ตร.ระบุ ติดชื่อ “THAKSIN” บนธงชาติ จะมีความผิดก็ต่อเมื่อมีเจตนาเหยียดหยามประเทศ ในกรณีที่เกิดขึ้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ธงเท่านั้น ไม่สามารถเอาผิดได้ในกรณีที่กระทำนอกราชอาณาจักรได้ ยัน ไม่ได้เป็นการชี้นำพนักงานสอบสวน
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีมีการนำธงชาติไทยติดชื่อ “THAKSIN” นั้น ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติสนใจเรื่องนี้มาก ล่าสุด พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ผู้ช่วย ผบ.ตร.งานสืบสวนสอบสวนได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานกฎหมายและสอบสวน กองคดี เพื่อหารือและมีข้อพิจารณาเรื่องนี้แล้ว ซึ่งมองว่าเข้าข่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ คือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118 และ พ.ร.บ.ธง พ.ศ. 2522 มาตรา 53 ที่ว่าห้ามประกอบเครื่องหมาย อักษร ข้อความต่างๆในผืนธงโดยไม่สมควรซึ่งมีโทษจำคุก
“จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมวลชน หากพิจารณาตาม ป.อาญามาตรา 118 จะมีความผิดก็ต่อเมื่อมีเจตนาพิเศษ คือ ต้องการเหยียดหยามประเทศ แต่การพิจารณาในขั้นต้น ที่ประชุมมีความเห็นว่ายังไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ที่ว่าเจตนาเหยียดหยามประเทศ แต่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ธงเท่านั้น ซึ่งความผิดตาม พ.ร.บ.ธง ไม่สามารถเอาผิดในกรณีที่กระทำนอกราชอาณาจักรได้ มีเพียงความผิดตาม ป.อาญามาตรา 118 เท่านั้นที่เอาผิดนอกราชอาณาจักรได้ ซึ่งอำนาจสอบสวนเป็นของอัยการ” โฆษก ตร.กล่าว และว่า ถึงแม้การพิจารณาของคณะทำงานของ ตร.จะมีความเห็นเบื้องต้นว่าไม่มีความผิดตามกฎหมายอาญา แต่ก็เป็นเพียงความเห็นจากการพิจารณาข้อมูลจากข่าวเท่านั้น ยังไม่ถึงที่สุด และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการชี้นำพนักงานสอบสวน
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการมาร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องนี้ที่กองบังคับการปราบปราม พนักงานสอบสวนก็รับเรื่องไว้ พิจารณาตามกฎหมาย และต้องสอบสวนเบื้องต้นส่งสำนวนให้อัยการเป็นผู้สอบสวนต่อ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ในกรณีที่เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร อำนาจสอบสวนเป็นของอัยการ จากนั้นอัยการจะพิจารณาว่าจะสอบสวนเอง หรือส่งมาให้พนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนก็ได้ ซึ่งจากนั้นก็ต้องสอบสวนพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไปต่างชาติสามารถนำธงชาติไทยไปทำอะไรก็ได้ เพราะไม่สามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า กรณีเช่นนี้ก็ต้องดูข้อเท็จจริง และการดำเนินคดีก็เป็นความเห็นของอัยการ ต้องดูที่เจตนา หากมีเจตนาเข้าองค์ประกอบความผิดก็สามารถดำเนินคดีได้ และสามารถดำเนินการส่งตัวผู้กระทำผิดในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนได้