สาวน้อยวัย 15 ขี่ จยย.มาจากบ้านที่นครสวรรค์เข้ากรุง แซงรถเก๋งไม่พ้นโดนชนท้ายแล้วเสียหลักถลาไปชนรถเมล์จนล้มคว่ำไปใต้ท้องรถ ก่อนโดนทับซ้ำดับคาที่ พ่อร่ำไห้ไม่รู้ว่าลูกสาวขี่รถเข้ากรุงเทพฯ ลำพังคนเดียว หากรู้คงไม่ปล่อยให้มา
เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (23 มี.ค.) พ.ต.ท.ฉัตรชัย พิณะเวศน์ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ดอนเมือง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าร้านประสิทธิ์แอร์ ปากซอยพหลโยธิน 62 ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตดอนเมือง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถประจำทาง ขสมก.สาย 34 สีครีมแดง หมายเลขทะเบียน 11-8991 กทม.หมายเลขข้างรถ 1-50010 วิ่งระหว่างอู่บางเขน-ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จอดอยู่ โดยใต้ท้องรถบริเวณล้อหลังด้านซ้าย เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.ชุติมา แสงรัศมี อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 10 ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ สภาพนอนหงาย สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมเสื้อยีนส์แขนยาวทับอีกชั้น นุ่งกางเกงยีนส์ ตรวจสอบตามร่างกายพบศีรษะแตกเลือดไหลนองเต็มพื้น มีบาดแผลถลอกที่หัวไหล่กับแขนข้างซ้าย โดยบริเวณท้ายรถประจำทางคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขจค-74 นครสวรรค์ ล้มคว่ำอยู่ ใกล้กันมีหมวกกันน็อกแบบเต็มใบตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายไพบูลย์ ธัญญกรรม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/76 หมู่ 1 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พนักงานขับรถประจำทางคันดังกล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถประจำทางออกจากฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เพื่อมุ่งหน้าไปอู่บางเขน เมื่อขับจนมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุก็เห็นผู้ตายกำลังขี่รถจักรยานยนต์ตีคู่มากับรถเก๋งไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน อยู่ในซอยพหลโยธิน 62 จากนั้นผู้ตายก็ขับแซงปาดหน้ารถเก๋งคันดังกล่าวเพื่อจะออกมาถนนใหญ่ แต่แซงไม่พ้นเลยถูกรถเก๋งชนท้ายจนรถจเสียหลักพุ่งมาชนรถของตนจนล้มคว่ำไป ตนจึงรีบเบรกแล้วลงไปดูก็พบว่าผู้ตายถูกทับเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถแล้ว ส่วนรถเก๋งคันที่เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ผู้ตายรีบหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ
ต่อมา นายสุทัศ แสงรัศมี อายุ 42 ปี พ่อผู้ตายได้เดินทางมาที่ สน.ดอนเมือง เพื่อให้ปากคำกับตำรวจ ซึ่งเมื่อนายสุทัศเห็นศพของลูกสาวก็โผเข้ากอดศพแล้วร่ำให้อย่างน่าเวทนา ก่อนเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าไม่ทราบว่าลูกสาวขับจักรยานยนต์มา กทม.เพียงคนเดียว เพราะลูกสาวไม่ได้บอกตนไว้ ถ้าหากรู้ก็คงไม่ปล่อยให้มาคนเดียวแน่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อใคร โดยหลังจากนี้จะเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์ในจุดเกิดเหตุมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งติดตามหาว่า รถเก๋งคันที่เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ผู้ตายเป็นรถคันไหน เพื่อติดตามมาสอบปากคำก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป