“ชาญวุฒิ” เผย ตร.สรุป 3 แนวทางแก้ปัญหา 26 คำสั่งแต่งตั้ง ผกก.-ชั้นประทวนลัดขั้นตอนกฎหมาย เสนอ “พัชรวาท” ตัดสินใจวันนี้ เพื่อส่งให้ ก.ตร.ชี้ขาด ยอมรับมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ยัน ตร.จะไม่พิจารณาในประเด็นกฎหมาย แต่รอให้กรรมการวินัยร้ายแรงชุด “ชัยเกษม” เป็นผู้ดูแล
วันนี้ (31 มี.ค.) พล.ต.อ.ชาญวุฒิ วัชรพุกก์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายบริหาร (รอง ผบ.ตร.บร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 28 มี.ค. คณะทำงานพิจารณาตรวจสอบสอบและแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ 26 คำสั่ง ที่มีปัญหาแต่งตั้งโดยข้ามขั้นตอนกฎหมายทำให้ประสบปัญหา แต่งตั้ง ผกก.-ชั้นประทวนลงในตำแหน่งที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ประมาณ 7,000 ตำแหน่ง ทำให้ ตร.มีปัญหาเรื่องการบริหารงานและการปฏิบัติงาน ได้ประชุมร่วมกันพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหา นั้น ขอยืนยันตามเดิมว่าคณะทำงานของ ตร.จะไม่พิจารณาในประเด็นข้อกฎหมาย รอให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ชุดของนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุดพิจารณา ซึ่ง ตร.จะไม่พิจารณาในประเด็นนี้ โดยที่ประชุมวันนี้ได้สรุปแนวทางแก้ปัญหาในเชิงบริหารภายในออกมาแล้ว 3 แนวทาง ซึ่งมีทั้งข้อดีข้อเสีย
พล.ต.อ.ชาญวุฒิ กล่าวว่า แนวทางแรก คือ กำหนดตำแหน่งใหม่ โดยให้ยึดตามกฎกระทรวงเดิมที่กำหนดกองกำกับการไว้แค่ไหนก็แค่นั้น ตำแหน่งที่เกินก็กำหนดเป็นตำแหน่งประจำ แนวทางที่ 2 คล้ายแนวทางที่ 1 ซึ่งมีทั้งกลับคืนสู่ตำแหน่งที่มีอยู่เดิมและกำหนดกลุ่มตำแหน่งเพิ่มมา คือกลับไปที่กฎกระทรวงที่มีอยู่ ตำแหน่งที่เกินมาก็กำหนดกลุ่มตำแหน่งขึ้นมาใหม่ โดยต้องกลับไปแก้กฎกระทรวงใหม่ กำหนดหน่วยเพิ่มขึ้นมา ซึ่งต้องใช้เวลา และแนวทางที่ 3 ออกคำสั่ง ตร.ให้ครบขั้นตอน ทำเป็นกลุ่มงานตำแหน่งขึ้นมา ออกคำสั่งกำหนดอำนาจหน้าที่ในแต่ละกลุ่มงานให้ครบ เรียกว่าออกคำสั่ง ตร.มาก็จบเลย
พล.ต.อ.ชาญวุฒิ กล่าวว่า จะนำเสนอทั้ง 3 แนวทางให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เป็นผู้ตัดสินใจภายในวันนี้ (31 มี.ค) เพื่อจะได้ทันส่งให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พิจารณาชี้ขาดอีกครั้งในการประชุม ก.ตร.สัปดาห์นี้
“ส่วนตัวผมว่ามันเป็นเรื่องภายในที่ทุกคนมุ่งหวังแก้ปัญหาหน่วยงานมากกว่า ความเห็นส่วนตัวถ้าดีที่สุดคืออะไรที่มันไม่ต้องเปลี่ยนแปลงมาก แล้วทำให้มันครบ โดยออกคำสั่งกำหนดหน้าที่การงานความรับผิดชอบให้ โดยคงมีฝ่ายปฏิบัติการ 1-10 ตามคำสั่งที่แต่งตั้งไปแล้ว แล้วให้ ตร.ออกคำสั่งกำหนดหน้าที่การงานในฝ่ายปฏิบัติการต่างๆ ออกมาภายหลัง ซึ่งตรงกับแนวทางที่ 3แต่ก็ขึ้นกับท่าน รรท.ผบ.ตร. ซึ่งผมเสนอแนวทางนี้ในที่ประชุม และที่ประชุมก็เสนอความเห็นหลากหลาย บางคนชี้ประเด็นข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้สำนักงาน ก.ตร.ไปวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของแต่ละแนวทางส่งให้ รรท.ผบ.ตร.พิจารณาด้วย ซึ่งตอนนี้คณะทำงานของเราจบแล้ว เว้นแต่ รรท.ผบ.ตร.จะมีความเห็นลงมาอีก” รอง ผบ.ตร.กล่าว
