนักโทษจะสับเปลี่ยนวิธีการซุกซ่อนยาเสพติดให้ยากต่อการตรวจค้นด้วยตาเปล่า ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจค้น
“ยาบ้าที่ซุกซ่อนนำเข้ามาในเรือนจำจะซื้อขายกันในราคาเม็ดละ 500 บาท โดยวิธีการจ่ายเงินมีหลายรูปแบบ อาจจะโอนเงินเข้าบัญชีของญาตินักโทษ หรือลักลอบนำเงินสดเข้ามาจ่ายในเรือนจำ หรือจ่ายเป็นสิ่งของ ในเบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลที่โยงใยถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ตนได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดทั้งจากนักโทษและผู้คุม” นายสมพงษ์ กล่าว
วันนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 14.00 น.ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ ว่า ภายหลังตนได้มีนโยบายเข้มงวดการปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ โดยเฉพาะการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปจำหน่ายให้แก่นักโทษในเรือนจำ และการสั่งซื้อขายยาเสพติดของนักโทษในเรือนจำ ล่าสุด นายสมศักดิ์ รังสิโยภาส ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ได้ร่วมกันจับกุม น.ช.ไม้แสน แสนทวีสุข นักโทษของเรือนจำกลางคลองเปรม และกำลังเร่งขยายผลสืบสวนถึงนักโทษรายอื่นๆ ที่ร่วมอยู่ในแก๊งค้ายาเสพติด โดยการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำได้เบาะแส ว่า น.ช.ไม้แสน ได้ลักลอบนำยาบ้าจำนวน 2,200 เม็ด ซุกซ่อนมาในหอยแครง ที่แกะเอาเนื้อหอยออกแล้วนำยาบ้าบรรจุใส่ถุงพลาสติก รวม 55 ถุง มีขนาดเท่ากับหัวแม่มือ ซ่อนมาในเปลือกหอยแครง แล้วใช้กาวปิดฝาหอยแครงก่อนจะนำส่งเข้ามาเป็นของเยี่ยมจากญาติ ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงเข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนห้อง 211 ภายในแดนความมั่นคงสูง โดยจับกุม น.ช.ไม้แสน ได้พร้อมของกลางยาบ้า 2,200 เม็ด พร้อมกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียอีก 1 เครื่อง โดยผู้ต้องขังให้การรับสารภาพว่า มีญาตินำยาบ้าซุกซ่อนในเปลือกหอยแครงส่งเข้ามาให้จำหน่ายในเรือนจำ
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องขังยังพยายามลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในเรือนจำอีกหลายรูปแบบ โดยในวันนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายสีนวล จันทร์เพ็ญ พร้อมของกลางยาบ้า 740 เม็ด บรรจุในหลอดกาแฟ หลอดละ 20 เม็ด ซุกซ่อนมาในถุงลูกอมยี่ห้อมีร่า โดยยาบ้าดังกล่าวจะถูกส่งเข้ามาเป็นของเยี่ยมให้กับ น.ช.เรืองสันต์ มาสะเละ ผู้ต้องขังแดน 5
ทั้งนี้ จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องขังให้การรับสารภาพ เรือนจำกลางคลองเปรมจึงได้ประสานให้ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสน.ประชาชื่น นำตัวผู้ต้องหาและของกลางยาเสพติดไปขยายผลจับกุมถึงเครือข่ายรายอื่นๆ
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า จากการจู่โจมตรวจค้นแดนความมั่นคงสูงของเรือนจำกลางคลองเปรม เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดโทรศัพท์มือถือได้ 3 เครื่อง เป็นโทรศัพท์โนเกีย รุ่น เอ็น 82 โนเกียรุ่น 6300 และโทรศัพท์ยี่ห้อ จี-เน็ต สำหรับ น.ช.อาวุธ ชีกว้าง และ น.ช.สุรสิทธิ์ คำต่าย เจ้าของโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 เครื่องจะถูกลงโทษทางวินัย ฐานนำสิ่งของต้องห้ามตามระเบียบเรือนจำเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร
อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมจะเร่งประสานไปยังสำนักงบประมาณเพื่อขอจัดสรรงบประมาณมาซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับตรวจค้นของเยี่ยมจากภายนอกและเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หากงบประมาณไม่เพียงพอก็จะนำเงินของกรมบังคับคดีไปใช้จัดซื้อแทน เนื่องจากนักโทษจะสับเปลี่ยนวิธีการซุกซ่อนยาเสพติดให้ยากต่อการตรวจค้นด้วยตาเปล่า ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจค้น
“ยาบ้าที่ซุกซ่อนนำเข้ามาในเรือนจำจะซื้อขายกันในราคาเม็ดละ 500 บาท โดยวิธีการจ่ายเงินมีหลายรูปแบบ อาจจะโอนเงินเข้าบัญชีของญาตินักโทษ หรือลักลอบนำเงินสดเข้ามาจ่ายในเรือนจำ หรือจ่ายเป็นสิ่งของ ในเบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลที่โยงใยถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ตนได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดทั้งจากนักโทษและผู้คุม” นายสมพงษ์ กล่าว