ตำรวจจับกุม ชาวเวียดนาม และกัมพูชา แฝงตัวปะปนไปเล่นน้ำสงกรานต์บนถนนข้าวสาร แล้วใช้ปืนฉีดน้ำปิดบังก่อนจะล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวฉกทรัพย์สิน
วันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สส.บก.น.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งชาวต่างชาติล้วงประเป๋าประชาชนที่เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์บริเวณถนนข้าวสาร ได้ผู้ต้องหา 6 ราย ประกอบด้วยนายคาน ฟาม อายุ 43 ปี นายเงียน ฮอง มิน อายุ 22 ปี นายฮา วาน ตอง อายุ 28 ปี นายเงียน โงก คัก อายุ 39 ปี นางเงียน ทิ ฟอง เดียน อายุ 32 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม และนายชาน เฮง อายุ 36 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 6110 สีดำ 1 เครื่อง และกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดจำนวน 1,440 บาท โดยกล่างหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สมคบกันกับพวกที่หลบหนีกระทำการเป็นซ่องโจรเพื่อลักทรัพย์ และหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.อัศวิน เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขุ้นในถนนข้าวสารได้มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาร่วมเล่นน้ำบริเวณดังกล่าว ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มมิฉาชีพแฝงตัวปะปนเข้ามาล้วงกระเป๋าประชาชนชาวไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก วานนี้ (13 เม.ย.) พ.ต.อ.ปิยะภาส ปิยะมงคล ผกก.สส.บก.น.1 จึงนำกำลังเฝ้าจุดสะกดรอย ปิดล้อมพื้นที่ล่อแหลม รวมทั้งแฝงตัวเข้าไปกับฝูงชน จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 คนได้บริเวณถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ในช่วงเทศกาลต่างๆ จะใช้พาสปอร์ตเดินทางเข้ามาประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว จากนั้นก็จะตระเวนออกลักทรัพย์ล้วงกระเป๋าประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ โดยในพื้นที่ถนนข้าวสาร กลุ่มผู้ต้องหาจะลงมือกันเป็นทีม คนหนึ่งใช้ปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่บังไว้เพื่อให้อีกคนล้วงกระเป๋า ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งหมดยังพบว่า บางคนเคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ที่ ท้องที่ สน.บางซื่อ มาแล้ว โดยไปล้วงกระเป๋าผู้เสียหายในสวนจตุจักร
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กลุ่มผู้ต้องหาพวกนี้มักจะเข้ามาในไทยตามเทศกาลต่างๆ โดยเข้ามาครั้งหนึ่ง 30-40 คน ใช้พาสปอร์ตเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวซึ่งจะสามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน จากนั้นก็ตระเวนออกล้วงกระเป๋าในท้องที่ต่างๆ โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ก็จะถูกดำเนิคดีพร้อมทั้งขึ้นในแบล็คลิสต์ของ สตม.ทำให้ไม่สามารถเข้ามาในประเทศไทยได้อีก สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นชาวกัมพูชาเพียงคนเดียวนั้น จะต้องสอบสวนขยายผลอีกว่า มีเพื่อนร่วมขบวนการอีกกี่คน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า จะมีการทำกันเป็นกลุ่มแก๊ง
วันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สส.บก.น.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งชาวต่างชาติล้วงประเป๋าประชาชนที่เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์บริเวณถนนข้าวสาร ได้ผู้ต้องหา 6 ราย ประกอบด้วยนายคาน ฟาม อายุ 43 ปี นายเงียน ฮอง มิน อายุ 22 ปี นายฮา วาน ตอง อายุ 28 ปี นายเงียน โงก คัก อายุ 39 ปี นางเงียน ทิ ฟอง เดียน อายุ 32 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม และนายชาน เฮง อายุ 36 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 6110 สีดำ 1 เครื่อง และกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดจำนวน 1,440 บาท โดยกล่างหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สมคบกันกับพวกที่หลบหนีกระทำการเป็นซ่องโจรเพื่อลักทรัพย์ และหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.อัศวิน เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขุ้นในถนนข้าวสารได้มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาร่วมเล่นน้ำบริเวณดังกล่าว ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มมิฉาชีพแฝงตัวปะปนเข้ามาล้วงกระเป๋าประชาชนชาวไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก วานนี้ (13 เม.ย.) พ.ต.อ.ปิยะภาส ปิยะมงคล ผกก.สส.บก.น.1 จึงนำกำลังเฝ้าจุดสะกดรอย ปิดล้อมพื้นที่ล่อแหลม รวมทั้งแฝงตัวเข้าไปกับฝูงชน จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 คนได้บริเวณถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ในช่วงเทศกาลต่างๆ จะใช้พาสปอร์ตเดินทางเข้ามาประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว จากนั้นก็จะตระเวนออกลักทรัพย์ล้วงกระเป๋าประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ โดยในพื้นที่ถนนข้าวสาร กลุ่มผู้ต้องหาจะลงมือกันเป็นทีม คนหนึ่งใช้ปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่บังไว้เพื่อให้อีกคนล้วงกระเป๋า ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งหมดยังพบว่า บางคนเคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ที่ ท้องที่ สน.บางซื่อ มาแล้ว โดยไปล้วงกระเป๋าผู้เสียหายในสวนจตุจักร
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กลุ่มผู้ต้องหาพวกนี้มักจะเข้ามาในไทยตามเทศกาลต่างๆ โดยเข้ามาครั้งหนึ่ง 30-40 คน ใช้พาสปอร์ตเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวซึ่งจะสามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน จากนั้นก็ตระเวนออกล้วงกระเป๋าในท้องที่ต่างๆ โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ก็จะถูกดำเนิคดีพร้อมทั้งขึ้นในแบล็คลิสต์ของ สตม.ทำให้ไม่สามารถเข้ามาในประเทศไทยได้อีก สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นชาวกัมพูชาเพียงคนเดียวนั้น จะต้องสอบสวนขยายผลอีกว่า มีเพื่อนร่วมขบวนการอีกกี่คน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า จะมีการทำกันเป็นกลุ่มแก๊ง
