หลวงพ่อชะตาขาด ม้าเหล็กพุ่งชนขณะเดินข้ามทางรถไฟร่างเละ!!

สยอง...หลวงพ่อชะตาขาด เดินข้ามทางรถไฟ ไม่ทันมองรถไฟที่วิ่งมาอีกขบวน ทั้งที่บีบแตรให้สัญญาณ ทับร่างเละศีรษะขาด มันสมองกระจาย ก่อนรถไฟลากร่างไปไกลกว่า 50 เมตร ชาวบ้าน เผย รู้สึกสลดใจพยายามวิ่งมาบอกแต่ไม่ทัน ด้าน ตร.ระบุ พระที่มรณภาพไม่ได้สังเกตว่ามีรถไฟวิ่งมา จึงทำให้ถูกรถไฟ

วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ท.สุพล ขาวคม สารวัตรเวร สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุพระภิกษุถูกรถไฟชนมรณภาพ ที่บริเวณสถานีรถไฟบางเขน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณรางรถไฟตรงข้ามวัดเสมียนนารี พบริมทางรถไฟพบศีรษะและมันสมองกระจายอยู่โดยรอบ ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบศพพระภิกษุมรณภาพอยู่บนรางรถไฟสภาพศพสวมจีวร ศีรษะขาดแขนขาหัก ใกล้กันยังพบย่ามพระภายในบรรจุเอกสารสำคัญ และมีบาตรพระตกอยู่ ทราบชื่อต่อมา คือพระไพโรจน์ บำรุงรัตน์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 666 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 18 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. จำวัดอยู่ที่หนามพุงดอ ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี จากการตรวจสอบสภาพศพคาดว่าถูกรถไฟชนแล้วโดนลากไปไกลประมาณ 50 เมตร โดยรถไฟคันดังกล่าวเป็นรถไฟขบวนที่ 106 วิ่งระหว่างศิลาอาสน์-หัวลำโพง หลังเกิดเหตุได้ให้บริการตามปกติ

นายนิพนธ์ พรหมมา อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพระรูปดังกล่าวได้เดินข้ามรางรถไฟเพื่อจะเข้าไปภายในวัดเสมียนนารี โดยก่อนที่พระจะเดินข้ามไปได้มีรถไฟวิ่งสวนไปก่อนแล้ว 1 ขบวน จากนั้นพระรูปดังกล่าวได้เดินข้ามรางรถไฟไปโดยที่ไม่ทันสังเกตเห็นรถไฟอีกขบวนที่จะวิ่งมุ่งหน้าไปยังหัวลำโพง ซึ่งรถไฟคันดังกล่าวได้บีบแตรแล้ว แต่ไม่ทันทำให้พระมรณภาพ ตนและแม่ค้าที่เห็นก็วิ่งมาช่วยไม่ทันรู้สึกสลดใจอย่างบอกไม่ถูก

ด้าน พ.ต.ท.สุพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารภายในย่ามของพระไพโรจน์ พบว่าเป็นพระมาจากจังหวัดราชบุรี กำลังจะเดินทางมาหาพระที่วัดเสมียนนารี แต่ไม่ได้สังเกตว่ารถไฟกำลังวิ่งมา จึงเป็นเหตุให้ถูกรถไฟชนจนมรณภาพ และบริเวณดังกล่าวไม่มีสะพานลอยให้ข้ามประชาชนที่สัญจรไปมาต้องใช้การสังเกตรถไฟเองก่อนที่จะข้าม ไม่ใช่ความผิดของทางคนขับรถไฟ เบื้องต้นได้ติดต่อญาตของพระไพโรจน์เพื่อมารับศพแล้วและจะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง