หนุ่มรถบรรทุกโมโหสุดขีดเห็นเพื่อนสนิทน้องชายปล้ำเมียตัวเองคาตา คว้ามีดแทงกระหน่ำดับคาที่ ยังใจเย็นยืนรอตำรวจมารวบตัว
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.ชวลิตด์ สืบสายไทย พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกแทงเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 1/50 ชุมชนล็อก 1, 2, 3 ซอยโรงเหล็ก แขวงและเขตคลองเตย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น บริเวณหน้าห้องน้ำชั้นล่าง เจ้าหน้าที่พบศพนายวรเดช นาควิเศษ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 5 ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดเปลือยกายไม่สวมเสื้อผ้า แต่มีกางเกงในถูกถอดลงมาอยู่ที่ข้อเท้าของผู้ตาย จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวา ขณะเดียวกันก็พบมีดทำครัวเปื้อนเลือด ยาว 1 ฟุต ตกอยู่ที่ปลายเท้าของผู้ตาย ใกล้กันมีขวดเบียร์เปล่าวางอยู่ 2 ขวด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบนายพรชัย พึ่งไม้ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222/725 หมู่ 1 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเบื้องต้นนายพรชัยให้การว่าเป็นคนแทงนายวรเดชจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ท่าเรือ
จากการสอบสวนนายพรชัยให้การว่า ตนเป็นพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่งภายในท่าเรือคลองเตย เช่าบ้านหลังที่เกิดเหตุพักอาศัยอยู่กับนางน้อย (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เป็นภรรยา อยู่ในชุมชนดังกล่าว ส่วนผู้ตายเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายตนที่เข้ามาขอพักอาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากเพิ่งเดินทางมาจาก จ.ชลบุรี เพื่อมาหางานทำใน กทม.
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายซื้อเบียร์มา 2 ขวด พร้อมชวนตนมานั่งดื่มกันในบ้าน พอเบียร์หมดก็แยกย้ายกันไปนอน โดยผู้ตายนอนอยู่ที่ชั้นล่าง ส่วนตนกับภรรยานอนอยู่ด้านบนของบ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ตนก็กำลังจะออกไปทำงาน เลยจึงชวนผู้ตายออกจากบ้านไปพร้อมกัน เพราะเกรงว่าหากปล่อยให้ผู้ตายกับภรรยาอยู่ด้วยกันสองต่อสองจะดูไม่ดี แต่ผู้ตายก็ไม่ยอมออกมาแต่อย่างใด โดยอ้างว่าจะออกไปหางานทำในช่วง 06.00 น. ตนเลยรีบออกจากบ้านมาเพียงคนเดียวเพราะกลัวจะไปทำงานไม่ทัน
แต่ช่วงที่กำลังเดินออกจากซอยนั้นก็รู้สึกไม่ดีที่ปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง เลยย้อนกลับมาที่บ้าน แต่พอมาถึงกลับพบว่าประตูบ้านถูกล็อกจากด้านในก็รู้สึกผิดปกติ เลยลองปีนหน้าต่างขึ้นไปดูก็เห็นเขากำลังปล้ำเมียตนอยู่ เลยรีบปีนเข้าไปช่วยเมีย แต่เขาสู้เลยหันไปหยิบมีดแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว ก่อนรอมอบตัวต่อตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อนายพรชัย ส่วนกรณีที่นายวรเดชพยายามข่มขืนภรรยาของนายพรชัยนั้น เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำภรรยาของนายพรชัย และพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.ชวลิตด์ สืบสายไทย พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกแทงเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 1/50 ชุมชนล็อก 1, 2, 3 ซอยโรงเหล็ก แขวงและเขตคลองเตย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น บริเวณหน้าห้องน้ำชั้นล่าง เจ้าหน้าที่พบศพนายวรเดช นาควิเศษ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 5 ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดเปลือยกายไม่สวมเสื้อผ้า แต่มีกางเกงในถูกถอดลงมาอยู่ที่ข้อเท้าของผู้ตาย จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวา ขณะเดียวกันก็พบมีดทำครัวเปื้อนเลือด ยาว 1 ฟุต ตกอยู่ที่ปลายเท้าของผู้ตาย ใกล้กันมีขวดเบียร์เปล่าวางอยู่ 2 ขวด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบนายพรชัย พึ่งไม้ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222/725 หมู่ 1 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเบื้องต้นนายพรชัยให้การว่าเป็นคนแทงนายวรเดชจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ท่าเรือ
จากการสอบสวนนายพรชัยให้การว่า ตนเป็นพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่งภายในท่าเรือคลองเตย เช่าบ้านหลังที่เกิดเหตุพักอาศัยอยู่กับนางน้อย (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เป็นภรรยา อยู่ในชุมชนดังกล่าว ส่วนผู้ตายเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายตนที่เข้ามาขอพักอาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากเพิ่งเดินทางมาจาก จ.ชลบุรี เพื่อมาหางานทำใน กทม.
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายซื้อเบียร์มา 2 ขวด พร้อมชวนตนมานั่งดื่มกันในบ้าน พอเบียร์หมดก็แยกย้ายกันไปนอน โดยผู้ตายนอนอยู่ที่ชั้นล่าง ส่วนตนกับภรรยานอนอยู่ด้านบนของบ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ตนก็กำลังจะออกไปทำงาน เลยจึงชวนผู้ตายออกจากบ้านไปพร้อมกัน เพราะเกรงว่าหากปล่อยให้ผู้ตายกับภรรยาอยู่ด้วยกันสองต่อสองจะดูไม่ดี แต่ผู้ตายก็ไม่ยอมออกมาแต่อย่างใด โดยอ้างว่าจะออกไปหางานทำในช่วง 06.00 น. ตนเลยรีบออกจากบ้านมาเพียงคนเดียวเพราะกลัวจะไปทำงานไม่ทัน
แต่ช่วงที่กำลังเดินออกจากซอยนั้นก็รู้สึกไม่ดีที่ปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง เลยย้อนกลับมาที่บ้าน แต่พอมาถึงกลับพบว่าประตูบ้านถูกล็อกจากด้านในก็รู้สึกผิดปกติ เลยลองปีนหน้าต่างขึ้นไปดูก็เห็นเขากำลังปล้ำเมียตนอยู่ เลยรีบปีนเข้าไปช่วยเมีย แต่เขาสู้เลยหันไปหยิบมีดแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว ก่อนรอมอบตัวต่อตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อนายพรชัย ส่วนกรณีที่นายวรเดชพยายามข่มขืนภรรยาของนายพรชัยนั้น เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำภรรยาของนายพรชัย และพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
