แก๊งลักฝาท่อ สำนึกผิดเข้ามอบตัวกับตำรวจ หลังตำรวจไล่กวาดยึดได้เพียงของกลางฝาท่อ 10 ฝา และรถบรรทุก สารภาพทำครั้งแรกหลังหลบหนีนานนับเดือน ขณะที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับสมุนอีก 2 ที่ร่วมขบวนการ
วันนี้(17 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายลักฝาปิดท่อระบายน้ำ ริมฟุตบาททางลอดอุโมงค์ท่าพระ ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าฝาท่อระบายน้ำขนาดความกว้าง 1 ฟุตครึ่ง ยาว 2 ฟุต ซึ่งมีลักษณะเป็นตะแกรงเหล็กปิดปากท่ออยู่ริมฟุตบาททางลอดอุโมงค์ทั้ง 2 ฝั่ง ถูกคนร้ายขโมยหายไปกว่า 30 อัน จึงเดินทางไปขอเข้าพบ พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สน.ท่าพระ เพื่อสอบถามรายละเอียด
พ.ต.อ.เมธี กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา ในประมาณ 01.00 น.ซึ่งช่วงระหว่างนั้นมีการขโมยลักทรัพย์สินของทางราชการ อาทิ นอต สายไฟ ซึ่งระหว่างการตระเวนออกตรวจตราของหลวงหายในพื้นที่ โดยในที่เกิดเหตุลักฝาท่อ พ.ต.ท.บรรเทา อรุณประชารัตน์ สวป.สน.ท่าพระ ซึ่งขับรถผ่านมาพบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีฟ้า 92-8461 กทม. จอดอยู่บริเวณใต้แยกอุโมงค์ เห็นผิดสังเกตชาย 2 คน กำลังงัดฝาท่อระบายน้ำ จึงลงไปตรวจสอบ แต่คนร้ายทั้ง 2 ได้ขึ้นรถหลบหนี จึงได้ขับตามคนร้ายทั้ง 2 ที่มุ่งหน้าไปทาง ถ.สาธร ทางไปเดอะมอลล์ท่าพระ พร้อมกับได้แจ้งวิทยุสกัดจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถไล่ตามคนร้ายมาทันที่บริเวณสะพานสาธร พบเพียงรถคนร้ายจอดอยู่ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปแล้ว
พ.ต.อ.เมธี กล่าวต่อว่า จากนั้นได้ยึดรถของกลางไปตรวจสอบ โดยภายในรถพบฝาท่อระบายน้ำ 10 ฝา ซุกซ่อนอยู่หลังเบาะคนขับ หลังจากตรวจสอบหมายเลขทะเบียนตามฐานข้อมูลที่โรงพักทราบว่า รถคันดังกล่าวเป็นของบริษัท สัมฤทธิ์ผล จำกัด ประกอบกิจการรับจ้างขนดิน ตั้งอยู่ในย่านมหานาค ตนจึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเดินทางไปพบเจ้าของบริษัทเพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลที่นำรถออกมาใช้ในคืนวันที่เกิดเหตุ ซึ่งทางบริษัทก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนของกลางตรวจสอบพบว่าเป็นของ กทม.จึงประสานไปยัง กทม.แผนกโยธาดูแลสะพานลอยและทางลอดอุโมค์ สนง.เขตบางกอกใหญ่
พ.ต.อ.เมธี กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา นายรณชัย ลิมปิผลไพบูลย์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/7 ซ.อ่อนนุช ม.10 แขวงและเขตประเวศ กทม.ซึ่งเป็นพนักงานขับรถได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตัวเอง ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุกับเพื่อน 2 คน คือ นายสาหล พรมมะดัน อายุ 30 ปี และ นายอภิชาติ ชัยงาม อายุ 30 ปี ลูกจ้างขนดินของบริทดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 คนได้ชักชวนให้นำรถมาขนท่อไปขายเพื่อหารายได้เพิ่ม แต่ยังไม่ได้ขายก็มาถูกตำรวจไล่กวาดจับยึดของกลางและรถบรรทุกไปได้ก่อนโดยนายรณชัยรับสารภาพว่าพึ่งทำเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวด้วยตนเอง และให้การเป็นประโยชน์กับทางพนักงานสอบสวน ตนจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ของหลวงโดยใช้ยานพาหนะ และอนุญาตให้ประกันตัวก่อนจะเรียกมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกในภายหลัง
"ด้านนายสาหน และนายอภิชาติ ที่ยังหลบหนีอยู่นั้นตนคาดว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต้องเคยร่วมกันก่อเหตุลักฝาปิดท่อระบายน้ำในอุโมงค์มาแล้ว เนื่องจากจำนวนของฝาท่อที่สูญหาย กับจำนวนของกลางที่พบในรถไม่ตรงกัน ซึ่งตนได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา แผนกดูแลสะพานลอยและทางลอดอุโมงค์ สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ ส่งผู้รับมอบอำนาจมาทำการแจ้งความ เพื่อให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายอย่างเร่งด่วนต่อไป" พ.ต.อ.เมธี กล่าว
วันนี้(17 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายลักฝาปิดท่อระบายน้ำ ริมฟุตบาททางลอดอุโมงค์ท่าพระ ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าฝาท่อระบายน้ำขนาดความกว้าง 1 ฟุตครึ่ง ยาว 2 ฟุต ซึ่งมีลักษณะเป็นตะแกรงเหล็กปิดปากท่ออยู่ริมฟุตบาททางลอดอุโมงค์ทั้ง 2 ฝั่ง ถูกคนร้ายขโมยหายไปกว่า 30 อัน จึงเดินทางไปขอเข้าพบ พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สน.ท่าพระ เพื่อสอบถามรายละเอียด
พ.ต.อ.เมธี กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา ในประมาณ 01.00 น.ซึ่งช่วงระหว่างนั้นมีการขโมยลักทรัพย์สินของทางราชการ อาทิ นอต สายไฟ ซึ่งระหว่างการตระเวนออกตรวจตราของหลวงหายในพื้นที่ โดยในที่เกิดเหตุลักฝาท่อ พ.ต.ท.บรรเทา อรุณประชารัตน์ สวป.สน.ท่าพระ ซึ่งขับรถผ่านมาพบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีฟ้า 92-8461 กทม. จอดอยู่บริเวณใต้แยกอุโมงค์ เห็นผิดสังเกตชาย 2 คน กำลังงัดฝาท่อระบายน้ำ จึงลงไปตรวจสอบ แต่คนร้ายทั้ง 2 ได้ขึ้นรถหลบหนี จึงได้ขับตามคนร้ายทั้ง 2 ที่มุ่งหน้าไปทาง ถ.สาธร ทางไปเดอะมอลล์ท่าพระ พร้อมกับได้แจ้งวิทยุสกัดจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถไล่ตามคนร้ายมาทันที่บริเวณสะพานสาธร พบเพียงรถคนร้ายจอดอยู่ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปแล้ว
พ.ต.อ.เมธี กล่าวต่อว่า จากนั้นได้ยึดรถของกลางไปตรวจสอบ โดยภายในรถพบฝาท่อระบายน้ำ 10 ฝา ซุกซ่อนอยู่หลังเบาะคนขับ หลังจากตรวจสอบหมายเลขทะเบียนตามฐานข้อมูลที่โรงพักทราบว่า รถคันดังกล่าวเป็นของบริษัท สัมฤทธิ์ผล จำกัด ประกอบกิจการรับจ้างขนดิน ตั้งอยู่ในย่านมหานาค ตนจึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเดินทางไปพบเจ้าของบริษัทเพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลที่นำรถออกมาใช้ในคืนวันที่เกิดเหตุ ซึ่งทางบริษัทก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนของกลางตรวจสอบพบว่าเป็นของ กทม.จึงประสานไปยัง กทม.แผนกโยธาดูแลสะพานลอยและทางลอดอุโมค์ สนง.เขตบางกอกใหญ่
พ.ต.อ.เมธี กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา นายรณชัย ลิมปิผลไพบูลย์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/7 ซ.อ่อนนุช ม.10 แขวงและเขตประเวศ กทม.ซึ่งเป็นพนักงานขับรถได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตัวเอง ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุกับเพื่อน 2 คน คือ นายสาหล พรมมะดัน อายุ 30 ปี และ นายอภิชาติ ชัยงาม อายุ 30 ปี ลูกจ้างขนดินของบริทดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 คนได้ชักชวนให้นำรถมาขนท่อไปขายเพื่อหารายได้เพิ่ม แต่ยังไม่ได้ขายก็มาถูกตำรวจไล่กวาดจับยึดของกลางและรถบรรทุกไปได้ก่อนโดยนายรณชัยรับสารภาพว่าพึ่งทำเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวด้วยตนเอง และให้การเป็นประโยชน์กับทางพนักงานสอบสวน ตนจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ของหลวงโดยใช้ยานพาหนะ และอนุญาตให้ประกันตัวก่อนจะเรียกมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกในภายหลัง
"ด้านนายสาหน และนายอภิชาติ ที่ยังหลบหนีอยู่นั้นตนคาดว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต้องเคยร่วมกันก่อเหตุลักฝาปิดท่อระบายน้ำในอุโมงค์มาแล้ว เนื่องจากจำนวนของฝาท่อที่สูญหาย กับจำนวนของกลางที่พบในรถไม่ตรงกัน ซึ่งตนได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา แผนกดูแลสะพานลอยและทางลอดอุโมงค์ สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ ส่งผู้รับมอบอำนาจมาทำการแจ้งความ เพื่อให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายอย่างเร่งด่วนต่อไป" พ.ต.อ.เมธี กล่าว