พ.อ.พิเศษแห่งหน่วยทหารพัฒนา ทำธุรกิจเจ๊ง จนเป็นหนี้เป็นสิน ใช้อาวุธปืนจ่อขมับยิงภรรบาเสียชีวิต แล้วใช้ทูตมรณะกระบอกเดียวกันจ่อขมับลั่นไกตายตาม
วันนี้ (30 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.อานพ วินัยโรจน์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งพบศพถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 2 ศพ ภายในบริษัท มอนก้า เทรดดิ้ง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 413 ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.มัณฑาร อภัยวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว นายทหารพระธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิด ภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบต่อมาชื่อ พ.อ.(พิเศษ) สิทธิชัย โฉมนาค อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองยุทธบริการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย (ผช.ผอ.กยก.นทพ.) สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้น มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.เข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุกกหูซ้าย บนหน้าอกพบอาวุธปืน 11 มม.ตกอยู่จำนวน 1 กระบอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายอยู่ถัดไปเล็กน้อย เป็นหญิงทราบชื่อต่อมา คือ นางมาณวิกา โฉมนาค อายุ 37 ปี ภรรยาของ พันเอก (พิเศษ) สิทธิชัย สภาพศพ นอนหงายสวมชุดนอนสีฟ้าอ่อน มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณขมับขวา ทะลุหน้าผากบริเวณเหนือคิ้วซ้าย จำนวน 1 นัด
จากการสอบสวน นายนายมนัส พันธุ์เสงี่ยม อายุ 67 ปี พ่อของ นางมาณวิกา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ชั้นล่างของบ้านหลังดังกล่าว กับลูกชายคนเล็กอีกคนหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงของตกดังมาจากชั้น 2 ของบ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 2 นัดซ้อน จึงรีบขึ้นไปดูชั้นบน ก็พบว่าทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุนั้น อาจจะมาจากที่ฝ่ายชายเครียดเรื่องหนี้สินจากธุรกิจ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุลูกสาวกับลูกเขยทั้งสองคน ได้มาขอยืมเงินจากตนจำนวน 2 ล้านบาท โดยนัดกันว่าช่วงเวลา 09.00 น.ตนกับทั้งสองคนจะไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงเทพมา แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน
ด้าาน พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำญาติของผู้ตายเบื้องต้นคาดว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิน อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบปากคำญาติ และผู้บังคับบัญชาและลูกน้องใกล้ชิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาหาเหตุที่แท้จริงต่อไป
วันนี้ (30 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.อานพ วินัยโรจน์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งพบศพถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 2 ศพ ภายในบริษัท มอนก้า เทรดดิ้ง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 413 ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.มัณฑาร อภัยวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว นายทหารพระธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิด ภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบต่อมาชื่อ พ.อ.(พิเศษ) สิทธิชัย โฉมนาค อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองยุทธบริการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย (ผช.ผอ.กยก.นทพ.) สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้น มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.เข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุกกหูซ้าย บนหน้าอกพบอาวุธปืน 11 มม.ตกอยู่จำนวน 1 กระบอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายอยู่ถัดไปเล็กน้อย เป็นหญิงทราบชื่อต่อมา คือ นางมาณวิกา โฉมนาค อายุ 37 ปี ภรรยาของ พันเอก (พิเศษ) สิทธิชัย สภาพศพ นอนหงายสวมชุดนอนสีฟ้าอ่อน มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณขมับขวา ทะลุหน้าผากบริเวณเหนือคิ้วซ้าย จำนวน 1 นัด
จากการสอบสวน นายนายมนัส พันธุ์เสงี่ยม อายุ 67 ปี พ่อของ นางมาณวิกา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ชั้นล่างของบ้านหลังดังกล่าว กับลูกชายคนเล็กอีกคนหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงของตกดังมาจากชั้น 2 ของบ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 2 นัดซ้อน จึงรีบขึ้นไปดูชั้นบน ก็พบว่าทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุนั้น อาจจะมาจากที่ฝ่ายชายเครียดเรื่องหนี้สินจากธุรกิจ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุลูกสาวกับลูกเขยทั้งสองคน ได้มาขอยืมเงินจากตนจำนวน 2 ล้านบาท โดยนัดกันว่าช่วงเวลา 09.00 น.ตนกับทั้งสองคนจะไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงเทพมา แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน
ด้าาน พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำญาติของผู้ตายเบื้องต้นคาดว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิน อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบปากคำญาติ และผู้บังคับบัญชาและลูกน้องใกล้ชิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาหาเหตุที่แท้จริงต่อไป
