ลูกติดยาบ้าฆ่าโหดพ่อบังเกิดเกล้า เขียนจดหมายบันทึกแค้นระบุ “ย่าฝากเงินให้ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางรัก ตั้งแต่กูเป็นเด็กเผื่อตอนโตจะได้เอาไว้สร้างอนาคต พวกมึง 2 ผัวเมียรวมหัวกันเอาไปหมด แล้วยังบีบให้กูไม่มีที่อยู่อีก กูไม่มีทางเลือก (ไอ้พ่อเลว-แม่เลี้ยงชั่วร้าย)” เผยเคยใช้มีดไล่ฟันผู้พ่อทั้งที่ยังอยู่ในผ้าเหลืองมาแล้ว
วันนี้ (31 มี.ค) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.บุญเยี่ยม กันเกตุ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 50 หมู่ 16 ซอยหมู่บ้านสันติสุข ถนนหทัยราษฎร์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.3 พ.ต.อ.นักรบ สุดใจ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.จำลอง สว่างวงศ์ ผกก.กก.สืบสวน บก.น.3 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง 1 คูหา ชั้นล่างแบ่งให้เช่าเป็นร้านรับซ่อมโทรศัพท์มือถือ ชื่อร้านเอสเคโฟน แต่ประตูหน้าบ้านปิดล็อก เมื่อตรวจสอบบริเวณประตูด้านหลังบ้านพบร่องรอยลูกบิดประตูถูกงัด พอเปิดประตูเข้าไปก็พบศพ นายเชิดชัย หรือพิพัฒน์ พัชรนิวัฒน์วงศ์ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน สภาพศพนอนคว่ำจมกองเลือดอยู่ที่ทางขึ้นบันไดชั้นล่างใกล้ประตูทางออกหลังบ้าน สวมเสื้อยืดคอปกสีขาวคาดแดง นุ่งกางเกงขายาวสีเทา มีบาดแผลถูกมีดปลายแหลมความยาว 7 นิ้ว ปักคาอยู่กลางหลัง โดยที่ด้ามมีดหักติดมือคนร้ายไป ที่ศีรษะ ใบหน้า ตามลำตัว และท่อนแขนถูกของมีคมบาดเป็นแผลฉกรรจ์นับได้ทั้งสิ้น 15 แผล แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง ใกล้กันพบมีดพร้าเปื้อนเลือดความยาวประมาณ 2 ฟุต ตกอยู่ 1 เล่ม จากการตรวจสอบบนห้องนอนชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องของผู้ตายพบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของกระจัดกระจาย มีคราบเลือดสาดกระจายตามฝาผนัง พร้อมหยดเลือดเป็นทางยาวลงมาถึงพบจุดที่พบศพ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน ด.ญ.พัชราภรณ์ พัชรนิวัฒน์วงศ์ อายุ 14 ปี ลูกสาวผู้ตาย ซึ่งพบศพเป็นคนแรก กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น.ตนเดินเท้ามาจากบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อมาเคาะประตูเรียกพ่อ ซึ่งก็ใช้เวลาเคาะอยู่นานแต่พ่อไม่ยอมมาเปิดประตูให้ จนกระทั่งถึงช่วงสายจึงได้รีบวิ่งไปตามพี่ชายกับพี่สาวมาช่วยกันงัดลูกบิดประตูด้านหลังเข้าไปตรวจสอบ พบว่าพ่อกลายเป็นศพไปแล้วจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจดูที่เกิดเหตุ
ด.ญ.พัชราภรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับฆาตกรใจโหดรายนี้ตนคาดว่าต้องเป็น นายอนุชา แซ่อึ้ง หรือ “เฮียบี๊” อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นลูกติดภรรยาเก่าของพ่ออย่างแน่นอน เพราะหลังเกิดเหตุนายอนุชาหายตัวไป ซึ่งที่ผ่านมาทั้งคู่มักมีปากเสียงกันตลอด เรื่องที่นายอนุชาไม่ยอมทำการทำงาน ขอแต่เงินพ่อใช้ทุกวันๆ ละ 100 บาท และเรื่องสุนัข ซึ่งนายอนุชาชอบนำมาเลี้ยงแต่พ่อเป็นคนไม่ชอบเสียงเห่าหอนและต้องมาคอยตามเก็บอุจจาระปัสสาวะแทนอยู่เสมอ โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา นายอนุชาเคยหยิบมีดไล่ฟันพ่อทั้งๆ ที่ตัวเองบวชอยู่ในผ้าเหลือง เพราะทะเลาะกันแค่เรื่องสุนัขมาแล้ว
“ที่ผ่านมา หนูและพี่ๆ อีก 2 คน รวมทั้งคุณแม่ ซึ่งเป็นภรรยาใหม่ของคุณพ่อไม่เคยเข้ากันกับนายอนุชาได้ มีเรื่องทะเลาะกันมาตลอด ทำให้คุณพ่อต้องควักเงินซื้อบ้านหลังใหม่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันให้พวกเราอยู่ ส่วนคุณพ่อขอพักอยู่ที่นี่เพื่อดูแลนายอนุชา แต่นั่นกลับก็ยิ่งทำให้นายอนุชาทำตัวมีปัญหาไปติดยาบ้าจนต้องเข้าคุกมาแล้วถึง 4 ครั้ง นอกจากนั้นยังไปประกอบอาชีพเดินโพยบอลให้กับโต๊ะพนันรายใหญ่ย่านรามคำแหง แต่สุดท้ายก็ไปโกงเงินเค้ามา จนโดนเจ้าของโต๊ะตามฆ่า กลายเป็นคนเก็บกดไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน คอยแต่จะขอเงินคุณพ่อไปซื้อยามาเสพ” ด.ญ.พัชราภรณ์ กล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางขึ้นไปตรวจสอบภายในห้องนอนของนายอนุชา บนชั้นที่ 2 ของบ้าน พบข้อความเขียนด้วยชอล์กติดอยู่ที่ฝาผนังจำนวน 2 เรื่อง โดยมีใจความว่า “ย่ากูฝากเงินให้กูที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางรัก ตั้งแต่กูเป็นเด็กเผื่อตอนโตจะได้เอาไว้สร้างอนาคต พวกมึง 2 ผัวเมียรวมหัวกันเอาไปหมด แล้วยังบีบให้กูไม่มีที่อยู่อีก กูไม่มีทางเลือก (ไอ้พ่อเลว-แม่เลี้ยงชั่วร้าย) ได้บ้าน ได้คอนโด เพชร ทอง ยังไม่พอ (ไอ้คนโลภขอให้หายนะ)” ส่วนข้อความที่ 2 “ไม่นานเวรกรรมจะตามมึงทันไอ้ติ๋ว ไอ้คนชั่วกูเผลอที่ไว้ใจมึง” เจ้าหน้าที่จึงบันทึกเอาไว้เพื่อเก็บเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนจะให้พนักงานสอบสวนเชิญตัวภรรยาและลูกๆ ของผู้ตายไปทำการสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนที่จะขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับนายอนุชาตามคำให้การของพยานอย่างเร่งด่วน คาดว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้น่าจะเสร็จสิ้น ส่วนเรื่องการติดตามนายอนุชามาดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งดำเนินการอยู่คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ เพราะปัจจุบันนายอนุชาไม่มีเพื่อนและเงินทองมากพอที่จะใช้หลบหนี ซึ่งหากมีความคืบหน้าตนจะแจ้งให้ทราบต่อไป
วันนี้ (31 มี.ค) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.บุญเยี่ยม กันเกตุ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 50 หมู่ 16 ซอยหมู่บ้านสันติสุข ถนนหทัยราษฎร์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.3 พ.ต.อ.นักรบ สุดใจ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.จำลอง สว่างวงศ์ ผกก.กก.สืบสวน บก.น.3 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง 1 คูหา ชั้นล่างแบ่งให้เช่าเป็นร้านรับซ่อมโทรศัพท์มือถือ ชื่อร้านเอสเคโฟน แต่ประตูหน้าบ้านปิดล็อก เมื่อตรวจสอบบริเวณประตูด้านหลังบ้านพบร่องรอยลูกบิดประตูถูกงัด พอเปิดประตูเข้าไปก็พบศพ นายเชิดชัย หรือพิพัฒน์ พัชรนิวัฒน์วงศ์ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน สภาพศพนอนคว่ำจมกองเลือดอยู่ที่ทางขึ้นบันไดชั้นล่างใกล้ประตูทางออกหลังบ้าน สวมเสื้อยืดคอปกสีขาวคาดแดง นุ่งกางเกงขายาวสีเทา มีบาดแผลถูกมีดปลายแหลมความยาว 7 นิ้ว ปักคาอยู่กลางหลัง โดยที่ด้ามมีดหักติดมือคนร้ายไป ที่ศีรษะ ใบหน้า ตามลำตัว และท่อนแขนถูกของมีคมบาดเป็นแผลฉกรรจ์นับได้ทั้งสิ้น 15 แผล แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง ใกล้กันพบมีดพร้าเปื้อนเลือดความยาวประมาณ 2 ฟุต ตกอยู่ 1 เล่ม จากการตรวจสอบบนห้องนอนชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องของผู้ตายพบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของกระจัดกระจาย มีคราบเลือดสาดกระจายตามฝาผนัง พร้อมหยดเลือดเป็นทางยาวลงมาถึงพบจุดที่พบศพ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน ด.ญ.พัชราภรณ์ พัชรนิวัฒน์วงศ์ อายุ 14 ปี ลูกสาวผู้ตาย ซึ่งพบศพเป็นคนแรก กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น.ตนเดินเท้ามาจากบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อมาเคาะประตูเรียกพ่อ ซึ่งก็ใช้เวลาเคาะอยู่นานแต่พ่อไม่ยอมมาเปิดประตูให้ จนกระทั่งถึงช่วงสายจึงได้รีบวิ่งไปตามพี่ชายกับพี่สาวมาช่วยกันงัดลูกบิดประตูด้านหลังเข้าไปตรวจสอบ พบว่าพ่อกลายเป็นศพไปแล้วจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจดูที่เกิดเหตุ
ด.ญ.พัชราภรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับฆาตกรใจโหดรายนี้ตนคาดว่าต้องเป็น นายอนุชา แซ่อึ้ง หรือ “เฮียบี๊” อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นลูกติดภรรยาเก่าของพ่ออย่างแน่นอน เพราะหลังเกิดเหตุนายอนุชาหายตัวไป ซึ่งที่ผ่านมาทั้งคู่มักมีปากเสียงกันตลอด เรื่องที่นายอนุชาไม่ยอมทำการทำงาน ขอแต่เงินพ่อใช้ทุกวันๆ ละ 100 บาท และเรื่องสุนัข ซึ่งนายอนุชาชอบนำมาเลี้ยงแต่พ่อเป็นคนไม่ชอบเสียงเห่าหอนและต้องมาคอยตามเก็บอุจจาระปัสสาวะแทนอยู่เสมอ โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา นายอนุชาเคยหยิบมีดไล่ฟันพ่อทั้งๆ ที่ตัวเองบวชอยู่ในผ้าเหลือง เพราะทะเลาะกันแค่เรื่องสุนัขมาแล้ว
“ที่ผ่านมา หนูและพี่ๆ อีก 2 คน รวมทั้งคุณแม่ ซึ่งเป็นภรรยาใหม่ของคุณพ่อไม่เคยเข้ากันกับนายอนุชาได้ มีเรื่องทะเลาะกันมาตลอด ทำให้คุณพ่อต้องควักเงินซื้อบ้านหลังใหม่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันให้พวกเราอยู่ ส่วนคุณพ่อขอพักอยู่ที่นี่เพื่อดูแลนายอนุชา แต่นั่นกลับก็ยิ่งทำให้นายอนุชาทำตัวมีปัญหาไปติดยาบ้าจนต้องเข้าคุกมาแล้วถึง 4 ครั้ง นอกจากนั้นยังไปประกอบอาชีพเดินโพยบอลให้กับโต๊ะพนันรายใหญ่ย่านรามคำแหง แต่สุดท้ายก็ไปโกงเงินเค้ามา จนโดนเจ้าของโต๊ะตามฆ่า กลายเป็นคนเก็บกดไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน คอยแต่จะขอเงินคุณพ่อไปซื้อยามาเสพ” ด.ญ.พัชราภรณ์ กล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางขึ้นไปตรวจสอบภายในห้องนอนของนายอนุชา บนชั้นที่ 2 ของบ้าน พบข้อความเขียนด้วยชอล์กติดอยู่ที่ฝาผนังจำนวน 2 เรื่อง โดยมีใจความว่า “ย่ากูฝากเงินให้กูที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางรัก ตั้งแต่กูเป็นเด็กเผื่อตอนโตจะได้เอาไว้สร้างอนาคต พวกมึง 2 ผัวเมียรวมหัวกันเอาไปหมด แล้วยังบีบให้กูไม่มีที่อยู่อีก กูไม่มีทางเลือก (ไอ้พ่อเลว-แม่เลี้ยงชั่วร้าย) ได้บ้าน ได้คอนโด เพชร ทอง ยังไม่พอ (ไอ้คนโลภขอให้หายนะ)” ส่วนข้อความที่ 2 “ไม่นานเวรกรรมจะตามมึงทันไอ้ติ๋ว ไอ้คนชั่วกูเผลอที่ไว้ใจมึง” เจ้าหน้าที่จึงบันทึกเอาไว้เพื่อเก็บเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนจะให้พนักงานสอบสวนเชิญตัวภรรยาและลูกๆ ของผู้ตายไปทำการสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนที่จะขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับนายอนุชาตามคำให้การของพยานอย่างเร่งด่วน คาดว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้น่าจะเสร็จสิ้น ส่วนเรื่องการติดตามนายอนุชามาดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งดำเนินการอยู่คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ เพราะปัจจุบันนายอนุชาไม่มีเพื่อนและเงินทองมากพอที่จะใช้หลบหนี ซึ่งหากมีความคืบหน้าตนจะแจ้งให้ทราบต่อไป