ตามจับหนุ่มปากน้ำยิงอริกลางวงเหล้าลูกหลงถูกนักเรียนสาวดับได้ หลังหนีกบดานร่วมปีที่ภูเก็ต แม่ผู้ตายร่วมแถลงข่าวทนไม่ไหวยอมเสียค่าปรับลุกขึ้นตบหน้าคนร้ายทั้งน้ำตาต่อหน้าตำรวจ
วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.ต.ภาคภูมิ โห้ใย สว.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายเกรียงไกร แซ่ลี้ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1614/1128 หมู่ 6 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนยิง ด.ญ.เกษราภรณ์ ชื่นบาน อายุ 14 ปี นักเรียนมัธยม 2 โรงเรียนหาดอัมรา เสียชีวิตขณะนั่งร่วมวงฉลองวันปีใหม่ต้นปี 2550 อยู่ที่หน้าบ้านภายในซอย บ่อดิน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ม.ค.50 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้จำนวน 3 คน คือ นายคุณะพันธ์ หรือป้อม เหมสุวรรณ อายุ 20 ปี, นายวิฑูร หรือโก้ พลเยี่ยม อายุ 37 ปี และนายพรเทพ มีศรี อายุ 31 ปี เหลือเพียงนายเกรียงไกร ซึ่งเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปได้ สาเหตุเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งร่วมวงกับ ด.ญ.เกษราภรณ์ พัวพันกับยาเสพติดและมีการหักหลังกันเอง ผู้ก่อเหตุจึงได้ยกพวกมายิงถล่ม กระสุนเกิดพลาดถูก ด.ญ.เกษราภรณ์
สำหรับคดีนี้ทางด้าน พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้สั่งการให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี เนื่องจากพฤติกรรมการสังหารในครั้งนี้มีความโหดเหี้ยม
ทั้งนี้ หลังจากที่ พ.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ผกก.สภ.อ.เมือง สมุทรปราการ และ พ.ต.ต.ภาคภูมิ โห้ใย สว.สส. พร้อมกำลังได้สืบสวนติดตามคนร้ายในคดีดังกล่าวด้วยการสืบสวนจากญาติของคนร้ายจนทราบว่าหลังก่อเหตุนายเกรียงไกรได้หลบหนีไปกบดานที่บ้านญาติในแถบภาคใต้ ในจังหวัดภูเก็ต โดยไปประกอบอาชีพค้าขายเสื้อผ้าอยู่ที่ตลาดป่าตอง จ.ภูเก็ต จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต และร่วมกันจับกุมนายเกรียงไกร ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่บริเวณตลาดนัดหาดป่าตอง เวลา 22.30 น.วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงได้คุมตัวกลับมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธแต่จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ที่จับกุมได้หลังก่อเหตุได้ให้การยืนยันว่านายเกรียงไกรเป็นคนใช้อาวุธปืนยิง รวมทั้งนางเกศณี มูลม่อม อายุ 41 ปี มารดาผู้ตาย ซึ่งอยู่ด้วยในขณะเกิดเหตุและจดจำใบหน้าของนายเกรียงไกรได้ก็ยืนยันว่าในวันที่เกิดเหตุนายเกรียงไกรเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงสาดกระสุนเข้าไปในวงจนเป็นเหตุลูกสาวตนเสียชีวิต
ทั้งนี้ ขณะที่แถลงข่าว นางเกศณี แม่ของ ด.ญ.เกษราภรณ์ ซึ่งมาร่วมแถลงข่าวด้วยถึงกับหลั่งน้ำตาเนื่องจากโทสะ และใช้ฝ่ามือตบที่ใบหน้านายเกรียงไกรหลายครั้งจนตำรวจต้องรีบกันตัวนายเกรียงไกรออกจากห้องแถลงข่าว พร้อมทั้งสั่งปรับนางเกศณีเป็นเงิน 100 บาท ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนนายเกรียงไกร เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาต ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางเกศณี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ดีใจมากที่ยังมีความเป็นธรรมอยู่ในบ้านเมืองเรา และยังมีตำรวจที่ตั้งใจทำงานให้แก่ประชาชนหลังจากที่เกิดเหตุมาได้ปีกว่าแล้วก็ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ จนสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปขอพรที่เขาคิชกูฏที่จังหวัดจันทบุรี ขอให้ตำรวจตามจับคนร้ายที่ทำให้ลูกตนเสียชีวิตให้จงได้โดยเร็ว หลังจากนั้นไม่กี่วันตนก็ได้รับแจ้งจากตำรวจว่าสามารถตามจับนายเกรียงไกร คนร้ายที่ยิงลูกสาวตนเสียชีวิตได้แล้ว ตนและญาติๆ ต่างดีใจเป็นอย่างมาก
วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.ต.ภาคภูมิ โห้ใย สว.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายเกรียงไกร แซ่ลี้ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1614/1128 หมู่ 6 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนยิง ด.ญ.เกษราภรณ์ ชื่นบาน อายุ 14 ปี นักเรียนมัธยม 2 โรงเรียนหาดอัมรา เสียชีวิตขณะนั่งร่วมวงฉลองวันปีใหม่ต้นปี 2550 อยู่ที่หน้าบ้านภายในซอย บ่อดิน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ม.ค.50 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้จำนวน 3 คน คือ นายคุณะพันธ์ หรือป้อม เหมสุวรรณ อายุ 20 ปี, นายวิฑูร หรือโก้ พลเยี่ยม อายุ 37 ปี และนายพรเทพ มีศรี อายุ 31 ปี เหลือเพียงนายเกรียงไกร ซึ่งเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปได้ สาเหตุเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งร่วมวงกับ ด.ญ.เกษราภรณ์ พัวพันกับยาเสพติดและมีการหักหลังกันเอง ผู้ก่อเหตุจึงได้ยกพวกมายิงถล่ม กระสุนเกิดพลาดถูก ด.ญ.เกษราภรณ์
สำหรับคดีนี้ทางด้าน พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้สั่งการให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี เนื่องจากพฤติกรรมการสังหารในครั้งนี้มีความโหดเหี้ยม
ทั้งนี้ หลังจากที่ พ.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ผกก.สภ.อ.เมือง สมุทรปราการ และ พ.ต.ต.ภาคภูมิ โห้ใย สว.สส. พร้อมกำลังได้สืบสวนติดตามคนร้ายในคดีดังกล่าวด้วยการสืบสวนจากญาติของคนร้ายจนทราบว่าหลังก่อเหตุนายเกรียงไกรได้หลบหนีไปกบดานที่บ้านญาติในแถบภาคใต้ ในจังหวัดภูเก็ต โดยไปประกอบอาชีพค้าขายเสื้อผ้าอยู่ที่ตลาดป่าตอง จ.ภูเก็ต จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต และร่วมกันจับกุมนายเกรียงไกร ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่บริเวณตลาดนัดหาดป่าตอง เวลา 22.30 น.วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงได้คุมตัวกลับมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธแต่จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ที่จับกุมได้หลังก่อเหตุได้ให้การยืนยันว่านายเกรียงไกรเป็นคนใช้อาวุธปืนยิง รวมทั้งนางเกศณี มูลม่อม อายุ 41 ปี มารดาผู้ตาย ซึ่งอยู่ด้วยในขณะเกิดเหตุและจดจำใบหน้าของนายเกรียงไกรได้ก็ยืนยันว่าในวันที่เกิดเหตุนายเกรียงไกรเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงสาดกระสุนเข้าไปในวงจนเป็นเหตุลูกสาวตนเสียชีวิต
ทั้งนี้ ขณะที่แถลงข่าว นางเกศณี แม่ของ ด.ญ.เกษราภรณ์ ซึ่งมาร่วมแถลงข่าวด้วยถึงกับหลั่งน้ำตาเนื่องจากโทสะ และใช้ฝ่ามือตบที่ใบหน้านายเกรียงไกรหลายครั้งจนตำรวจต้องรีบกันตัวนายเกรียงไกรออกจากห้องแถลงข่าว พร้อมทั้งสั่งปรับนางเกศณีเป็นเงิน 100 บาท ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนนายเกรียงไกร เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาต ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางเกศณี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ดีใจมากที่ยังมีความเป็นธรรมอยู่ในบ้านเมืองเรา และยังมีตำรวจที่ตั้งใจทำงานให้แก่ประชาชนหลังจากที่เกิดเหตุมาได้ปีกว่าแล้วก็ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ จนสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปขอพรที่เขาคิชกูฏที่จังหวัดจันทบุรี ขอให้ตำรวจตามจับคนร้ายที่ทำให้ลูกตนเสียชีวิตให้จงได้โดยเร็ว หลังจากนั้นไม่กี่วันตนก็ได้รับแจ้งจากตำรวจว่าสามารถตามจับนายเกรียงไกร คนร้ายที่ยิงลูกสาวตนเสียชีวิตได้แล้ว ตนและญาติๆ ต่างดีใจเป็นอย่างมาก
