“วัฒนา อัศวเหม” พร้อมขึ้นศาลฎีกานักการเมืองไต่สวนจำเลยปากแรกคดีทุจริตออกโฉนดทับที่คลองด่าน 28 มี.ค. หลังอัยการนำพยานไต่สวน 39 ปาก ด้านทนายเชื่อมั่นพยานหลักฐานแน่นหนาสู้คดีได้
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีดำ อม.2/2550 พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานโจทก์ครั้งสุดท้ายคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 157 ในการใช้อำนาจข่มขู่ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นร่วมออกโฉนดที่ดิน 1,900 ไร่ ทับที่คลองสาธารณะประโยชน์ และที่เทขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นที่สงวนหวงห้าม เพื่อนำไปก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
โดยอัยการ นำนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้ และพยานอื่นซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 ปาก เข้าเบิกความเกี่ยวกับขั้นตอนและการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวน ซึ่งหลังจากศาลใช้เวลาประมาณ 3 ชั่งโมงไต่สวนพยานโจทก์เสร็จสิ้น จึงนัดไต่สวนพยานจำเลยครั้งแรกในวันที่ 28 มีนาคมนี้ เวลา 09.30 น.
ภายหลังนายไพบูลย์ โพธิ์น้อย ทนายความของนายวัฒนา เปิดเผยว่า พยานที่จำเลยจะนำเข้าไต่สวนประมาณ 15-16 ปาก โดยการไต่สวนพยานจำเลยครั้งแรก นายวัฒนาจะเดินทางมาเบิกความด้วยตนเอง และพยานอีก 2 ปากที่มาจากภาคการเมือง และภาคธุรกิจเอกชน โดยมั่นใจในพยานหลักฐานที่จะนำเข้าเบิกความ แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่านายวัฒนาพยายามข่มขู่ให้ชาวบ้านขายที่ดิน ซึ่งฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่าในทางปฏิบัติหากจะมีการข่มขู่จริงเหตุใดจึงต้องให้มีนายหน้าขายที่ดินมาเป็นตัวกลางอีกเพื่อให้เป็นพยานกล่าวหาในคดีนี้
