xs
xsm
sm
md
lg

สองแม่ลูกแจ้งจับ สว.สส.สีคิ้วตู่เป็นแก๊งตกทอง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สองแม่ลูกแจ้งจับสารวัตรสืบสวนโรงพักสีคิ้ว โคราช ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ฐานจับกุมในขอ้หา ตกทอง อ้างไม่รู้เห็น และไม่เคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ อีกรายหนุ่มรับเหมา ร้อง ตร.ประจวบ ยึดเอาทอง 2 บาท พร้อมเงินอีก 7,300 บาท หลังถูกจับพกพาอาวุธปืน

วันนี้ (18 ก.พ.) ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 13.00 น.นางวีณา นุ่มสกุล อายุ 51 ปี และ น.ส.บุษยาเทวี อุบลพฤกษ์ อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปีที่ 3 โรงเรียนชนพลขันธ์ แผนกผู้ช่วยพยาบาล เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.มาโนชญ์ อุปสินธ์ พงส.(สบ 1) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปปป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นางวีณา ให้การว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะตนและบุตรสาวกำลังอยู่ในร้านอาหารของตนเอง ถนนบายพาสสีคิ้ว ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว มี พ.ต.ท.สุรัตน์ หงส์ชู สว.สส.สภ.สีคิ้ว พร้อมลูกน้อง แสดงหมายศาลพร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกง แล้วจับกุมตัวพร้อมกับบุตรสาว ไปสอบสวน ซึ่งได้อ่านหมายศาล ระบุว่า ตนกับบุตรสาวร่วมกันใช้อุบายตกทองของ นางบัวศรี โถนธา ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท พระเครื่องเลี่ยมทองน้ำหนัก 2 สลึง 1 องค์ เงินสดจำนวน 9,500 บาท รวมมูลค่า 27,500 บาท เหตุเกิดที่ตลาดนัดสถานีอนามัยโพธิ์ไทรงาม หมู่ 4 ต.โพธิ์ไทรงาม อ.บึงนาราง จ.พิจิตร จากนั้น สภ.สีคิ้ว ประสานตำรวจ สภ.บึงนาราง มารับตัวไปดำเนินคดีซึ่งตนกับลูกปฏิเสธทุกข้อหา

นางวีณา ให้การต่อว่า ต่อมาผู้เสียหายได้มาชี้ตัวกล่าวหาว่า ตนกับบุตรสาวเป็นคนร้ายที่ร่วมกันฉ้อโกง โดยบุตรสาวถูกส่งไปสอบปากคำที่ สำนักงานอัยการ จ.พิจิตร และถูกควบคุมตัวที่สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.พิจิตร ทั้งนี้ ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.บึงนาราง นั้นทางพนักงานสอบสวนได้พยายามเกลี่ยกล่อม และบังคับให้ยอมความโดยให้นำเงินสด จำนวน 20,000 บาทคืนผู้เสียหาย แต่ตนปฏิเสธไปเพราะไม่ได้ทำผิดเนื่องจากวันที่เกิดเหตุตนมีพยานมากกว่า 10 คน ยืนยันสถานที่อยู่ได้ ส่วนบุตรสาวเป็นตัวแทนไปดูแลนักกีฬาของโรงเรียนซึ่งมีเพื่อนนักเรียน และอาจารย์พร้อมจะเป็นพยานให้เช่นกัน

“ฉันไม่เคยรู้จักกับผู้เสียหายมาก่อน และไม่เคยก่อเหตุดังกล่าวด้วย ไม่ทราบว่าถูกจับกุมได้อย่างไร ส่วนสาเหตุที่โดนจับก็เชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องที่ฉันกับบุตรสาวเคยไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดปางนางราง จ.พิจิตร แล้วไปพบกับชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ มาบอกว่าฉันขับรถชนคนแก่แล้วหลบหนี ก่อนขอจดข้อมูลบัตรประชาชนเอาไว้ หลังจากนั้น มาอีก 6 เดือนก็ต้องมาตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง” นางวีณา กล่าว

นางวีณา กล่าวอีกว่า กรณีที่ตำรวจอ้างว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายนั้น พร้อมจะให้มีการเผยแพร่ภาพของฉันกับบุตรสาวทางสื่อมวลชน เพราะมั่นใจว่าไม่ได้กระทำความผิดอะไร นอกจากนี้ ยังต้องการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี รวมทั้งผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายให้มาจับกุมตนกับลูกสาวด้วย

อีกราย นายสิทธิโชติ เนียมจำเริญ อายุ 39 ปี อาชีพรับเหมาไถที่ดิน อยู่บ้านเลขที่ 110/1 หมู่ 9 แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม.เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.วีระพันธุ์ เพชรโพธิ์ จ.ส.ต.ปริวัฒน์ เกิดทอง และจ่าหมาย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ

นายสิทธิโชติ ให้การว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.10 น.ถูกตำรวจชุดดังกล่าวจับกุมข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดบริเวณแยกบึงนคร บ้านเนินทราย อ.หัวหิน โดยอาวุธปืนของตนนั้นมีใบอนุญาต ป.4 แต่ไม่มีใบอนุญาตพกพา ซึ่งตนรับสารภาพในคดีนี้ และได้รับการประกันตัวออกมา จากนั้นก็ได้ขอดูบันทึกจับกุมเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่ถอดเอาไว้ในรถ ปรากฏว่า ทรัพย์สินที่ติดตัวขณะถูกจับกุม คือ สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท พร้อมพระเหลี่ยมทอง 1 องค์ และเงินสดอีก 7,300 บาท แต่กลับไม่มีอยู่ในบันทึกจับกุมดังกล่าว และเมื่อตรวจสอบในรถยนต์ก็ไม่พบ

“ผมได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมถึงทรัพย์สินที่หายไป ก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งตนเชื่อว่า น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งเนื่องจากตนเคยทำเรื่องร้องเรียนตำรวจที่โรงพักแห่งนี้ ที่เคยมารีดไถตนช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา แต่ตนไม่ได้ให้ไปจึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนถูกจับกุมในครั้งนี้ก็ได้” นายสิทธิโชติ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น