เมียใจเด็ด นั่งแท็กซี่ตามผัวที่ซิ่งปิกอัพหนี ไปยืนขวางกลางถนน แล้วกระโดดขึ้นฝากระโปรงรถ เกาะไม่ยอมปล่อย ในขณะที่ผัวใจโหด ซิ่งปาดซ้ายปาดขวาหวังให้เมียตกรถ แต่ไม่เป็นผล สุดท้ายพุ่งชนเกาะกลางถนน จนเมียเสียชีวิตคาที่ ตัวเองเจ็บ แต่พอรู้สึกตัวทำไขสือ ถามหาเมียหายไปไหน
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.มงคล ศรีรักษา สารวัตรเวร สภ.บางศรีเมือง รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายบริเวณถนนราชพฤกษ์ ตัดใหม่มุ่งหน้าสะพานพระราม 4 ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ สวญ.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.สายชล โพธิ์ขอม สวป.พ.ต.ต.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ สว.สส.มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามโรงแรม “เอริค” เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถปิกอัพยี่ห้อ อีซูซุ แค็บ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตน 5424 กทม.ชนขอบปูนฟุตปาธริมถนน จนพังยับทั้งคัน ห่างไปเล็กน้อยพบศพ นางอโณทัย สุดนาม อายุ 51 ปี พักอยู่เลขที่ 39/390 “เรวดีเพลส” ม.1 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี นอนเสียชีวิตในชุดกางเกงยีนส์ เสื้อสายเดี่ยวสีดำ มีบาดแผลที่ศีรษะมันสมองแตกกระจาย ส่วนคนเจ็บอีก 2 คน ถูกนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้า ทราบชื่อต่อมาคือนายฐิติ สุดนาม อายุ 33 ปี กับ นายพงศกร สุดนาม อายุ 31 ปี ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเลือดอาบ แพทย์ต้องนำเข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อรอเช็กอาการ
ตำรวจสอบสวน นายมาโนช ธรรมวุฒิ อายุ 43 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฉ 847 กทม.ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้รับผู้ตายจากที่ว่าการอำเภอบางบัวทอง ระหว่างทางเห็นผู้ตายพูดโทรศัพท์ตลอดเวลาว่าจะเอารถตนเองไปไหน ให้เอามาคืน จากนั้นผู้ตายก็ได้บอกให้ตนเองขับรถมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ มุ่งหน้ามาทางสะพานพระนั่งเกล้า ก่อนที่จะให้ยูเทิร์นกลับมาทางถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกอีกครั้ง จนรถวิ่งมาถึงหน้าปั๊มน้ำมัน อาร์.บี.ผู้ตายได้เปิดประตูรถแท็กซี่ลงมายืนขวางรถปิกอัพคันเกิดเหตุที่วิ่งมาด้วยความเร็ว พร้อมทั้งตะโกนว่า “มึงจะเอารถกูไปไหน” แต่คนขับไม่สนใจกลับเร่งเครื่องจะออกรถ ผู้ตายจึงกระโดดขึ้นฝากระโปรงหน้า พร้อมทั้งตะโกนบอกให้ตนเองขับตามไป เพื่อไปเก็บค่าโดยสารที่ยังไม่ได้จ่าย
ระหว่างที่ตนเองซิ่งรถติดตามรถปิกอัพไปตลอดทางนั้น สังเกตเห็นคนขับพยายามขับรถแกว่งไปมา เพื่อให้หญิงสาวตกลงมา แต่ไม่เป็นผล จนรถวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุคนขับได้ตัดสินใจหักพวงมาลัยชนรั้วเหล็กกั้นถนนจนรถเสียหลัก เพราะวิ่งมาด้วยความเร็วจึงไถลไปชนกับรั้วปูนเกาะกลางจนนางอโณทัยร่างกระแทกขอบปูนอย่างจังเสียคาชีวิตคาที่ ส่วนรถปิกอัพได้รับความเสียหายทั้งคัน ขณะที่คนขับ คือ นายฐิติ กับน้องชาย คือ นายพงศกร ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในรถพบเอกสารหลักฐานระบุชื่อเจ้าของรถ คือ นางอโณทัย ผู้ตาย นอกจากนี้ ยังพบบัตรประจำตัวทำงานของ นายฐิติ สุดนาม สามีผู้ตายทำงานอยู่บริษัท กรุงเทพประกันภัย ตำแหน่ง รปภ.พร้อมเสื้อผ้าอีกกล่องใหญ่ของ นายฐิติ ด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่ เรวดีเพลส สอบปากคำเพื่อนห้องข้างเคียง ทราบว่า ทั้งคู่อยู่กินด้วยกันที่ห้องดังกล่าวจริง และมักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่เว้นในแต่ละวัน จนรู้กันทั่ว โดยฝ่ายหญิงทราบแต่ว่าเคยเป็นอดีตนักร้อง ร้องเพลงอยู่ในห้องอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ส่วนฝ่ายชายทำงานเป็น รปภ.สันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุฝ่ายชายอาจจะคิดตีจากเก็บเสื้อผ้าข้าวของ พร้อมทั้งขับรถของผู้ตายออกจากที่พัก แต่ผู้ตายทราบเรื่องจึงโทร.ตามตลอดเวลาเพื่อขอรถคืน แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเจรจาด้วย จนผู้ตายกระโดดขึ้นฝากระโปรงรถ และถูกนายฐิติซิ่งฝ่ามฤตยูจนรถไปชนเกาะกลางถนนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
ต่อมาทาง พ.ต.ต.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ สว.สส.พร้อมชุดสืบสวนเดินทางไปที่ รพ.พระนั่งเกล้า เพื่ออายัดตัว นายฐิติ กับน้องชาย ไว้สอบสวนปากคำ แต่ผู้บาดเจ็บทั้งสองคนยังอยู่ในห้องฉุกเฉินรอทำบาดแผล โดย นายฐิติ ยังมีอาการเบลอ พูดจาไม่รู้เรื่องบ่นแต่ว่าตนเองขับรถไปชนอะไรมาแล้วภรรยาไปไหน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คงต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อน เพื่อสอบปากคำหาความจริง ว่า นายฐิติ ก่อเหตุตั้งใจขับรถฆาตกรรม ทำให้ภรรยาเสียชีวิตหรือไม่ หรือว่าเป็นอุบัติเหตุขับรถประมาทจนมีผู้เสียชีวิต หากพบว่าเป็นการตั้งใจก่อเหตุเพื่อฆ่าภรรยาของตัวเองก็จะตั้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.มงคล ศรีรักษา สารวัตรเวร สภ.บางศรีเมือง รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายบริเวณถนนราชพฤกษ์ ตัดใหม่มุ่งหน้าสะพานพระราม 4 ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ สวญ.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.สายชล โพธิ์ขอม สวป.พ.ต.ต.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ สว.สส.มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามโรงแรม “เอริค” เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถปิกอัพยี่ห้อ อีซูซุ แค็บ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตน 5424 กทม.ชนขอบปูนฟุตปาธริมถนน จนพังยับทั้งคัน ห่างไปเล็กน้อยพบศพ นางอโณทัย สุดนาม อายุ 51 ปี พักอยู่เลขที่ 39/390 “เรวดีเพลส” ม.1 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี นอนเสียชีวิตในชุดกางเกงยีนส์ เสื้อสายเดี่ยวสีดำ มีบาดแผลที่ศีรษะมันสมองแตกกระจาย ส่วนคนเจ็บอีก 2 คน ถูกนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้า ทราบชื่อต่อมาคือนายฐิติ สุดนาม อายุ 33 ปี กับ นายพงศกร สุดนาม อายุ 31 ปี ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเลือดอาบ แพทย์ต้องนำเข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อรอเช็กอาการ
ตำรวจสอบสวน นายมาโนช ธรรมวุฒิ อายุ 43 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฉ 847 กทม.ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้รับผู้ตายจากที่ว่าการอำเภอบางบัวทอง ระหว่างทางเห็นผู้ตายพูดโทรศัพท์ตลอดเวลาว่าจะเอารถตนเองไปไหน ให้เอามาคืน จากนั้นผู้ตายก็ได้บอกให้ตนเองขับรถมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ มุ่งหน้ามาทางสะพานพระนั่งเกล้า ก่อนที่จะให้ยูเทิร์นกลับมาทางถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกอีกครั้ง จนรถวิ่งมาถึงหน้าปั๊มน้ำมัน อาร์.บี.ผู้ตายได้เปิดประตูรถแท็กซี่ลงมายืนขวางรถปิกอัพคันเกิดเหตุที่วิ่งมาด้วยความเร็ว พร้อมทั้งตะโกนว่า “มึงจะเอารถกูไปไหน” แต่คนขับไม่สนใจกลับเร่งเครื่องจะออกรถ ผู้ตายจึงกระโดดขึ้นฝากระโปรงหน้า พร้อมทั้งตะโกนบอกให้ตนเองขับตามไป เพื่อไปเก็บค่าโดยสารที่ยังไม่ได้จ่าย
ระหว่างที่ตนเองซิ่งรถติดตามรถปิกอัพไปตลอดทางนั้น สังเกตเห็นคนขับพยายามขับรถแกว่งไปมา เพื่อให้หญิงสาวตกลงมา แต่ไม่เป็นผล จนรถวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุคนขับได้ตัดสินใจหักพวงมาลัยชนรั้วเหล็กกั้นถนนจนรถเสียหลัก เพราะวิ่งมาด้วยความเร็วจึงไถลไปชนกับรั้วปูนเกาะกลางจนนางอโณทัยร่างกระแทกขอบปูนอย่างจังเสียคาชีวิตคาที่ ส่วนรถปิกอัพได้รับความเสียหายทั้งคัน ขณะที่คนขับ คือ นายฐิติ กับน้องชาย คือ นายพงศกร ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในรถพบเอกสารหลักฐานระบุชื่อเจ้าของรถ คือ นางอโณทัย ผู้ตาย นอกจากนี้ ยังพบบัตรประจำตัวทำงานของ นายฐิติ สุดนาม สามีผู้ตายทำงานอยู่บริษัท กรุงเทพประกันภัย ตำแหน่ง รปภ.พร้อมเสื้อผ้าอีกกล่องใหญ่ของ นายฐิติ ด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่ เรวดีเพลส สอบปากคำเพื่อนห้องข้างเคียง ทราบว่า ทั้งคู่อยู่กินด้วยกันที่ห้องดังกล่าวจริง และมักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่เว้นในแต่ละวัน จนรู้กันทั่ว โดยฝ่ายหญิงทราบแต่ว่าเคยเป็นอดีตนักร้อง ร้องเพลงอยู่ในห้องอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ส่วนฝ่ายชายทำงานเป็น รปภ.สันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุฝ่ายชายอาจจะคิดตีจากเก็บเสื้อผ้าข้าวของ พร้อมทั้งขับรถของผู้ตายออกจากที่พัก แต่ผู้ตายทราบเรื่องจึงโทร.ตามตลอดเวลาเพื่อขอรถคืน แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเจรจาด้วย จนผู้ตายกระโดดขึ้นฝากระโปรงรถ และถูกนายฐิติซิ่งฝ่ามฤตยูจนรถไปชนเกาะกลางถนนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
ต่อมาทาง พ.ต.ต.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ สว.สส.พร้อมชุดสืบสวนเดินทางไปที่ รพ.พระนั่งเกล้า เพื่ออายัดตัว นายฐิติ กับน้องชาย ไว้สอบสวนปากคำ แต่ผู้บาดเจ็บทั้งสองคนยังอยู่ในห้องฉุกเฉินรอทำบาดแผล โดย นายฐิติ ยังมีอาการเบลอ พูดจาไม่รู้เรื่องบ่นแต่ว่าตนเองขับรถไปชนอะไรมาแล้วภรรยาไปไหน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คงต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อน เพื่อสอบปากคำหาความจริง ว่า นายฐิติ ก่อเหตุตั้งใจขับรถฆาตกรรม ทำให้ภรรยาเสียชีวิตหรือไม่ หรือว่าเป็นอุบัติเหตุขับรถประมาทจนมีผู้เสียชีวิต หากพบว่าเป็นการตั้งใจก่อเหตุเพื่อฆ่าภรรยาของตัวเองก็จะตั้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป