จารบุรุษ
คำสั่งของนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ที่ให้พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ (29 ก.พ.)นั้น ความจริง เรื่องนี้ เกิดเป็นข่าวลือภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาย้ำว่า ไม่มี และไม่สามารถปลดผบ.ตร.ได้ เพราะกฏหมายไม่เอื้ออำนวย พร้อมยกตัวอย่างเมื่อครั้งสมัยที่มีการปลดพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ จากตำแหน่งผบ.ตร.
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งอดีตพรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ที่เทียบเท่ารองผบ.ตร. แต่ไม่มีการนับลำดับอาวุโส เหมือนรองผบ.ตร.ทั่วไป ภายหลังเมื่อมีการปรับโครงสร้างตำรวจใหม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกโยกย้ายให้ดำรงตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ ที่ดูเหมือนจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นกว่าตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นตำแหน่งที่ถูกดองให้เข้าไปอยู่ในกรุ เรียกว่า ความหวังของวีระบุรุษนาแก สู่เก้าอี้ผบ.ตร.นั้น ริบหรี่เต็มที อีกทั้งว่ากันว่า ตำแหน่งดังกล่าว เป็นตำแหน่งที่สูงสุดแล้วสำหรับชายที่ชื่อ"เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส"
โบราณว่าไว้ ไม้ล้มอย่าข้าม ยิ่งคนล้ม ยิ่งห้ามข้ามเด็ดขาด ความหวังที่ว่าริบหรี่ ก็ให้มีอันแปล่งแสงอันอำไพ เมื่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือคปค. ที่ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือคมช. ได้เข้ายึดอำนาจของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2549 และถัดมาไม่นาน เมื่อพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งปลดพล.ต.อ.โกวิท และแต่งตั้งให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ทำหน้าที่รักษาราชการแทนผบ.ตร.(รรท.ผบ.ตร.) และอีกไม่นาน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่างเต็มภาคภูมิ
ว่ากันว่า วีระบุรุษนาแกผู้นี้ มาจากการแต่งตั้งของคมช. เมื่อถึงยุคของพรรคพลังประชาชนผงาดขึ้นมา ก็ต้องมีการผลัดใบเป็นธรรมดา เพราะเมื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งผบ.ตร. สิ่งที่"บิ๊กตู่"ดำเนินการ นั่นคือ โยกย้ายนายตำรวจในระบอบทักษิณเกือบทั้งหมด อีกทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจในทุกระดับ ในยุคพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นี้ มีการแต่งตั้งโยกย้ายกันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เรียกว่า ย้ายทุกวัน ทุกเดือนก็มิเพี้ยน ดังนั้น เมื่อรัฐบาลใหม่ในร่างรัฐบาลทักษิณเดิมผงาดขึ้นมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงถูก"กาหัว"อยู่ในอันดับต้นๆ ต่อจากอธิบดีดีเอสไอ เลขธิการอย. อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และก็ถึงคิวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันนี้
นอกจากการสั่งให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกกันง่ายๆว่า"ปลด" พร้อมกับการแต่งตั้งให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ รองผบ.ตร. ทำหน้าที่รักษาราชการแทนผบ.ตร.นั้น จะทำให้ตำแหน่งรองผบ.ตร. ว่างลง 1 ตำแหน่ง และตำแหน่งรองผบ.ตร.ที่ว่างลงนี้ หวยจะไปออกที่ใคร คงเดากันได้ไม่ยาก เดิมที มีการวางแผนกันไว้ว่า จะให้รองผบ.ตร.ผู้หนึ่ง ลาออกจากราชการ โดยจะมีตำแหน่งรมช.มหาดไทยให้เป็นรางวัล เพื่อให้ตำแหน่งรองผบ.ตร.ว่างลง เป็นการเปิดทางการกลับสู่อำนาจภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติของ"พี่เมีย" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาหัวแก้วหัวแหวนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปัจจุบัน ถูกให้ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งแต่คมช.เข้ามา
ใช่ว่าพล.ต.อ.พัชรวาท จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผบ.ตร.เสียทีเดียว หากเมื่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กลับมายังตร.แล้ว ถึงเวลานั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะคว้าเก้าอี้ ผบ.ตร.ไปกอดได้สำเร็จหรือไม่ ยังคงจำกันได้หรือไม่ว่า ในการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ยุคหนึ่ง กลับมีชื่อพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็นผบ.ทบ. ท่ามกลางการเสียขวัญ และเสียความรู้สึกของเหล่าทหารหาญมาแล้ว หากประวัติศาสตร์จะย้อนรอยกลับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง ก็คงไม่น่ารังเกียจเกินไปนัก เต็มที่ ก็วิพากษ์วิจารณ์กันได้ไม่เกิน 7 วัน
อีกนัยยะหนึ่ง การปลดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ลงจากเก้าอี้ผบ.ตร. ถือเป็นการเชือดหัวครั้งเดียวที่ทำให้ได้ผลชงักนัก ส่วนตำแหน่งระดับล่างลงมา ผบ.ตร.คนใหม่ จะเป็นผู้ดำเนินการเชือดแทนรัฐบาลเอง ดังนั้น นายตำรวจที่เซย์โนกับระบอบทักษิณมาก่อน ให้เตรียมซื้อลังกระดาษ สั่งนายเวรเก็บของลงกระเป๋าได้เลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลา
อย่าลืมว่า นอกจากพล.ต.อ.เพรียวพันธ์แล้ว ยังมี พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร. ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นนรต.26 ของพ.ต.ท.ทักษิณ และแม้พล.ต.อ.พัชรวาท จะเป็นนรต.รุ่นพี่ รุ่น 25 รุ่นเดียวกับร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยก็ตาม แต่อย่าลืมว่า "เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ"วันยังค่ำ
ฟันธง...."เพรียวพันธ์"กลับมาแน่นอน แน่เสียยิ่งกว่าแช่แป้ง !!!
คำสั่งของนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ที่ให้พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ (29 ก.พ.)นั้น ความจริง เรื่องนี้ เกิดเป็นข่าวลือภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาย้ำว่า ไม่มี และไม่สามารถปลดผบ.ตร.ได้ เพราะกฏหมายไม่เอื้ออำนวย พร้อมยกตัวอย่างเมื่อครั้งสมัยที่มีการปลดพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ จากตำแหน่งผบ.ตร.
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งอดีตพรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ที่เทียบเท่ารองผบ.ตร. แต่ไม่มีการนับลำดับอาวุโส เหมือนรองผบ.ตร.ทั่วไป ภายหลังเมื่อมีการปรับโครงสร้างตำรวจใหม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกโยกย้ายให้ดำรงตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ ที่ดูเหมือนจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นกว่าตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นตำแหน่งที่ถูกดองให้เข้าไปอยู่ในกรุ เรียกว่า ความหวังของวีระบุรุษนาแก สู่เก้าอี้ผบ.ตร.นั้น ริบหรี่เต็มที อีกทั้งว่ากันว่า ตำแหน่งดังกล่าว เป็นตำแหน่งที่สูงสุดแล้วสำหรับชายที่ชื่อ"เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส"
โบราณว่าไว้ ไม้ล้มอย่าข้าม ยิ่งคนล้ม ยิ่งห้ามข้ามเด็ดขาด ความหวังที่ว่าริบหรี่ ก็ให้มีอันแปล่งแสงอันอำไพ เมื่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือคปค. ที่ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือคมช. ได้เข้ายึดอำนาจของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2549 และถัดมาไม่นาน เมื่อพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งปลดพล.ต.อ.โกวิท และแต่งตั้งให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ทำหน้าที่รักษาราชการแทนผบ.ตร.(รรท.ผบ.ตร.) และอีกไม่นาน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่างเต็มภาคภูมิ
ว่ากันว่า วีระบุรุษนาแกผู้นี้ มาจากการแต่งตั้งของคมช. เมื่อถึงยุคของพรรคพลังประชาชนผงาดขึ้นมา ก็ต้องมีการผลัดใบเป็นธรรมดา เพราะเมื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งผบ.ตร. สิ่งที่"บิ๊กตู่"ดำเนินการ นั่นคือ โยกย้ายนายตำรวจในระบอบทักษิณเกือบทั้งหมด อีกทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจในทุกระดับ ในยุคพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นี้ มีการแต่งตั้งโยกย้ายกันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เรียกว่า ย้ายทุกวัน ทุกเดือนก็มิเพี้ยน ดังนั้น เมื่อรัฐบาลใหม่ในร่างรัฐบาลทักษิณเดิมผงาดขึ้นมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงถูก"กาหัว"อยู่ในอันดับต้นๆ ต่อจากอธิบดีดีเอสไอ เลขธิการอย. อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และก็ถึงคิวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันนี้
นอกจากการสั่งให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกกันง่ายๆว่า"ปลด" พร้อมกับการแต่งตั้งให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ รองผบ.ตร. ทำหน้าที่รักษาราชการแทนผบ.ตร.นั้น จะทำให้ตำแหน่งรองผบ.ตร. ว่างลง 1 ตำแหน่ง และตำแหน่งรองผบ.ตร.ที่ว่างลงนี้ หวยจะไปออกที่ใคร คงเดากันได้ไม่ยาก เดิมที มีการวางแผนกันไว้ว่า จะให้รองผบ.ตร.ผู้หนึ่ง ลาออกจากราชการ โดยจะมีตำแหน่งรมช.มหาดไทยให้เป็นรางวัล เพื่อให้ตำแหน่งรองผบ.ตร.ว่างลง เป็นการเปิดทางการกลับสู่อำนาจภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติของ"พี่เมีย" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาหัวแก้วหัวแหวนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปัจจุบัน ถูกให้ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งแต่คมช.เข้ามา
ใช่ว่าพล.ต.อ.พัชรวาท จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผบ.ตร.เสียทีเดียว หากเมื่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กลับมายังตร.แล้ว ถึงเวลานั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะคว้าเก้าอี้ ผบ.ตร.ไปกอดได้สำเร็จหรือไม่ ยังคงจำกันได้หรือไม่ว่า ในการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ยุคหนึ่ง กลับมีชื่อพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็นผบ.ทบ. ท่ามกลางการเสียขวัญ และเสียความรู้สึกของเหล่าทหารหาญมาแล้ว หากประวัติศาสตร์จะย้อนรอยกลับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง ก็คงไม่น่ารังเกียจเกินไปนัก เต็มที่ ก็วิพากษ์วิจารณ์กันได้ไม่เกิน 7 วัน
อีกนัยยะหนึ่ง การปลดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ลงจากเก้าอี้ผบ.ตร. ถือเป็นการเชือดหัวครั้งเดียวที่ทำให้ได้ผลชงักนัก ส่วนตำแหน่งระดับล่างลงมา ผบ.ตร.คนใหม่ จะเป็นผู้ดำเนินการเชือดแทนรัฐบาลเอง ดังนั้น นายตำรวจที่เซย์โนกับระบอบทักษิณมาก่อน ให้เตรียมซื้อลังกระดาษ สั่งนายเวรเก็บของลงกระเป๋าได้เลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลา
อย่าลืมว่า นอกจากพล.ต.อ.เพรียวพันธ์แล้ว ยังมี พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร. ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นนรต.26 ของพ.ต.ท.ทักษิณ และแม้พล.ต.อ.พัชรวาท จะเป็นนรต.รุ่นพี่ รุ่น 25 รุ่นเดียวกับร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยก็ตาม แต่อย่าลืมว่า "เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ"วันยังค่ำ
ฟันธง...."เพรียวพันธ์"กลับมาแน่นอน แน่เสียยิ่งกว่าแช่แป้ง !!!
