ตำรวจ ปดส.ซ้อนแผนจับกุมหนุ่มแสบ อ้างเป็นแมวมอง หาเด็กป้อนให้วงการบันเทิง ทั้ง โอเด็ต-แพนเค้ก ก็ล้วนเป็นผู้ชักนำมาทั้งนั้น แต่สุดท้ายหลอกเด็กนักเรียนสาวเข้าโรงแรม อนาจาร และลักทรัพย์
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ บก.ปดส.เมื่อเวลา 17.00 น.พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส.พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รอง ผบก.ปดส.พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.ฝป.10 บก.ปดส.และ พ.ต.ท.กิตติภพ อนุวงศ์วรเวทย์ สว.ฝป.10 บก.ปดส.ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายธรรมณัฐราช หรือ ชิงโง ยันสุวิมล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ซ.ลาดพร้าว 55 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1610/2551 ลงวันที่ 6 พ.ค.ข้อหาพรากผู้เยาว์ไปเพื่อกระทำอนาจาร และลักทรัพย์ ได้ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม.
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้ปกครองของ น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางเขน ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.แอน ไปเรียนกวดวิชาที่สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่งย่านอนุสาวรีย์ ถูกคนร้ายอ้างเป็นโมเดลลิงหาดารานางแบบเข้าวงการ ก่อนลวงเข้าโรงแรมก่อเหตุอนาจารและลักทรัพย์
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า หลังรับแจ้งความได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รีบทำการสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ เนื่องจากถือว่ามีพฤติกรรมที่เป็นภัยร้ายแรง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวน ตรวจสอบจากกล้องวงจรภายในห้างที่เกิดเหตุ ตรวจสอบประวัติของกลุ่มผู้ต้องสงสัยจนมีภาพของผู้ต้องสงสัยกลุ่มหนึ่งมาให้ผู้เสียหายดู จนมีการยืนยันว่าเป็น นายธรรมณัฐราช ผู้ต้องหารายนี้ จึงรวบรวมหลักฐาน ก่อนขออนุมัติออกหมายจับกุม หลังจากนั้น ได้ซ้อนแผนให้ผู้เสียหายโทรศัพท์นัดให้ผู้ต้องหามาพบ แล้วเข้าทำการจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นจากการตรวจค้นผู้ต้องหาพบอัลบัมภาพของเด็กหนุ่มสาวหน้าตาดีหลายราย จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งระหว่างจับกุมก็ยังมีเด็กที่หลงเชื่อ นายชิงโง รายหนึ่งเดินตามมาด้วย
น.ส.แอน กล่าวว่า ขณะเดินผ่านป้ายรถประจำทางได้มีชายคนหนึ่งรูปร่างสูง ผิวขาว อายุประมาณ 30 ปีเศษ สวมหมวกแก๊ป แต่งกายน่าเชื่อถือ เดินเข้ามาเรียก โดยใช้มือแตะที่ไหล่ด้านหลัง จนทำให้รู้สึกมึนงง เหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ชายคนดังกล่าวได้แนะนำตัวเองว่าชื่อ “พี่ชิงโง” เป็นแมวมอง หรือที่เรียกกันว่าโมเดลลิง คอยจัดหาเด็กสาวหน้าตาดีเพื่อเป็นนางแบบ ดารา ส่งให้บริษัทต่างๆ ที่ผ่านมา ตนเคยปั้นเด็กจนโด่งดังมาแล้วหลายคน เช่น โอเด็ต แพนเค้ก และเห็นว่า หน้าตาของหนู สวย รูปร่างดี จึงอยากจะชักชวนมาเป็นนางแบบ เพื่อวันข้างหน้าอาจได้เป็นดาราชื่อดังก็ได้
น.ส.แอน ให้การต่อไปว่า หลังจากนั้น นายชิงโง ก็ชักชวนให้เข้าไปนั่งคุยกันในห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ระหว่างนั้น ยังรู้สึกงงๆ บังคับตัวเองไม่ได้ นายชิงโง จึงแนะนำว่า ให้หายใจลึกๆ หลายๆ ครั้ง เพื่อสร้างมั่นใจให้ตนเอง ก่อนจะเริ่มวิจารณ์รูปร่างของหนูว่าต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้สมส่วนมากขึ้น ตนเองมีวิธีบริหารสัดส่วนสำหรับนักแสดงโดยเฉพาะ และบอกว่าจะพาไปเทสต์หน้ากล้อง แต่เบื้องต้นก็จะต้องจ่ายค่าสมัครก่อนเป็นเงิน 350 บาท แต่สำหรับหนูขอเก็บแค่ 250 บาทเท่านั้น เมื่อจ่ายค่าสมัครไปแล้ว นายชิงโง ก็ได้พาขึ้นรถแท็กซี่ เพื่อพาไปเทสต์หน้ากล้องภายในโรงแรม 28 ย่านถนนวิสุทธิกษัตริย์
“เมื่อไปถึงห้องพักที่โรงแรมดังกล่าว นายชิงโง ได้สั่งให้ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด เพื่อขอดูสัดส่วน จากนั้น นายชิงโง ก็ทำทีตรวจดูสัดส่วน และมีการติชม จับต้องลูบคลำสัดส่วนต่างๆ แล้วก็สั่งให้นอนลงบนเตียงแล้วหลับตา แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมากไปกว่านั้น พี่สาวได้โทรศัพท์เข้ามาพอดี แต่ นายชิงโง สั่งว่าไม่ให้รับ และให้ปิดโทรศัพท์ไปเลย แต่พี่สาวก็ได้โทร.เข้ามาติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้ผู้เสียหายกลัวว่า ทางบ้านจะเป็นห่วง ที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ก็เลยร้องไห้ ทำ นายชิงโง หงุดหงิดอามณ์เสีย บอกว่าถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน ก่อนให้แต่งตัว แล้วขึ้นรถแท็กซี่พาไปส่งที่อนุสาวรีย์ชัย” น.ส.แอน กล่าว
น.ส.แอน กล่าวอีกว่า ก่อนแยกทางกัน นายชิงโง ก็ได้บอกว่าจะติดต่อกลับในภายหลัง ภายหลังตั้งสติได้แล้วผู้เสียหายแล้วได้ตรวจสอบดูพบว่าเงินสดในกระเป๋าหายไปจำนวน 2,000 บาท เชื่อว่า นายชิงโง น่าจะเป็นคนหยิบเอาไปขณะที่อยู่ในโรงแรม เมื่อกลับมาบ้านแล้วผู้ปกครองได้สอบถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ จึงเล่าเรื่องที่เกิดทั้งหมดให้ฟัง โดยเชื่อว่า นายชิงโง อาจใช้ยากล่อมประสาทบางชนิดที่คนร้ายนิยมใช้ป้ายหรือแตะตัวเหยื่อจนทำให้มึนงงควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนที่เคยเป็นข่าว พี่สาวจึงรีบพาตัวเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้าน นายธรรมณัฐราช ให้การว่า ตนเองนั้นมีอาชีพเป็นโมเดลลิงอิสระ ทำหน้าเป็นแมวมองคอยหานายแบบ นางแบบ เพื่อจัดส่งให้บริษัทโมเดลลิงใหญ่อีกทอดหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ ตนเคยทำงานอยู่กับบริษัทโมเดลลิงใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ได้ออกมาทำเองมานานกว่า 7 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะมาคอยมองหาเด็กที่อยากเข้าวงการ ที่ย่านอนุสาวรีย์ชัย เมื่อเจอเด็กหน้าตาดีก็จะเข้าไปพูดคุยแนะนำตัว ถ้าเด็กสนใจก็จะพาตัวไปเทสต์หน้ากล้องที่โรงแรม แต่ตนไม่มีค่อยมีสตางค์ จึงต้องเลือกไปใช้สถานที่ของโรงแรมราคาถูก โดยยืนยันว่า ตนไม่มีตัวยาใดๆ ที่ใช้ป้ายเพื่อทำให้เด็กหลงเชื่อ หรือคุมสติไม่ได้แต่อย่างใด
ส่วนการที่ต้องให้ถอดเสื้อผ้านั้น ก็เพื่อจะได้มองเห็นสัดส่วน กล้ามเนื้อให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้แนะนำเรื่องการออกกำลังกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อในส่วนที่บกพร่องกระชับมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่เคยทำการอนาจารใดๆ ส่วนรายของผู้เสียหายรายนี้ก็เป็นไปตามขั้นของตนทุกอย่าง คือ ต้องพาไปเทสต์หน้ากล้องเท่านั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ล่วงเกินใดๆ ส่วนเงินที่หายตนก็ไม่ได้เอาไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชิงโง ยังอ้างอีกด้วยว่า ที่ผ่านมา ตนเคยปั้นเด็กที่โด่งดังมาแล้วหลายราย เช่น “เจี๊ยบ พิจิตรา” และนายแบบ นางแบบชื่อดังอีกหลายคน แต่ไม่อย่างเอาชื่อเขามาอ้าง เพราะอาจทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนเองไม่เคยถูกจับกุมด้วยเรื่องนี้มาก่อน เชื่อว่า อาจเป็นความเข้าใจผิดกันมากกว่า
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนไม่เชื่อในคำให้การ โดยเชื่อว่า น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายที่เคยตกเป็นหยื่อของผู้ต้องหามาแล้ว ซึ่งได้สอบสวนขยายผลการดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ขอให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับวัยรุ่นทั่วไปว่าอย่าไปหลงเชื่อคนแปลกหน้าง่ายๆ ขอให้เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ปกครอง สำหรับยาประเภทที่คนร้ายใช้จะมีจริงหรือไม่ทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตรวจยืนยันได้ อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้ระมัดระวังตัวเองให้มาก เนื่องจากจะเป็นวิธีไหนก็ตามก็ถือว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อผู้หญิงอย่างมาก ส่วนผู้ต้องหารายนี้ เชื่อว่า น่าจะเคยกระทำความผิดทำนองนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่มีเสียหายเข้าแจ้งความ ดังนั้น หากมีผู้เสียหายหลายใดที่เคยตกเป็นเหยื่อก็ขอให้ติดต่อขอเข้าแจ้งความได้ บก.ปดส.
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ บก.ปดส.เมื่อเวลา 17.00 น.พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส.พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รอง ผบก.ปดส.พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.ฝป.10 บก.ปดส.และ พ.ต.ท.กิตติภพ อนุวงศ์วรเวทย์ สว.ฝป.10 บก.ปดส.ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายธรรมณัฐราช หรือ ชิงโง ยันสุวิมล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ซ.ลาดพร้าว 55 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1610/2551 ลงวันที่ 6 พ.ค.ข้อหาพรากผู้เยาว์ไปเพื่อกระทำอนาจาร และลักทรัพย์ ได้ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม.
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้ปกครองของ น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางเขน ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.แอน ไปเรียนกวดวิชาที่สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่งย่านอนุสาวรีย์ ถูกคนร้ายอ้างเป็นโมเดลลิงหาดารานางแบบเข้าวงการ ก่อนลวงเข้าโรงแรมก่อเหตุอนาจารและลักทรัพย์
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า หลังรับแจ้งความได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รีบทำการสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ เนื่องจากถือว่ามีพฤติกรรมที่เป็นภัยร้ายแรง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวน ตรวจสอบจากกล้องวงจรภายในห้างที่เกิดเหตุ ตรวจสอบประวัติของกลุ่มผู้ต้องสงสัยจนมีภาพของผู้ต้องสงสัยกลุ่มหนึ่งมาให้ผู้เสียหายดู จนมีการยืนยันว่าเป็น นายธรรมณัฐราช ผู้ต้องหารายนี้ จึงรวบรวมหลักฐาน ก่อนขออนุมัติออกหมายจับกุม หลังจากนั้น ได้ซ้อนแผนให้ผู้เสียหายโทรศัพท์นัดให้ผู้ต้องหามาพบ แล้วเข้าทำการจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นจากการตรวจค้นผู้ต้องหาพบอัลบัมภาพของเด็กหนุ่มสาวหน้าตาดีหลายราย จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งระหว่างจับกุมก็ยังมีเด็กที่หลงเชื่อ นายชิงโง รายหนึ่งเดินตามมาด้วย
น.ส.แอน กล่าวว่า ขณะเดินผ่านป้ายรถประจำทางได้มีชายคนหนึ่งรูปร่างสูง ผิวขาว อายุประมาณ 30 ปีเศษ สวมหมวกแก๊ป แต่งกายน่าเชื่อถือ เดินเข้ามาเรียก โดยใช้มือแตะที่ไหล่ด้านหลัง จนทำให้รู้สึกมึนงง เหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ชายคนดังกล่าวได้แนะนำตัวเองว่าชื่อ “พี่ชิงโง” เป็นแมวมอง หรือที่เรียกกันว่าโมเดลลิง คอยจัดหาเด็กสาวหน้าตาดีเพื่อเป็นนางแบบ ดารา ส่งให้บริษัทต่างๆ ที่ผ่านมา ตนเคยปั้นเด็กจนโด่งดังมาแล้วหลายคน เช่น โอเด็ต แพนเค้ก และเห็นว่า หน้าตาของหนู สวย รูปร่างดี จึงอยากจะชักชวนมาเป็นนางแบบ เพื่อวันข้างหน้าอาจได้เป็นดาราชื่อดังก็ได้
น.ส.แอน ให้การต่อไปว่า หลังจากนั้น นายชิงโง ก็ชักชวนให้เข้าไปนั่งคุยกันในห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ระหว่างนั้น ยังรู้สึกงงๆ บังคับตัวเองไม่ได้ นายชิงโง จึงแนะนำว่า ให้หายใจลึกๆ หลายๆ ครั้ง เพื่อสร้างมั่นใจให้ตนเอง ก่อนจะเริ่มวิจารณ์รูปร่างของหนูว่าต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้สมส่วนมากขึ้น ตนเองมีวิธีบริหารสัดส่วนสำหรับนักแสดงโดยเฉพาะ และบอกว่าจะพาไปเทสต์หน้ากล้อง แต่เบื้องต้นก็จะต้องจ่ายค่าสมัครก่อนเป็นเงิน 350 บาท แต่สำหรับหนูขอเก็บแค่ 250 บาทเท่านั้น เมื่อจ่ายค่าสมัครไปแล้ว นายชิงโง ก็ได้พาขึ้นรถแท็กซี่ เพื่อพาไปเทสต์หน้ากล้องภายในโรงแรม 28 ย่านถนนวิสุทธิกษัตริย์
“เมื่อไปถึงห้องพักที่โรงแรมดังกล่าว นายชิงโง ได้สั่งให้ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด เพื่อขอดูสัดส่วน จากนั้น นายชิงโง ก็ทำทีตรวจดูสัดส่วน และมีการติชม จับต้องลูบคลำสัดส่วนต่างๆ แล้วก็สั่งให้นอนลงบนเตียงแล้วหลับตา แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมากไปกว่านั้น พี่สาวได้โทรศัพท์เข้ามาพอดี แต่ นายชิงโง สั่งว่าไม่ให้รับ และให้ปิดโทรศัพท์ไปเลย แต่พี่สาวก็ได้โทร.เข้ามาติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้ผู้เสียหายกลัวว่า ทางบ้านจะเป็นห่วง ที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ก็เลยร้องไห้ ทำ นายชิงโง หงุดหงิดอามณ์เสีย บอกว่าถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน ก่อนให้แต่งตัว แล้วขึ้นรถแท็กซี่พาไปส่งที่อนุสาวรีย์ชัย” น.ส.แอน กล่าว
น.ส.แอน กล่าวอีกว่า ก่อนแยกทางกัน นายชิงโง ก็ได้บอกว่าจะติดต่อกลับในภายหลัง ภายหลังตั้งสติได้แล้วผู้เสียหายแล้วได้ตรวจสอบดูพบว่าเงินสดในกระเป๋าหายไปจำนวน 2,000 บาท เชื่อว่า นายชิงโง น่าจะเป็นคนหยิบเอาไปขณะที่อยู่ในโรงแรม เมื่อกลับมาบ้านแล้วผู้ปกครองได้สอบถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ จึงเล่าเรื่องที่เกิดทั้งหมดให้ฟัง โดยเชื่อว่า นายชิงโง อาจใช้ยากล่อมประสาทบางชนิดที่คนร้ายนิยมใช้ป้ายหรือแตะตัวเหยื่อจนทำให้มึนงงควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนที่เคยเป็นข่าว พี่สาวจึงรีบพาตัวเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้าน นายธรรมณัฐราช ให้การว่า ตนเองนั้นมีอาชีพเป็นโมเดลลิงอิสระ ทำหน้าเป็นแมวมองคอยหานายแบบ นางแบบ เพื่อจัดส่งให้บริษัทโมเดลลิงใหญ่อีกทอดหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ ตนเคยทำงานอยู่กับบริษัทโมเดลลิงใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ได้ออกมาทำเองมานานกว่า 7 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะมาคอยมองหาเด็กที่อยากเข้าวงการ ที่ย่านอนุสาวรีย์ชัย เมื่อเจอเด็กหน้าตาดีก็จะเข้าไปพูดคุยแนะนำตัว ถ้าเด็กสนใจก็จะพาตัวไปเทสต์หน้ากล้องที่โรงแรม แต่ตนไม่มีค่อยมีสตางค์ จึงต้องเลือกไปใช้สถานที่ของโรงแรมราคาถูก โดยยืนยันว่า ตนไม่มีตัวยาใดๆ ที่ใช้ป้ายเพื่อทำให้เด็กหลงเชื่อ หรือคุมสติไม่ได้แต่อย่างใด
ส่วนการที่ต้องให้ถอดเสื้อผ้านั้น ก็เพื่อจะได้มองเห็นสัดส่วน กล้ามเนื้อให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้แนะนำเรื่องการออกกำลังกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อในส่วนที่บกพร่องกระชับมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่เคยทำการอนาจารใดๆ ส่วนรายของผู้เสียหายรายนี้ก็เป็นไปตามขั้นของตนทุกอย่าง คือ ต้องพาไปเทสต์หน้ากล้องเท่านั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ล่วงเกินใดๆ ส่วนเงินที่หายตนก็ไม่ได้เอาไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชิงโง ยังอ้างอีกด้วยว่า ที่ผ่านมา ตนเคยปั้นเด็กที่โด่งดังมาแล้วหลายราย เช่น “เจี๊ยบ พิจิตรา” และนายแบบ นางแบบชื่อดังอีกหลายคน แต่ไม่อย่างเอาชื่อเขามาอ้าง เพราะอาจทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนเองไม่เคยถูกจับกุมด้วยเรื่องนี้มาก่อน เชื่อว่า อาจเป็นความเข้าใจผิดกันมากกว่า
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนไม่เชื่อในคำให้การ โดยเชื่อว่า น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายที่เคยตกเป็นหยื่อของผู้ต้องหามาแล้ว ซึ่งได้สอบสวนขยายผลการดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ขอให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับวัยรุ่นทั่วไปว่าอย่าไปหลงเชื่อคนแปลกหน้าง่ายๆ ขอให้เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ปกครอง สำหรับยาประเภทที่คนร้ายใช้จะมีจริงหรือไม่ทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตรวจยืนยันได้ อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้ระมัดระวังตัวเองให้มาก เนื่องจากจะเป็นวิธีไหนก็ตามก็ถือว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อผู้หญิงอย่างมาก ส่วนผู้ต้องหารายนี้ เชื่อว่า น่าจะเคยกระทำความผิดทำนองนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่มีเสียหายเข้าแจ้งความ ดังนั้น หากมีผู้เสียหายหลายใดที่เคยตกเป็นเหยื่อก็ขอให้ติดต่อขอเข้าแจ้งความได้ บก.ปดส.