xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ทุ่มงบ 5 ล้าน ซื้อกล้องถ่ายรูป “โทร.แล้วขับ” ร่อนหมายเรียกถึงบ้าน!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตำรวจเอาจริง! “โทร.แล้วขับ” โดนจับแน่ เตรียมทุ่มงบ 5 ล้าน หากล้องจับผิดตีนผี ซิ่งหนีตำรวจ พร้อมร่อนหมายเรียกถึงบ้าน กำชับทุกพื้นที่ตรวจสอบด่านลอยหากยังมีสั่งฟันวินัย

วันนี้ (14 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.กล่าวว่า ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2551 เพิ่มข้อบังคับใน (9) มาตรา 43 ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา มีสาระสำคัญ คือ ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริม หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท โดยมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกประกาศคือประมาณวันที่ 7 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.วิษณุ ม่วงแพรสี ผบก.จร. ได้ข้อสรุปแนวทางบังคับใช้ผู้ขับขี่ โดยมีเกณฑ์ปฏิบัติ คือ หากตำรวจจราจรพบมีการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์ หรือขี่จักรยานยนต์จะจับกุมทันที เพราะเป็นเหตุซึ่งหน้าและก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ยังเตรียมจัดซื้อกล้องถ่ายภาพดิจิตอลขนาดเล็กมอบให้ตำรวจจราจร 88 สน.ทั่วกรุงเทพฯ ประมาณ 3 พันนาย ไว้ใช้บันทึกภาพผู้ฝ่าฝืนขณะตั้งด่านตรวจบนถนน คาดต้องใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท

“ในทางปฏิบัติยังอนุโลมให้ตำรวจจราจรใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพผู้ฝ่าฝืนใช้โทรศัพท์มือถือ หรือทะเบียนรถไว้เป็นหลักฐานและนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ท้องที่ เพื่อตรวจสอบเจ้าของรถเพื่อออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้ถึงบ้าน และนำตัวมาดำเนินคดีได้ในภายหลังแม้จะขับรถหลบหนีไปได้” พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้กำชับสารวัตรจราจรทั้ง 88 สน.ให้เร่งประชาสัมพันธ์ไม่ให้ผู้ขับขี่ฝ่าฝืนก่อนจะเริ่มกวดขันจริงจัง อยากให้ประชาชนเคารพกฎหมาย ไม่ต้องคอยหลบหลีกเจ้าหน้าที่ เพียงแค่ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น บลูทูธ หรือสมอลทอล์ก ไม่อยากให้ต้องถูกจับกุมแต่ตำรวจขอให้มีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่า ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเข้ามาว่าในบางพื้นที่ยังมีตำรวจจราจรตั้งด่านลอย คอยตรวจจับนั้น ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกท้องที่ตรวจตรา หากมีการตั้งด่านลอยจริงให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น