ตำรวจ สน.ดุสิต ส่งสำนวนคดี “จอน อึ๊งภากรณ์” นำม็อบบุกสภา สั่งฟ้องข้อหาหนัก บุกรุก ข่มขืนใจ กักขังหน่วงเหนี่ยว อัยการนัดสั่งคดี 5 มิ.ย.นี้ 10.00 น. ผู้ต้องหายื่นขอความเป็นธรรม อสส. ยันใช้สิทธิชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต นำสำนวนการสอบสวนจำนวน 821 หน้า พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายจอน อึ๊งภากรณ์ อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (อพปช.) กับพวกรวม 10 คน ผู้ต้องหาในคดี บุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มั่วสุมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นและกระทำการใดหรือไม่กระทำการใด หน่วงเหนี่ยวกักขังร่วมกันกระทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งมอบให้ นายพีรยุทธ์ ประดิษฐ์กุล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เพื่อพิจารณาสั่งคดี โดยพนักงานอัยการนัดฟังคำส่งคดีในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
ด้าน นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความผู้ต้องหากล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เนื่องจากการจัดชุมนุมของผู้ต้องหาเป็นการใช้สิทธิการชุมนุมโดยสงบ ตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นห่วงในการพิจารณากฎหมายหลายฉบับของ สนช.ที่อาจเป็นปัญหาที่ยากต่อการเยียวยาภายหลัง ซึ่งในปัจจุบันร่างกฎหมายบางฉบับก็ที่เร่งผ่านออกมาในช่วงเวลานั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก สนช.พิจารณาผ่านร่างกฎหมายโดยไม่ครบองค์ประชุม นอกจากนี้ยังร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่สำนวนสอบสวนของตำรวจไม่เป็นธรรม ไม่มีการพิจารณาถึงเจตนาของกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมนำพยานหลักฐานมอบให้พนักงานอัยการ และเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมภายใน 15 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.50 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหา อาทิ นายจอน อึ๊งภากรณ์, นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) และน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) ได้ร่วมกันบุกเข้าไปในรัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยุติการเร่งพิจารณาผ่านกฎหมายสำคัญๆ ก่อนที่จะหมดวาระ
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต นำสำนวนการสอบสวนจำนวน 821 หน้า พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายจอน อึ๊งภากรณ์ อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (อพปช.) กับพวกรวม 10 คน ผู้ต้องหาในคดี บุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มั่วสุมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นและกระทำการใดหรือไม่กระทำการใด หน่วงเหนี่ยวกักขังร่วมกันกระทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งมอบให้ นายพีรยุทธ์ ประดิษฐ์กุล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เพื่อพิจารณาสั่งคดี โดยพนักงานอัยการนัดฟังคำส่งคดีในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
ด้าน นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความผู้ต้องหากล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เนื่องจากการจัดชุมนุมของผู้ต้องหาเป็นการใช้สิทธิการชุมนุมโดยสงบ ตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นห่วงในการพิจารณากฎหมายหลายฉบับของ สนช.ที่อาจเป็นปัญหาที่ยากต่อการเยียวยาภายหลัง ซึ่งในปัจจุบันร่างกฎหมายบางฉบับก็ที่เร่งผ่านออกมาในช่วงเวลานั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก สนช.พิจารณาผ่านร่างกฎหมายโดยไม่ครบองค์ประชุม นอกจากนี้ยังร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่สำนวนสอบสวนของตำรวจไม่เป็นธรรม ไม่มีการพิจารณาถึงเจตนาของกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมนำพยานหลักฐานมอบให้พนักงานอัยการ และเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมภายใน 15 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.50 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหา อาทิ นายจอน อึ๊งภากรณ์, นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) และน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) ได้ร่วมกันบุกเข้าไปในรัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยุติการเร่งพิจารณาผ่านกฎหมายสำคัญๆ ก่อนที่จะหมดวาระ