ใกล้จุดวิกฤต! ม็อบทั่วสารทิศทยอยโอบล้อมทำเนียบ ทั้ง อีสาน-ปักษ์ใต้ กลุ่มสมัชชาเกษตกรฯจาก จ.ชัยภูมิ กลุ่มผู้ชุมนุมจาก จ.ชุมพร ทั้งสองกลุ่มปักหลักเรียกร้องพร้อมยื่นหนังสือให้รัฐเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อน ด้าน “อำนวย” ผวาเกิดเหตุ ลงมาสั่งการด้วยตัวเอง ใช้รถขนผู้ต้องหาปิดกั้นม็อบ นำแผงเหล็ก และทุ่มกำลังตำรวจ รปภ.ห้ามเข้าเขตทำเนียบเด็ดขาด
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกลุ่มสมัชชาเกษตรกรผู้เดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนลำปะทาว จ.ชัยภูมิ ประมาณ 100 คน และกลุ่มผู้ชุมนุมจากจังหวัดชุมพร ประมาณ 150 คน เดินทางมาชุมนุมบริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล โดยกลุ่มสมัชชาเกษตรฯ ตั้งกลุ่มชุมนุมบริเวณแยกพณิชยการพระนคร ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมจากจังหวัดชุมพร ตั้งกลุ่มชุมนุมบริเวณ ถนนนครปฐม โดยทั้งสองกลุ่มได้ส่งตัวแทนไปมอบหนังสือแก่รัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ช่วยเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ซึ่งมาบังคับบัญชาสั่งการด้วยตนเอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล รอง ผบก.น.1 สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง และ สน.ใกล้เคียงนำแผงเหล็กมากั้นโดยรอบบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่ นอกจากนี้ ยังนำรถขนผู้ต้องหาจำนวน 3 คัน ปิดกั้นบริเวณกลางสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาปักหลักด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ บริเวณแยกมิกสกวัน มีการนำรั้วมากั้นโดยรอบและนำรถขนผู้ต้องหาจำนวน 2 คัน มาปิดกั้น และห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 คน โดยมีการกันไม่ให้ผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม เข้ามาในพื้นที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลอย่างเด็ดขาด ตลอดจนยังมีตำรวจจราจร จาก บก.จร.ประมาณ 20 นาย อำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่โดยรอบ
พ.ต.อ.วิชาญ กล่าวว่า แม้กำลังเจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังส่วนหนึ่งมาดูแลพื้นที่ด้านหน้าทำเนียบ และต้องดูแลกลุ่มพันธมิตรฯ อาจทำให้กำลังพลเกิดความอ่อนล้า แต่ตำรวจจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
ด้าน นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนยันจะปักหลักชุมนุม พร้อมเปิดเวทีไฮปาร์กบริเวณหน้าวัดเบญจมบพิตรฯซึ่งอยู่ติดกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)หลังได้ส่งตัวแทนเจรจากับนายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีของตระกูลชินวัตรแล้ว และจากการสอบถามเห็นว่าคดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ดังนั้นทางกลุ่มจึงจะปักหลักชุมนุมในบริเวณดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกลุ่มสมัชชาเกษตรกรผู้เดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนลำปะทาว จ.ชัยภูมิ ประมาณ 100 คน และกลุ่มผู้ชุมนุมจากจังหวัดชุมพร ประมาณ 150 คน เดินทางมาชุมนุมบริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล โดยกลุ่มสมัชชาเกษตรฯ ตั้งกลุ่มชุมนุมบริเวณแยกพณิชยการพระนคร ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมจากจังหวัดชุมพร ตั้งกลุ่มชุมนุมบริเวณ ถนนนครปฐม โดยทั้งสองกลุ่มได้ส่งตัวแทนไปมอบหนังสือแก่รัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ช่วยเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ซึ่งมาบังคับบัญชาสั่งการด้วยตนเอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล รอง ผบก.น.1 สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง และ สน.ใกล้เคียงนำแผงเหล็กมากั้นโดยรอบบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่ นอกจากนี้ ยังนำรถขนผู้ต้องหาจำนวน 3 คัน ปิดกั้นบริเวณกลางสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาปักหลักด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ บริเวณแยกมิกสกวัน มีการนำรั้วมากั้นโดยรอบและนำรถขนผู้ต้องหาจำนวน 2 คัน มาปิดกั้น และห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 คน โดยมีการกันไม่ให้ผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม เข้ามาในพื้นที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลอย่างเด็ดขาด ตลอดจนยังมีตำรวจจราจร จาก บก.จร.ประมาณ 20 นาย อำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่โดยรอบ
พ.ต.อ.วิชาญ กล่าวว่า แม้กำลังเจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังส่วนหนึ่งมาดูแลพื้นที่ด้านหน้าทำเนียบ และต้องดูแลกลุ่มพันธมิตรฯ อาจทำให้กำลังพลเกิดความอ่อนล้า แต่ตำรวจจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
ด้าน นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนยันจะปักหลักชุมนุม พร้อมเปิดเวทีไฮปาร์กบริเวณหน้าวัดเบญจมบพิตรฯซึ่งอยู่ติดกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)หลังได้ส่งตัวแทนเจรจากับนายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีของตระกูลชินวัตรแล้ว และจากการสอบถามเห็นว่าคดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ดังนั้นทางกลุ่มจึงจะปักหลักชุมนุมในบริเวณดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด