สตช.ฮึ่ม ไม่เลี้ยงตำรวจที่เข้าไปมีส่วนได้เสียรับประโยชน์กับโต๊ะพนันบอล ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ โทษถึงไล่ออก ขณะที่ “พัชรวาท” ย้ำ จนท.เน้นปราบปรามร้านเน็ตที่เปิดสนับสนุนให้เล่นพนันทายผลบอลยูโรเด็ดขาด รวมถึงเจ้าของกิจการ หรือผู้จัดให้มีการชมถ่ายทอดสดการแข่งขัน ถ้าละเลยปล่อยให้มีการเล่นพนัน จับได้ถอนใบอนุญาตสถานบริการทันที
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองโฆษก ตร. กล่าวถึงมาตรการปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 (ยูโร 2008) ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-29 มิ.ย.2551 ซึ่งประเทศออสเตรียและประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวคาดว่าจะมีประชาชนลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลครั้งนี้เป็นจำนวนมาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รรท.ผบ.ตร. ให้ความสำคัญ และเป็นห่วงในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้กองพัฒนาการป้องกันและควบคุมอาชญากรรม (กพป.) ร่างคำสั่งเกี่ยวกับมาตรการปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันไว้ 3 มาตรการหลัก ประกอบด้วย ด้านการป้องกัน ด้านการปราบปราม และด้านการประชาสัมพันธ์
พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในด้านการป้องกันนั้น ก็ได้มีการจัดกำลังตำรวจทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบออกตรวจตรา ยังสถานบริการต่างๆ ที่เปิดให้มีการรับชมการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งอาจมีการแอบแฝงจัดให้มีการพนันทายผลฟุตบอลขึ้น หากพบว่ากระทำผิดก็ให้ดำเนินการจับกุม พร้อมขยายผลให้ถึงแหล่งนายทุน และเครือข่ายรับพนันทายผลฟุตบอล ทั้งที่เป็นผู้จัดให้มีการเล่นโดยตรง และทางอินเทอร์เน็ตอย่างจริงจัง และให้ทุกหน่วยขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริการอินเทอร์เน็ต ให้งดการให้บริการเว็บไซต์ที่เปิดให้มีการทายพนันผลฟุตบอล รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร หน่วยงานการศึกษา รวมทั้งธนาคาร เพื่อขอความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลเพื่อใช้ประกอบในการป้องกันปราบปราม
“ในส่วนด้านการปราบปราม ก็ให้เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุม และสอบสวนขยายผลให้ทราบถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าเจ้าของกิจการ หรือผู้ที่จัดให้มีการชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ปล่อยปละละเลยก็ให้เสนอใช้มาตรการพักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาตแก่สถานบริการนั้น โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ทั้ง บช.น. บช.ภ.1-9 และ บช.ก.ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด หากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนได้เสียได้รับผลประโยชน์ ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ มีโทษไล่ออกสถานเดียว” รองโฆษก ตร.กล่าว
พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ กล่าวต่อว่า ด้านการประชาสัมพันธ์ก็ให้ทุกหน่วยประสานความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน ในการช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดการเล่นการพนันทายผลฟุตบอล ทั้งนี้เพื่อให้คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม พิษภัยของการเล่นการพนันฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเด็กและเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของชาติต่อไป
พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากตำรวจจะใช้มาตรการดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดกับบรรดาเจ้ามือแล้ว แต่หากตรวจสอบพบเจ้ามือรายใดที่มีจำนวนผู้เข้าเล่นการพนันเกินกว่า 100 คน หรือมีวงเงินการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาท กรณีก็จะเข้าข่ายมูลฐานคดีความผิดเกี่ยว ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 มาตรา 3(9) ซึ่งตำรวจจะส่งข้อมูลให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน และนำมาตรการยึดทรัพย์เข้ามาดำเนินการ