หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญคนร้ายใช้สายไฟฆ่ารัดคอ ด.ญ.อายุ 7 ขวบ หวังข่มขืน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามสืบจนรวบตัวคนร้ายเอาไว้ได้ ที่แท้เป็นวัยรุ่นขี้เมาข้างห้อง หลังหลักฐานมัดจนยอมรับสารภาพสิ้น กินเหล้ากับเพื่อนจนเมาแล้วเกิดอารมณ์เปลี่ยว เห็นเหยื่อนอนอยู่คนเดียวจึงงัดบานเกร็ดเข้าไปพยายามข่มขืน ก่อนจะใช้สายไฟรัดคอจนเสียชีวิตเพราะกลัวเด็กจำหน้าได้
วานนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 21.30 น. ความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวคนร้ายคดีฆ่ารัดคอ ด.ญ.ระวีพรรณ ทองใบ หรือน้องพลอย อายุ 7 ปี ภายในอาคารเปี๊ยก แมนชั่น เลขที่ 129/145-148 ชั้นที่ 2 ห้อง 122 ซอยแจ้งวัฒนะซอย 10 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อแบ่งงานการสืบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐานเปรียบเทียบผลตรวจในที่เกิดเหตุ โดยได้นำคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างภายในซอยแจ้งวัฒนะซอย 10 รวมไปถึงกลุ่มวัยรุ่น และบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในอาคารเปี๊ยก แมนชั่น ที่ต้องสงสัย ประมาณ 30 คนมาตรวจลายนิ้วมือเปรียบเทียบหลักฐานในที่เกิดเหตุและสอบปากคำ โดยพบผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้จำนวน 5 คน ซึ่งมีชายวัยรุ่น 1 คน คือนายอำนาจ เต่าทอง อายุ 21 ปี ที่เช่าห้องอยู่ติดกับห้องของผู้ตาย โดยพบหลักฐานบ่งชี้ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นผู้ก่อเหตุ แต่จากการสอบปากคำยังให้การวกวนและให้การปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการรอผลตรวจจากนิติวิทยาศาสตร์ก่อน หลังจากนั้นจึงจะสามารถออกหมายจับชายต้องสงสัยดังกล่าวได้
ต่อมาเวลา 22.00 น. พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดย พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้คดียังมีความชัดเจนไม่มากนัก อยู่ในระหว่างการสอบสวน ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในที่เกิดเหตุพบหลักฐานหลายอย่างทั้งรอยนิ้วมือ เลือด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจจากทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจน แต่จากการสอบปากคำและการรวบรวมพยานหลักฐานมีข้อบ่งชี้ชัดเจนหลายอย่างหลายอย่างว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นผู้ฆาตกรรมน้องพลอย โดยคาดว่าน่าจะขออนุมัติออกหมายจับได้ภายในคืนนี้
จนกระทั่งเมื่อเวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติออกหมายจับ นายอำนาจ เต่าทอง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 6 ต.หนองอียอ อ.สนม จ.สุรินทร์ พนักงานเต้นท์รถยนต์ ย่านถนนแจ้งวัฒนะ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมได้ในช่วงเย็นใกล้กับที่เกิดเหตุ ขณะกลับมาเก็บเสื้อผ้าที่ห้องเพื่อเตรียมหลบหนี
ด้านนายอำนาจ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งกินเบียร์อยู่กับเพื่อน 3 คน จนกระทั่งเมา โดยหลังจากที่ไปส่งเพื่อนเสร็จแล้ว ขณะเดินกลับมาที่ห้องพักเห็นว่าผู้ตายนอนอยู่ภายในห้องเพียงคนเดียวจึงงัดกระจกบานเกร็ดออกและเปิดมุ้งลวดเข้าไป จากนั้นผู้ตายได้ตื่นขึ้นมาและใช้ไม้กวาดตีเข้าที่มือของตนขณะที่กำลังงัดบานเกร็ด แต่ตนก็พยายามเปิดประตูจนได้และเข้าไปในห้อง เอามือปิดปากผู้ตาย จากนั้นก็พยายามข่มขืนโดยใช้นิ้วมือแหย่เข้าไปที่อวัยวะเพศจนผู้ตายร้อง ตนจึงบีบคอจนผู้ตายจนอ่อนแรง จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าและนำสายไฟจากตะกร้าภายในห้องมารัดคอจนเสียชีวิต ตนยอมรับว่าตั้งใจที่จะเข้าไปข่มขืน เพราะอยู่ในอาการเมาจึงเกิดอารมณ์เปลี่ยว ส่วนที่ต้องฆ่าเพราะกลัวว่าผู้ตายจะจำหน้าได้
ด้าน พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวว่า จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ ผลตรวจดีเอ็นเอ และรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุสามารถมัดตัวจนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อย่างไรก็ตาม คงจะไม่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว ที่สำคัญเป็นเหตุสะเทือนขวัญจะเป็นการทำร้ายจิตใจแม่ของผู้ตาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญาถนนรัชดาฯ ในวันที่ 5 พ.ค.นี้
สลด!โจ๋ใจโหดใช้สายไฟรัดคอเด็ก 7 ขวบ คาดข่มขืนก่อนฆ่า