หนุ่ม รปภ.เมาคลั่ง! หลังนัดแฟนสาวพนักงานนวดฝ่าเท้ามาพูดคุย แต่สาวเจ้ากลับไม่มาตามนัด พาพวกควงมีดอีโต้บุกร้านนวดจับเพื่อนร่วมงาน-ลูกค้า รวม 8 ชีวิตเป็นตัวประกัน ตร.ให้แฟนสาวเกลี้ยกล่อมจนยอมวางมีด ถูกแจ้ง 5 ข้อหาพร้อมคุมเข้าซังเต
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ท.อำนาจ อินทรศร รอง ผกก.(ป.) สน.พญาไท พ.ต.ต.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส.สน.พญาไท พร้อมกำลังเข้าร่วมกันจับกุม นายวรพล อ่อนเขียว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 6 ต.เพชรชมพู กิ่งอ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร นายอดิศักดิ์ ปาทาน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/4 ถนนกำปงนาเฮ๊ะ ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา และนายนูรดีน สาและ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/9 หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ทั้งหมดเป็น รปภ.บริษัทแห่งหนึ่ง ภายหลังจากก่อเหตุใช้อาวุธมีดอีโต้จี้คอพนักงานนวดฝ่าเท้าภายในร้านนัมเบอร์วัน ตั้งอยู่เลขที่ 2/6-7 ซอยเพชรบุรี 15 แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม.
พ.ต.ต.สมยศ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายวรพลพร้อมเพื่อนอีก 2 คนได้ดื่มเหล้าจนเมามาย จากนั้นนายวรพลได้นัดเจอกับ น.ส.ปราณี สุวรรณพันธ์ อายุ 33 ปี แฟนสาว ซึ่งเป็นหมอนวดฝ่าเท้าอยู่ที่ร้านดังกล่าว โดยนัดเจอในช่วงเวลา 22.00 น.วันที่ 14 ก.พ. เพื่อพูดคุยเรื่องที่ น.ส.ปราณี จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ
พ.ต.ต.สมยศ กล่าวต่อว่า เมื่อถึงเวลานัดนายวรพลและเพื่อนมาถึงที่ร้านนวดฝ่าเท้าแต่กลับไม่พบ น.ส.ปราณี ทำให้นายวรพลเกิดความโมโห ประกอบกับอยู่ในอาการเมาสุราจึงใช้มีดอีโต้จี้น.ส.มะลิวรรณ ศรีศิลป์ อายุ 32 ปี พนักงานนวดฝ่าเท้าซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.ปราณี ขณะที่นายอดิศักดิ์ และนายนูรดีน คอยกันห้ามให้พนักงานในร้านและลูกค้ารวม 8 คนออกจากร้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมและพาตัว น.ส.ปราณี มาพูดคุยจนนายวรพล ยอมวางมีดและปล่อยตัวคนในร้านออกมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวมาดำเนินคดี
ด้าน น.ส.มะลิวรรณ กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ภายในร้าน ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ นายวรพลซึ่งอยู่ในสภาพเมามายพร้อมพวกได้ถีบประตูบุกเข้ามาภายในร้าน ซึ่งขณะนั้นภายในร้านยังคงมีลูกค้าอยู่ จากนั้นได้ถามหา น.ส.ปราณี ซึ่งตนได้บอกว่า น.ส.ปราณีกลับไปแล้วไม่อยู่ที่ร้าน แต่นายวรพลไม่เชื่อตรงเข้าเอามือบีบคอและใช้มีดอีโต้จี้ตน พร้อมกับขู่ไม่ให้ใครออกจากร้าน มิฉะนั้นจะทำร้ายและเผาร้าน กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชม.เจ้าหน้าที่ได้ให้ น.ส.ปราณี พูดคุยโทรศัพท์กับนายวรพลจนสามารถช่วยพวกตนออกมาได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธมีด โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ในเวลากลางคืน, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยมีอาวุธมีด ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ส่วนนายวรพลถูกแจ้งเพิ่ม อีก 2 ข้อหา คือ พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และเมาสุราประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ