ตร.ปากน้ำตามรวบทันควัน 2 หนุ่มมือฆ่าหนุ่ม จยย.รับจ้างและเจ้าพ่อเงินกู้ ยัดกระสอบทิ้งในป่าหญ้า สารภาพร่วมกับเพื่อนที่ยังหลบหนีอีก 2 คนวางแผน จะขอซื้อยาบ้ากับผู้ตายโดยจะขอเซ็นไว้ก่อน แต่ผู้ตายไม่ยอมจึงร่วมกันลงมือก่อเหตุ ตร.เผย ขัดแย้งกันเองเรื่องยาเสพติด เร่งตามล่าผู้ต้องหาอีก 2 คนที่กำลังหลบหนี
จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบศพ นายชนะพร หรือป้อม ทองคำน้อย อายุ 43 ปี หนุ่มขับจักรยานยนต์รับจ้างและเป็นปล่อยเงินกู้ ถูกคนร้ายฆ่าตายยัดศพใส่กระสอบก่อนนำไปทิ้งในป่าหญ้า ภายในซอยร่วมรังสรรค์ (ท่าทราย) หมู่ 6 ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ สภาพศพถูกแทงด้วยของมีคมและทุบตีด้วยของแข็งที่ศีรษะเสียชีวิตในสภาพสยดสยอง
วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นริศวร์ ละม้ายอินทร์ ผกก. พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รักษารอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ภาสกร มังกรแก้ว สว.สส. พ.ต.ต.พชร ครองญาติ สว.สป. ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายวิโรจน์ หรือโรจน์ ไกรสร อายุ 26 ปี และ นายเอกสิทธิ์ หรือแบงค์ แดงเปี่ยม อายุ 18 ปี สองผู้ต้องที่ร่วมกับพวกที่หลบหนี ฆ่านายชนะพร ทองคำน้อย หนุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าหญ้าในซอยร่วมรังสรรค์ เมื่อกลางดึกคืนวานนี้ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าโซนิค สีเหลือง ทะเบียน กวบ-582 นครสวรรค์ ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย และมีดปลายแหลมยาว 20 ซม.1 เล่ม ชะแลงเหล็กยาว 1 เมตร 1 อัน ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ เสื้อยืดแขนยาวสีเหลืองเปื้อนเลือด 1 ตัว เสื้อยืดสีน้ำเงินเปื้อนเลือดซึ่งค้นพบที่บ้านพักของนายวิโรจน์ 1 ตัว โดยจับกุมตัวนายแบงค์ได้ในขณะกำลังจะเดินอยู่ภายในซอยมหาจักร หมู่ 1 ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งกำลังจะหลบหนี โดยจับกุมได้เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 มี.ค.51 ที่ผ่านมา และจับกุมนายวิโรจน์ ไกรสร ได้ที่หน้าบ้านเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยกรุงเทพผลิตเหล็ก หมู่ 19 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้
จากการสอบสวน นายเอกสิทธิ์ หรือแบงค์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดช่วงกลางดึกคืนวันที่ 24 มี.ค.51 นายการัณ หรือแก้ว มากแก้ว อายุ 23 ปี ได้ชักชวนตน นายวิโรจน์ และนายสมัย หรือกล้วย ลือชาคำ อายุ 16 ปี ซึ่งตนทั้งหมดเป็นเอเยนต์จำหน่ายยาบ้ารายย่อยมานั่งดื่มเหล้ายาดองที่บ้านพักของนายเอกสิทธิ์ที่อยู่ภายในซอยสองพี่น้อง เลขที่ 374/40 หมู่ 8 ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หลังจากทีนั่งดื่มกันจนเมาได้ที่ นายแก้วได้เป็นคนวางแผนติดต่อขอซื้อยาบ้าจากนายชนะพร ผู้ตาย แต่ไม่มีเงิน โดยจะขอเซ็นเอาไว้ก่อนเพราะไม่มีเงิน และหากนายชนะพรไม่ให้ยอมเซ็นก็จะลงมือฆ่าให้ตายเพื่อชิงยาบ้ามาเสพ โดยนายแก้วได้ลงไปหยิบเหล็กชะแลงซึ่งเป็นเหล็กตันยาวประมาณ 1 เมตร เอามาซ่อนเอาไว้ใต้เตียงในห้องนอนชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องนอนของนายแก้ว ส่วนนายวิโรจน์ได้ลงไปหยิบมีดปอกผลไม้ที่ห้องครัวชั้นลงมาเหน็บหลังเอาไว้ หลังจากที่นายชนะพร ผู้ตายได้กลับไปเอายาบ้ามาให้ นายแก้วได้พาขึ้นมาที่ห้องนอนชั้น 3 ที่มีการตั่งวงดื่มเหล้ายาดองกันอยู่ข้างเตียงนอน นายชนะพรได้ควักเอายาบ้าออกมา 1 ถุง (200 เม็ด) และบอกให้เอาเงินมาถึงจะให้ยา นายแก้วบอกว่าไม่มีเงินแต่จะขอเซ็นเอาไว้ก่อน นายชนะพรไม่ยอมให้ นายแก้วจึงได้ใช้เท้าเตะขวดเหล้าจนกระเด็นไปโดนผนังห้องจนแตกกระจาย นายชนะพร ผู้ตาย ได้ลุกขึ้นยืนด้วยอาการไม่พอใจ นายวิโรจน์ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังได้ลุกขึ้นและพุ่งเข้าล็อกที่ด้านหลังก่อนใช้มีดแทงเข้าที่กลางหลังผู้ตาย ส่วนนายแก้วได้คว้าเอาเหล็กชะแลงที่ซ่อนเอาไว้ใต้เตียงนอนตีเข้าที่ศีรษะผู้ตายอย่างแรงจนเลือดสาดล้มลงไปฟุบอยู่บนที่นอน หลังจากนั้นพวกตนทั้งหมดได้เข้าไปช่วยกันรุมทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตและค้นเอาทรัพย์สินในตัวผู้ตายมีเงินสด 2,500 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ยาบ้าอีก 200 เม็ด ก่อนที่จะช่วยกันเอาผ้าปูที่นอนและผ้าแพร่ผ้าห่อที่เปื้อนเลือดห่อศพผู้ตายเอาไว้ โดยนายวิโรจน์ได้เอาถุงกระสอบที่เตรียมมานำศพมายัดใส่เอาไว้ ก่อนที่จะช่วยกันลากศพนายชนะพรลงมาที่ชั้นล่าง โดยนายแก้วเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนนายวิโรจน์เป็นคนอุ้มศพนั่งซ้อนท้ายและนำศพมาทิ้งยังที่เกิดเหตุ และย้อนกลับมาช่วยกันเอารถจักรยานยนต์ของผู้ตายเข้าไปซ่อนที่ช่องบันไดทางขึ้น และแยกย้ายกันหลบหนี
ขณะที่ นายวิโรจน์ ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว เคยรู้จักกับผู้ตายเพราะตนเคยขี่จักรยานยนต์รับจ้างวินเดียวกัน แต่ก็นานมาแล้ว วันที่เกิดเหตุตนก็นอนอยู่บ้านพร้อมลูกเมีย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างไร
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า สำหรับในคดีนี้เป็นเรื่องขัดแย้งยาเสพติด หลังก่อเหตุตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ตามจับผู้ร่วมก่อเหตุมาได้ 2 คน คือ นายเอกสิทธิ์ และนายวิโรจน์ ซึ่งนายเอกสิทธิ์ให้การรับสารภาพและเป็นคนให้การยืนยันว่านายวิโรจน์เป็นคนลงมือใช้มีดแทงผู้ตาย แต่นายวิโรจน์กลับให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้มีหลักฐานชิ้นสำคัญทั้งที่พบในที่เกิดเหตุ และภายในบ้านพักของนายวิโรจน์ ซึ่งจะได้นำเข้าสู่กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด และเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ก่อเหตุอีกสองคนที่เหลือในขณะนี้ทราบว่าหลบหนีไปกบดานยังต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้พอที่จะรู้ที่กบดานของทั้งสองแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เกรงว่าจะเสียรูปคดี ซึ่งได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และเชื่อว่าน่าจะจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุทั้งสองได้ในเร็ว ๆ นี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายเอกสิทธิ์ และนายวิโรจน์ ว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และร่วมกันลักทรัพย์ ควบคุมตัวเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทุบหัวหนุ่มเงินกู้ยัดกระสอบทิ้งป่าข้างทาง
จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบศพ นายชนะพร หรือป้อม ทองคำน้อย อายุ 43 ปี หนุ่มขับจักรยานยนต์รับจ้างและเป็นปล่อยเงินกู้ ถูกคนร้ายฆ่าตายยัดศพใส่กระสอบก่อนนำไปทิ้งในป่าหญ้า ภายในซอยร่วมรังสรรค์ (ท่าทราย) หมู่ 6 ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ สภาพศพถูกแทงด้วยของมีคมและทุบตีด้วยของแข็งที่ศีรษะเสียชีวิตในสภาพสยดสยอง
วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นริศวร์ ละม้ายอินทร์ ผกก. พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รักษารอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ภาสกร มังกรแก้ว สว.สส. พ.ต.ต.พชร ครองญาติ สว.สป. ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายวิโรจน์ หรือโรจน์ ไกรสร อายุ 26 ปี และ นายเอกสิทธิ์ หรือแบงค์ แดงเปี่ยม อายุ 18 ปี สองผู้ต้องที่ร่วมกับพวกที่หลบหนี ฆ่านายชนะพร ทองคำน้อย หนุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าหญ้าในซอยร่วมรังสรรค์ เมื่อกลางดึกคืนวานนี้ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าโซนิค สีเหลือง ทะเบียน กวบ-582 นครสวรรค์ ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย และมีดปลายแหลมยาว 20 ซม.1 เล่ม ชะแลงเหล็กยาว 1 เมตร 1 อัน ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ เสื้อยืดแขนยาวสีเหลืองเปื้อนเลือด 1 ตัว เสื้อยืดสีน้ำเงินเปื้อนเลือดซึ่งค้นพบที่บ้านพักของนายวิโรจน์ 1 ตัว โดยจับกุมตัวนายแบงค์ได้ในขณะกำลังจะเดินอยู่ภายในซอยมหาจักร หมู่ 1 ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งกำลังจะหลบหนี โดยจับกุมได้เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 มี.ค.51 ที่ผ่านมา และจับกุมนายวิโรจน์ ไกรสร ได้ที่หน้าบ้านเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยกรุงเทพผลิตเหล็ก หมู่ 19 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้
จากการสอบสวน นายเอกสิทธิ์ หรือแบงค์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดช่วงกลางดึกคืนวันที่ 24 มี.ค.51 นายการัณ หรือแก้ว มากแก้ว อายุ 23 ปี ได้ชักชวนตน นายวิโรจน์ และนายสมัย หรือกล้วย ลือชาคำ อายุ 16 ปี ซึ่งตนทั้งหมดเป็นเอเยนต์จำหน่ายยาบ้ารายย่อยมานั่งดื่มเหล้ายาดองที่บ้านพักของนายเอกสิทธิ์ที่อยู่ภายในซอยสองพี่น้อง เลขที่ 374/40 หมู่ 8 ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หลังจากทีนั่งดื่มกันจนเมาได้ที่ นายแก้วได้เป็นคนวางแผนติดต่อขอซื้อยาบ้าจากนายชนะพร ผู้ตาย แต่ไม่มีเงิน โดยจะขอเซ็นเอาไว้ก่อนเพราะไม่มีเงิน และหากนายชนะพรไม่ให้ยอมเซ็นก็จะลงมือฆ่าให้ตายเพื่อชิงยาบ้ามาเสพ โดยนายแก้วได้ลงไปหยิบเหล็กชะแลงซึ่งเป็นเหล็กตันยาวประมาณ 1 เมตร เอามาซ่อนเอาไว้ใต้เตียงในห้องนอนชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องนอนของนายแก้ว ส่วนนายวิโรจน์ได้ลงไปหยิบมีดปอกผลไม้ที่ห้องครัวชั้นลงมาเหน็บหลังเอาไว้ หลังจากที่นายชนะพร ผู้ตายได้กลับไปเอายาบ้ามาให้ นายแก้วได้พาขึ้นมาที่ห้องนอนชั้น 3 ที่มีการตั่งวงดื่มเหล้ายาดองกันอยู่ข้างเตียงนอน นายชนะพรได้ควักเอายาบ้าออกมา 1 ถุง (200 เม็ด) และบอกให้เอาเงินมาถึงจะให้ยา นายแก้วบอกว่าไม่มีเงินแต่จะขอเซ็นเอาไว้ก่อน นายชนะพรไม่ยอมให้ นายแก้วจึงได้ใช้เท้าเตะขวดเหล้าจนกระเด็นไปโดนผนังห้องจนแตกกระจาย นายชนะพร ผู้ตาย ได้ลุกขึ้นยืนด้วยอาการไม่พอใจ นายวิโรจน์ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังได้ลุกขึ้นและพุ่งเข้าล็อกที่ด้านหลังก่อนใช้มีดแทงเข้าที่กลางหลังผู้ตาย ส่วนนายแก้วได้คว้าเอาเหล็กชะแลงที่ซ่อนเอาไว้ใต้เตียงนอนตีเข้าที่ศีรษะผู้ตายอย่างแรงจนเลือดสาดล้มลงไปฟุบอยู่บนที่นอน หลังจากนั้นพวกตนทั้งหมดได้เข้าไปช่วยกันรุมทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตและค้นเอาทรัพย์สินในตัวผู้ตายมีเงินสด 2,500 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ยาบ้าอีก 200 เม็ด ก่อนที่จะช่วยกันเอาผ้าปูที่นอนและผ้าแพร่ผ้าห่อที่เปื้อนเลือดห่อศพผู้ตายเอาไว้ โดยนายวิโรจน์ได้เอาถุงกระสอบที่เตรียมมานำศพมายัดใส่เอาไว้ ก่อนที่จะช่วยกันลากศพนายชนะพรลงมาที่ชั้นล่าง โดยนายแก้วเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนนายวิโรจน์เป็นคนอุ้มศพนั่งซ้อนท้ายและนำศพมาทิ้งยังที่เกิดเหตุ และย้อนกลับมาช่วยกันเอารถจักรยานยนต์ของผู้ตายเข้าไปซ่อนที่ช่องบันไดทางขึ้น และแยกย้ายกันหลบหนี
ขณะที่ นายวิโรจน์ ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว เคยรู้จักกับผู้ตายเพราะตนเคยขี่จักรยานยนต์รับจ้างวินเดียวกัน แต่ก็นานมาแล้ว วันที่เกิดเหตุตนก็นอนอยู่บ้านพร้อมลูกเมีย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างไร
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า สำหรับในคดีนี้เป็นเรื่องขัดแย้งยาเสพติด หลังก่อเหตุตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ตามจับผู้ร่วมก่อเหตุมาได้ 2 คน คือ นายเอกสิทธิ์ และนายวิโรจน์ ซึ่งนายเอกสิทธิ์ให้การรับสารภาพและเป็นคนให้การยืนยันว่านายวิโรจน์เป็นคนลงมือใช้มีดแทงผู้ตาย แต่นายวิโรจน์กลับให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้มีหลักฐานชิ้นสำคัญทั้งที่พบในที่เกิดเหตุ และภายในบ้านพักของนายวิโรจน์ ซึ่งจะได้นำเข้าสู่กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด และเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ก่อเหตุอีกสองคนที่เหลือในขณะนี้ทราบว่าหลบหนีไปกบดานยังต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้พอที่จะรู้ที่กบดานของทั้งสองแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เกรงว่าจะเสียรูปคดี ซึ่งได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และเชื่อว่าน่าจะจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุทั้งสองได้ในเร็ว ๆ นี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายเอกสิทธิ์ และนายวิโรจน์ ว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และร่วมกันลักทรัพย์ ควบคุมตัวเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทุบหัวหนุ่มเงินกู้ยัดกระสอบทิ้งป่าข้างทาง
