“สมพงษ์” ลั่นไม่เลี้ยง “วันชัย รุจนวงศ์” หลัง “เป็ดเหลิม” หมั่นไส้เปิดทางเด้งได้ 24 ชั่วโมงถ้าแก้ปัญหายาเสพติดคนคุกไม่เกิดศักยภาพ ขู่ซ้ำไม่เพียงย้ายออกจากตำแหน่งต้องเจอโทษ 2 เท่าหากละเลยหน้าที่ ปัดข่าวใบสั่งเช็กบิลเลขาฯ ป.ป.ส. ย้ำอำนาจย้ายอยู่ในมือตนคนเดียว
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขู่จะเสนอย้ายนายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ หากแก้ปัญหาการสั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำไม่ได้ ว่า ตนสนับสนุนเรื่องการแก้ไขปัญหาการสั่งยาเสพติดในเรือนจำ และเห็นด้วยกับความคิดเห็นของ ร.ต.อ.เฉลิม หากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปล่อยปละละเลยหน้าที่จนทำให้นักโทษสั่งการซื้อขายยาเสพติด ไม่เพียงต้องย้ายออกจากตำแหน่ง แต่ควรได้รับโทษเป็น 2 เท่าให้สาสมกับการละเลยหน้าที่ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจเยี่ยมงานเรือนจำและกรมราชทัณฑ์ ตนได้กำชับให้เร่งแก้ปัญหายาเสพติดเป็นอันดับแรก และเสนอให้เพิ่มโทษกับผู้ต้องขังที่ลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปใช้สั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำเป็น 2 เท่า เพื่อให้การลงโทษมีความเด็ดขาดมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญหากมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เกี่ยวข้องอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าหมั่นไส้อธิบดีกรมราชทัณฑ์เพราะสมัยที่บุตรชายติดคุกการเข้าเยี่ยมทำได้ยาก แต่นักโทษกลับลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปใช้ในเรือนจำ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้รับมอบหมายให้ดูแลการปราบปรามยาเสพติด ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) จึงสามารถเสนอความเห็นให้ย้ายอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้แต่ต้องเป็นเหตุผลในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่ความหมันไส้ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม เรื่องการสับเปลี่ยนโยกย้ายภายในกระทรวงยุติธรรม เป็นอำนาจของตนไม่ว่าใครจะมีความเห็นอย่างไรก็ต้องมาพูดคุยกับตนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความพยายามจะเสนอย้ายนายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อดึงตำรวจมาทำงานปราบปรามยาเสพติด นายสมพงษ์ กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวคงไม่เป็นความจริงและขอย้ำอีกครั้งว่าการปรับย้ายในกระทรวงยุติธรรมต้องผ่านการพิจารณาจากตนก่อน