xs
xsm
sm
md
lg

โจรใจบาปบุกขโมยสังฆทาน-จีวรพระวัดดัง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


โจรใจบาปขโมยเครื่องสังฆทาน-ผ้าไตรจีจรวัดบางบำหรุที่ญาติโยมนำมาถวายให้พระที่กำลังจะบวชใหม่ 80 รูป หลวงพ่อเผยถูกสารพัดแก๊งหากินกับพระทั้งไถเงินค่ารถ ลักเล็กขโมยน้อย แต่พร้อมอโหสิไม่ติดใจเอาความพวกมารศาสนา


วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีแก๊งคนร้ายบุกเข้าไปลักผ้าไตรจีวร และถังสังฆทานที่ญาติโยมนำไปทำบุญถวายแด่พระสงฆ์ เหตุเกิดภายในกุฏิพระวัดบางบำหรุ ถนนจรัญสนิทวงศ์ (ซอย 45) แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พบพระชัยชาญ ปิยะธัมโม อายุ 52 ปี พระลูกวัดดังกล่าวซึ่งเป็นผู้เสียหายกำลังตรวจสอบทรัพย์สินอยู่ภายในกุฏิของตนเอง ซึ่งมีลักษณะเป็นกุฏิ 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ ตั้งอยู่ด้านข้างกุฏิหลังใหญ่ของพระครูสิริจันทนิวิฐ เขมกาโม เจ้าอาวาส โดยท่านเจ้าอาวาสเดินทางไปรับกิจนิมนต์ที่ จ.มหาสารคาม และขณะเกิดเหตุก็ไม่ได้พำนักอยู่ที่วัดแต่ย่างใด

พระชัยชาญ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าเวลา 05.00 น.วันนี้ ตนเดินทางออกจากวัดไปบิณฑบาตตามปกติ จนกระทั่งกลับมาที่วัดเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ขณะที่กำลังเดินขึ้นกุฏิก็ได้เหลือบไปเห็นประตูเหล็กหน้าห้องเก็บของซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของกุฏิ ถูกเปิดออก เมื่อลองเดินไปตรวจสอบก็พบว่ามีถังสังฆทานที่ญาติโยมนำมาถวายให้หายไป 5 ชุด พอเดินขึ้นไปตรวจสอบด้านหน้าประตูทางเข้ากุฏิ ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าชุดผ้าไตรจีวรใหม่เอี่ยมจำนวน 30 ชุด ถูกขโมยไปด้วย ซึ่งผ้าไตรเหล่านี้ตนได้บอกบุญให้ญาติโยมช่วยนำมาถวายเพื่อนำไปมอบให้พระที่กำลังจะบวชใหม่จำนวน 80 รูป ณ วัดท่าพระเจริญพรต บ้านมะเกลือ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เนื่องในโอกาสที่พระครูนิวาส ธรรมสุนทร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส และเป็นพระอุปัชฌาย์ของตนกำลังจะมีอายุครบ 72 ปีในช่วงเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้

พระชัยชาญ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุมีสามเณรรูปหนึ่งชื่อ สามเณรไพรสณฑ์ คำกา อายุ 14 ปี มาเล่าให้ตนฟังว่า หลังจากที่ตนเดินออกจากวัดไปบิณฑบาตได้ไม่นาน ช่วงประมาณ 06.00 น.ก็มีรถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดบริเวณหน้าประตูทางเข้ากุฏิ ซึ่งห่างจากกุฏิเจ้าอาวาสไม่ถึง 50 เมตร จากนั้นก็มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 3-4 คน เดินถือกระเป๋าสะพายลงจากรถเดินมุ่งหน้าเข้าไปที่กุฏิตน แต่ช่วงเวลานั้นสามเณรไพรสณฑ์ ไม่ได้เอะใจเพราะคิดว่าเป็นญาติโยมของตนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด จนกระทั่งตนเดินทางกลับมาจากบิณฑบาตจึงทราบว่าโจรลักทรัพย์สินภายในกุฏิไปแล้ว

พระชัยชาญ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 22 ก.พ.) มีกลุ่มผู้ต้องสงสัยจำนวน 5 คนเป็นชาย 2 คน และหญิง 3 คน ได้พากันแบกกระเป๋าสะพายภายในบรรจุผ้าซิ่นไหมทอมือศิลปะคล้ายของชาวไทยอีสาน เดินทางเข้ามาขอพูดคุยกับพระลูกวัดตามกุฏิต่างๆ เพื่อขอแลกผ้าไตรที่ยังไม่ได้ใช้ 2 ชุด กับผ้าซิ่นไหมทอมือเพียง 1 ชุด โดยให้เหตุผลว่าจะนำผ้าไตรไปขายต่อให้เจ้าของร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ย่านเสาชิงช้า ส่วนผ้าไหมที่นำมาแลกนั้นเป็นของชั้นดีให้พระนำมาเก็บไว้แจกญาติโยม ซึ่งตลอดเวลาที่พูดคุยกันตนสังเกตเห็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยเหลือบมองชุดผ้าไตรจำนวนกว่า 40 ชุด ซึ่งตนนำมาวางไว้ด้านหน้าประตูทางเข้ากุฏิอยู่ตลอดเวลา จึงตอบปฏิเสธไปว่าผ้าไตรที่เห็นตนกำลังจะนำไปช่วยงานบวชพระใหม่จำนวน 80 รูป ที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งในขณะนี้ยังขาดอยู่อีก 40 ชุด ต้องบอกบุญญาติโยมให้นำมาถวายเพิ่มอีก จากนั้นกลุ่มผู้ต้องสงสัยจึงได้เดินลงจากกุฏิไป

“อาตมาบวชเป็นพระมานานกว่า 22 พรรษาแล้ว ที่ผ่านมาเคยเจอแต่พวกแก๊งอ้างว่าตกรถมาขอเงินค่ารถกลับบ้าน หนักที่สุดก็พวกขี้ยาแอบมาขโมยของเล็กๆ น้อยๆ ในกุฏิ หรือไม่ก็พวกงัดเอาเงินในตู้บริจาคของวัด แต่ระยะหลังเห็นข่าวพวกแก๊งโจรลอกทององค์พระกับประตูโบสถ์ตามวัดดังๆ ไปขายก็ทำให้สลดใจ ยิ่งมาประสบเหตุกับตัวเองแบบนี้ก็ยิ่งเสียใจ จึงอยากฝากเตือนพระภิกษุวัดอื่นๆ เอาไว้ว่าเดี๋ยวนี้แก๊งโจรเปลี่ยนวิธีหากินรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอให้ระวังเอาไว้ด้วย นี่ยังดีที่พวกมันขนไปไม่หมด ยังอุตส่าห์เหลือผ้าไตรไว้ให้ 10 ชุด กับสังฆทานจำนวนหนึ่ง คิดว่าพวกมันคงเห็นว่ามากันน้อย และโดยสารรถแท็กซี่มาจึงเอาไปไม่หมด หากโดยสารรถ 10 ล้อมาก็คงขนไปจนหมดเกลี้ยงกุฏิแล้ว” พระชาญชัย กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าต้องการแจ้งความให้ตำรวจมาตรวจสอบหรือไม่ พระชาญชัย ตอบว่า เบื้องต้นตนก็คงจะไม่แจ้งความแต่อย่างใด เนื่องจากทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปก็เป็นของที่ชาวบ้านนำมาถวายด้วยจิตศรัทธาทั้งนั้น ประกอบกับนึกถึงในอดีตสมัยพุทธกาลซึ่งผ้าไตรจีวรเป็นของไม่มีค่า ไม่มีราคา พระภิกษุจะต้องไปชักผ้าห่อศพคนตายนำมาย้อมสวมใส่เอง แต่เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นธุรกิจไปหมดแล้ว ซึ่งตนก็จะขอแผ่เมตตาให้แก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ไปเป็นการตอบแทน และตนอยากจะฝากเตือนไปยังพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศด้วยว่า แม้เศรษฐกิจบ้านเราจะยังไม่ดีขึ้นทำให้มีโจรผู้ร้ายชุกชุมไปทุกหย่อมหญ้า แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรที่จะมาเบียดเบียนผ้าเหลือง เพราะการกระทำผิดต่อพระภิกษุสงฆ์ถือเป็นการทำบาปอย่างมหันต์
กำลังโหลดความคิดเห็น