ตร.ทางหลวงจับมือเอกชน จัดโครงการ “ง่วงอย่าขับ 76 จังหวัดทั่วไทย” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครบรอบ 100 วัน แพทย์แนะ ผู้ขับหาของขบเคี้ยว ร้องเพลง หรือพูดคุยกับคนที่นั่งมาด้วย จะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ปีละ 1,000 คน
วันนี้ (8 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ทล.ร่วมกับตัวแทนบริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ มูลนิธิรามาธิบดีในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ ผู้อำนวยการสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวโครงการรณรงค์ “ง่วงอย่าขับ 76 จังหวัดทั่วไทย” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จแด่สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครบรอบ 100 วัน
นายวรวุฒิ อัสสกุล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า พร้อมจัดกิจกรรมรณรงค์โครงการ “ง่วงอย่าขับ” 76 จังหวัดทั่วไทยในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นปี 2553 เพื่อลดอัตราเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุตามเส้นทางหลวงทั่วทั้งประเทศ โดยโครงการจะติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ตามหน่วยงานบริการของตำรวจทางหลวง 210 จุดทั่วประเทศรวม 630 ป้าย
ด้าน พล.ต.ต.พศิน กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงสนับสนุนโครงการรณรงค์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงตำรวจทางหลวงให้บริการดูแลประชาชนด้านบริการน้ำดื่ม สาธารณสุขและดื่มกาแฟ หลังจากที่ปีก่อนให้บริการด้านการนวดแผนโบราณเพื่อเป็นการกระตุ้นความปลอดภัย
ส่วน นายแพทย์มนูญ กล่าวว่า อุบัติเหตุจากง่วงหลับในอาจถึงตายได้ทันทีโดยจากการสำรวจพบว่า ผู้ขับขี่ร้อยละ 28-53 เปอร์เซ็นต์เคยหลับในขณะขับรถ และการหลับในเป็นการหลับระยะสั้นๆ แวบเดียวไม่เกิน 10 วินาที หลับในอันตรายมาก เพียงหลับ 4 วินาทีถ้ารถวิ่งด้วยความเร็ว 90 กม./ชม.รถจะวิ่งต่อไปอีก 100 เมตร โดยไม่มีคนควบคุมการชนจะรุนแรงมากทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ทันที
“การหลับในเกิดจากการอดนอน นอนไม่พอ กินยาแก้ง่วง ดื่มแอลกฮอล์ และมีโรคประจำตัว ถือว่าหนักมากกว่าการเมา เพราะหากว่าเกิดอาการง่วงแล้วทนฝืนก็ยิ่งจะทำให้เพิ่มความง่วงขึ้นเรี่อยๆ สำหรับวิธีการป้องกันการหลับในนั้น คนขับต้องถามตัวเองอยู่เป็นระยะและให้ความสำคัญของการนอนหลับให้เพียงพอ งดกินยาที่ทำให้ง่วง งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเดินทางถ้าสงสัยมีโรคประจำตัวต้องปรึกษาแพทย์และหาของคบเคี้ยว ร้องเพลงดังๆพูดคุยกับคนที่นั่งมาด้วย ดื่มกาแฟหยุดพักรถบ่อยๆ หากว่าปฎิบัติได้ก็จะช่วยลดคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอย่างน้อยปีละ 1 พันคน และประหยัดเงินที่สูญเสียปีละ 1 หมื่นบาท” นายแพทย์มนูญ กล่าว
ขณะที่ นายแพทย์ภานุวัฒน์ กล่าวว่า ในปีนี้เป็นปีแรกที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้มีกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ “ง่วง...อย่าขับ” เพื่อลดอุบัติเหตุเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในโอกาสวันที่ 10 เม.ย.2551 เป็นวันครบ 100 วันของการสิ้นพระชมน์องค์อุปถัมภ์กองทุนง่วงอย่าขับ ตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศจัดกิจกรรมขึ้นในระหว่างช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 10 -17 เม.ย.นี้
วันนี้ (8 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ทล.ร่วมกับตัวแทนบริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ มูลนิธิรามาธิบดีในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ ผู้อำนวยการสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวโครงการรณรงค์ “ง่วงอย่าขับ 76 จังหวัดทั่วไทย” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จแด่สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครบรอบ 100 วัน
นายวรวุฒิ อัสสกุล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า พร้อมจัดกิจกรรมรณรงค์โครงการ “ง่วงอย่าขับ” 76 จังหวัดทั่วไทยในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นปี 2553 เพื่อลดอัตราเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุตามเส้นทางหลวงทั่วทั้งประเทศ โดยโครงการจะติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ตามหน่วยงานบริการของตำรวจทางหลวง 210 จุดทั่วประเทศรวม 630 ป้าย
ด้าน พล.ต.ต.พศิน กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงสนับสนุนโครงการรณรงค์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงตำรวจทางหลวงให้บริการดูแลประชาชนด้านบริการน้ำดื่ม สาธารณสุขและดื่มกาแฟ หลังจากที่ปีก่อนให้บริการด้านการนวดแผนโบราณเพื่อเป็นการกระตุ้นความปลอดภัย
ส่วน นายแพทย์มนูญ กล่าวว่า อุบัติเหตุจากง่วงหลับในอาจถึงตายได้ทันทีโดยจากการสำรวจพบว่า ผู้ขับขี่ร้อยละ 28-53 เปอร์เซ็นต์เคยหลับในขณะขับรถ และการหลับในเป็นการหลับระยะสั้นๆ แวบเดียวไม่เกิน 10 วินาที หลับในอันตรายมาก เพียงหลับ 4 วินาทีถ้ารถวิ่งด้วยความเร็ว 90 กม./ชม.รถจะวิ่งต่อไปอีก 100 เมตร โดยไม่มีคนควบคุมการชนจะรุนแรงมากทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ทันที
“การหลับในเกิดจากการอดนอน นอนไม่พอ กินยาแก้ง่วง ดื่มแอลกฮอล์ และมีโรคประจำตัว ถือว่าหนักมากกว่าการเมา เพราะหากว่าเกิดอาการง่วงแล้วทนฝืนก็ยิ่งจะทำให้เพิ่มความง่วงขึ้นเรี่อยๆ สำหรับวิธีการป้องกันการหลับในนั้น คนขับต้องถามตัวเองอยู่เป็นระยะและให้ความสำคัญของการนอนหลับให้เพียงพอ งดกินยาที่ทำให้ง่วง งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเดินทางถ้าสงสัยมีโรคประจำตัวต้องปรึกษาแพทย์และหาของคบเคี้ยว ร้องเพลงดังๆพูดคุยกับคนที่นั่งมาด้วย ดื่มกาแฟหยุดพักรถบ่อยๆ หากว่าปฎิบัติได้ก็จะช่วยลดคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอย่างน้อยปีละ 1 พันคน และประหยัดเงินที่สูญเสียปีละ 1 หมื่นบาท” นายแพทย์มนูญ กล่าว
ขณะที่ นายแพทย์ภานุวัฒน์ กล่าวว่า ในปีนี้เป็นปีแรกที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้มีกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ “ง่วง...อย่าขับ” เพื่อลดอุบัติเหตุเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในโอกาสวันที่ 10 เม.ย.2551 เป็นวันครบ 100 วันของการสิ้นพระชมน์องค์อุปถัมภ์กองทุนง่วงอย่าขับ ตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศจัดกิจกรรมขึ้นในระหว่างช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 10 -17 เม.ย.นี้
