ตำรวจตามจับกุม ฆาตกรฆ่าโหด พ่อค้าเนื้อที่ส่งเนื้อไปทำลูกชิ้นให้กับลูกชิ้นแชมป์ รับสารภาพ ต้องการเงินไปเล่นไฮโล วางแผนร่วมมือกับคู่เขย ทำทีเป็นรถเสีย ดักโบกรถกลางทาง จากนั้นให้เพื่อนที่รอซุ่มอยู่ในพงหญ้าถือไม้ออกมาหวดเข้าท้ายทอยจนทรุด แล้วยกขึ้นท้ายรถพร้อมหวดซ้ำอีก 3 ที แต่ระหว่างทาง พ่อค้าเนื้อเกิดรู้สึกตัวขึ้นมา เลยจอยรถหยิบก้อนหินทุ่มใส่จนแน่นิ่งเสียชีวิต แล้วชิงทรัพย์สินหลบหนีไป สุดท้ายตำรวจตามรวบตัวได้ ส่วนเพื่อนคู่หูยังหลบหนี
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.ต.วิทยา โกสิยสถิต รองผบช.น. พล.ต.ต.ชิษณุพงษ์ ยุตตะทัต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศส.บช.น. พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.สน.วังทองหลสาง แถลงการจับกุมนายกิจจา หรือจ้อย มารโภชน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/6 หมู่ 7 ต.บางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ นายพิทักษ์ณรงค์ วงศ์ซื่อ พ่อค้าเนื้อวัว ยัดใส่ท้ายรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บพ-760 ราชบุรี ไปจอดรถทิ้งบริเวณป่าหญ้า ภายในซอยลาดพร้าว 55/2 หลังตลาดโชคชัย 4 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง และตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ หน้าสภ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.)หลังจากหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 29/6 หมู่ 7 ต.บางขวัญ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมของกลาง สร้อยข้อมือทองคำหนัก 10 บาท 1 เส้น
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งสืบสวนจับกุมตัวคนร้าย จนกระทั่งสืบทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปกบดานอยู่ในเขตจ.ฉะเชิงเทรา โดยคนร้ายร่วมกับคู่เขยชื่อนายชัชวาลย์ หรือเก่ง ก้านแก้ว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหายอมสารภาพว่า ได้รู้จักกับผู้ตายแบบผิวเผิน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นลูกจ้างของร้านขายเนื้อแห่งหนึ่ง และมักจะพบกับผู้ตายที่โรงงานทำลูกชิ้นขณะไปส่งเนื้อ ส่วนสาเหตุที่ทำ เพราะต้องการนำเงินไปเล่นไฮโล เนื่องจากเห็นผู้ตายมีฐานะ จึงขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียร กนว-413 ฉะเชิงเทรา ไปดักรอเพื่อก่อเหตุ ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไป เป็นมูลค่า 237,500 บาทนั้น เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระหลวงพ่อโสธรเลี่ยมทองได้นำไปขายที่จ.ชลบุรี ขณะที่สร้อยข้อมือทองคำนำไปฝังดินเก็บไว้บริเวณบ้าน ซึ่งตำรวจตามยึดคืนมาได้ ทั้งนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพด้วยว่า ใช้เวลาในการวางแผนร่วมกับนายชัชวาย์ ที่อยู่ระหว่างหลบหนี เป็นเวลา 1 วันก่อนจะลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น.พล.ต.ต.วิทยา ควบคุมตัว นายกิจจา ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกเป็นจุดที่คนร้ายทั้งคู่ ไปจอดรถนั่งรอผู้ตาย ที่นำเนื้อไปส่งโรงงานลูกชิ้นแชมป์ ในซอยลาดพร้าง 64 แขวงและเขตวังทองหลาง และเมื่อผู้ตายมาถึง คนร้ายทั้ง 2 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรอยังจุดที่ 2 บริเวณกลางซอยดังกล่าว จากนั้น นายกิจจา ให้นายชัชวาลย์ลงจากรถจักรยานยนต์ไปหลบอยู่ในพงหญ้าข้างทาง ส่วน นายกิจจา ทำทีเป็นรถเสีย และเมื่อเห็นผู้ตายขับออกมา จึงโบกรถขอความช่วยเหลือ เมื่อผู้ตายเห็นนายกิจจา จึงจอดรถและลงไปทักทายพูดคุยกับนายกิจจา เนื่องจากเคยเห็นนายกิจจาที่โรงงานลูกชิ้นมาก่อน และเมื่อทราบว่า รถนายกิจจาเสีย จึงได้แสดงน้ำใจ เดินกลับไปเคลียร์ของที่ท้ายรถกระบะ จากนั้นยังมาช่วยนายกิจจายกรถจักรยานยนต์ขึ้นท้ายกระบะเพื่อนำไปส่ง แต่ระหว่างนั้น นายชัชวาลย์ ได้ออกมาจากที่ซ่อนในพงหญ้าข้างทาง แล้วใช้ไม้ฟาดกระหน่ำไปที่ท้ายทอยผู้ตาย 2 ครั้งซ้อน จนผู้ตายทรุดฮวบลง จากนั้น นายกิจจา กับนายชัชวาลย์ ได้ช่วยกันยกร่างผู้ตายขึ้นไว้ในกระบะท้ายรถ และนายชัชวาลย์ ตามขึ้นไปตีซ้ำอีก 3 ครั้ง ก่อนที่นายกิจจา จะเป็นผู้ขับรถกระบะออกไปจากที่เกิดเหตุ โดยมีนายชัชวาลย์ ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบไป แต่เมื่อนายกิจจาขับรถกระบะไปได้พักใหญ่ นายชัชวาลย์มองเห็นผู้ตายเริ่มรู้สึกตัว จึงส่งสัญญาณให้นายกิจจาหยุดรถ และไปหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ข้างทาง ขึ้นไปทุบใส่ผู้ตายอีกครั้งจนแน่นิ่งเสียชีวิต จากนั้นผู้ต้องหาขับรถไปยังจุดที่ 3 ซึ่งเป็นสถานที่ค่อนข้างเปลี่ยวในซอยเดียวกัน และเมื่อนายกิจจาหยุดรถ นายชัชวาลย์ได้ใช้แท่งปูนหล่อขนาดเท่าลูกฟุตบอลทุ่มใส่ผู้ตายอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตแน่นอนแล้ว ก่อนที่จะพากันนำเศษไม้อัดที่หาได้บริเวณนั้นมาวางทับอำพรางศพผู้ตายไว้ แล้วใช้ก้อนหินทับบนไม้อัดไว้อีกชั้น จากนั้นช่วยกันปลดทรัพย์สินของผู้ตายจนหมด
จุดสุดท้าย เป็นจุดที่คนร้ายนำรถกระบะไปจอดที่หลังสถานบริการอาบอบนวด V2 ในซอยโชคชัย 55/2 สถานที่พบศพ จากนั้นนายกิจจา ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หลบบหนีไปพร้อมนายชัชวาลย์ จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว
หลังตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพเสร็จ ได้คุมตัวมาควบคุมขังไว้ยังสน.วังทองหลาง ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้ ในขณะที่ นายชัชวาลย์ ตำรวจเตรียมขออนุมัติออกหมายจับ เพื่อดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.ต.วิทยา โกสิยสถิต รองผบช.น. พล.ต.ต.ชิษณุพงษ์ ยุตตะทัต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศส.บช.น. พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.สน.วังทองหลสาง แถลงการจับกุมนายกิจจา หรือจ้อย มารโภชน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/6 หมู่ 7 ต.บางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ นายพิทักษ์ณรงค์ วงศ์ซื่อ พ่อค้าเนื้อวัว ยัดใส่ท้ายรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บพ-760 ราชบุรี ไปจอดรถทิ้งบริเวณป่าหญ้า ภายในซอยลาดพร้าว 55/2 หลังตลาดโชคชัย 4 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง และตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ หน้าสภ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.)หลังจากหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 29/6 หมู่ 7 ต.บางขวัญ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมของกลาง สร้อยข้อมือทองคำหนัก 10 บาท 1 เส้น
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งสืบสวนจับกุมตัวคนร้าย จนกระทั่งสืบทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปกบดานอยู่ในเขตจ.ฉะเชิงเทรา โดยคนร้ายร่วมกับคู่เขยชื่อนายชัชวาลย์ หรือเก่ง ก้านแก้ว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหายอมสารภาพว่า ได้รู้จักกับผู้ตายแบบผิวเผิน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นลูกจ้างของร้านขายเนื้อแห่งหนึ่ง และมักจะพบกับผู้ตายที่โรงงานทำลูกชิ้นขณะไปส่งเนื้อ ส่วนสาเหตุที่ทำ เพราะต้องการนำเงินไปเล่นไฮโล เนื่องจากเห็นผู้ตายมีฐานะ จึงขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียร กนว-413 ฉะเชิงเทรา ไปดักรอเพื่อก่อเหตุ ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไป เป็นมูลค่า 237,500 บาทนั้น เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระหลวงพ่อโสธรเลี่ยมทองได้นำไปขายที่จ.ชลบุรี ขณะที่สร้อยข้อมือทองคำนำไปฝังดินเก็บไว้บริเวณบ้าน ซึ่งตำรวจตามยึดคืนมาได้ ทั้งนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพด้วยว่า ใช้เวลาในการวางแผนร่วมกับนายชัชวาย์ ที่อยู่ระหว่างหลบหนี เป็นเวลา 1 วันก่อนจะลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น.พล.ต.ต.วิทยา ควบคุมตัว นายกิจจา ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกเป็นจุดที่คนร้ายทั้งคู่ ไปจอดรถนั่งรอผู้ตาย ที่นำเนื้อไปส่งโรงงานลูกชิ้นแชมป์ ในซอยลาดพร้าง 64 แขวงและเขตวังทองหลาง และเมื่อผู้ตายมาถึง คนร้ายทั้ง 2 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรอยังจุดที่ 2 บริเวณกลางซอยดังกล่าว จากนั้น นายกิจจา ให้นายชัชวาลย์ลงจากรถจักรยานยนต์ไปหลบอยู่ในพงหญ้าข้างทาง ส่วน นายกิจจา ทำทีเป็นรถเสีย และเมื่อเห็นผู้ตายขับออกมา จึงโบกรถขอความช่วยเหลือ เมื่อผู้ตายเห็นนายกิจจา จึงจอดรถและลงไปทักทายพูดคุยกับนายกิจจา เนื่องจากเคยเห็นนายกิจจาที่โรงงานลูกชิ้นมาก่อน และเมื่อทราบว่า รถนายกิจจาเสีย จึงได้แสดงน้ำใจ เดินกลับไปเคลียร์ของที่ท้ายรถกระบะ จากนั้นยังมาช่วยนายกิจจายกรถจักรยานยนต์ขึ้นท้ายกระบะเพื่อนำไปส่ง แต่ระหว่างนั้น นายชัชวาลย์ ได้ออกมาจากที่ซ่อนในพงหญ้าข้างทาง แล้วใช้ไม้ฟาดกระหน่ำไปที่ท้ายทอยผู้ตาย 2 ครั้งซ้อน จนผู้ตายทรุดฮวบลง จากนั้น นายกิจจา กับนายชัชวาลย์ ได้ช่วยกันยกร่างผู้ตายขึ้นไว้ในกระบะท้ายรถ และนายชัชวาลย์ ตามขึ้นไปตีซ้ำอีก 3 ครั้ง ก่อนที่นายกิจจา จะเป็นผู้ขับรถกระบะออกไปจากที่เกิดเหตุ โดยมีนายชัชวาลย์ ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบไป แต่เมื่อนายกิจจาขับรถกระบะไปได้พักใหญ่ นายชัชวาลย์มองเห็นผู้ตายเริ่มรู้สึกตัว จึงส่งสัญญาณให้นายกิจจาหยุดรถ และไปหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ข้างทาง ขึ้นไปทุบใส่ผู้ตายอีกครั้งจนแน่นิ่งเสียชีวิต จากนั้นผู้ต้องหาขับรถไปยังจุดที่ 3 ซึ่งเป็นสถานที่ค่อนข้างเปลี่ยวในซอยเดียวกัน และเมื่อนายกิจจาหยุดรถ นายชัชวาลย์ได้ใช้แท่งปูนหล่อขนาดเท่าลูกฟุตบอลทุ่มใส่ผู้ตายอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตแน่นอนแล้ว ก่อนที่จะพากันนำเศษไม้อัดที่หาได้บริเวณนั้นมาวางทับอำพรางศพผู้ตายไว้ แล้วใช้ก้อนหินทับบนไม้อัดไว้อีกชั้น จากนั้นช่วยกันปลดทรัพย์สินของผู้ตายจนหมด
จุดสุดท้าย เป็นจุดที่คนร้ายนำรถกระบะไปจอดที่หลังสถานบริการอาบอบนวด V2 ในซอยโชคชัย 55/2 สถานที่พบศพ จากนั้นนายกิจจา ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หลบบหนีไปพร้อมนายชัชวาลย์ จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว
หลังตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพเสร็จ ได้คุมตัวมาควบคุมขังไว้ยังสน.วังทองหลาง ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้ ในขณะที่ นายชัชวาลย์ ตำรวจเตรียมขออนุมัติออกหมายจับ เพื่อดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
