xs
xsm
sm
md
lg

ยกฟ้อง “เสธ.แดง” หมิ่น “เสรีพิศุทธ์” เอี่ยวบ่อนลอยฟ้า เหตุคดีฟ้องซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลยกฟ้อง “เสธ.แดง” หมิ่น “เสรีพิศุทธ์” กล่าวหาจับบ่อนปอ ประตูน้ำ เพื่อกดดันนักพนันย้ายไปบ่อนลอยฟ้า ปิ่นเกล้า เหตุเป็นการฟ้องซ้ำ คดีที่ศาลอาญาตัดสินจำคุก 4 เดือนไม่รอลงอาญาแล้ว ศาลเตือน เสธ.แดง ระวังคำพูดก่อนให้สัมภาษณ์

วันนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 703 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีดำหมายเลขที่ อ.1490/2549 ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และนายเฉลียว คงตุก บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์คมชัดลึก เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา

โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 10 พ.ค.49 ระบุว่า ระหว่างวันที่ 20-21 ก.พ.49 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน เวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสองได้หมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณาใน นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันอังคารที่ 21 ก.พ.49 โดยจำเลยที่ 1 ได้ให้ข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.49 บริเวณศาลอาญา กล่าวพาดพิงโจทก์ทำนองว่า จับบ่อน ปอ ประตูน้ำ เพื่อให้นักพนันไปเล่นพนันบ่อนลอยฟ้าที่คอนโดฯ ชั้น 8 ย่านปิ่นเกล้า และข้อความอื่นๆ ที่ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยจำเลยที่ 1 ได้ต่อต้านโจทก์ และให้ข่าวใส่ร้ายโจทก์ทางสถานีโทรทัศน์เกือบทุกช่อง หนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ จึงขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 136, 326, 328 และให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากคดีดำหมายเลข อ.1491/2549 และหมายเลขแดงที่ อ.2239/2550 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 4 เดือนความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ด้วย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ข้อความที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้ มีลักษณะเชื่อมโยงกับข้อความใน นสพ.แนวหน้า ฉบับลงวันที่ 21 ก.พ.49 ที่โจทก์ ยื่นเป็นหลักฐานในคดีที่ฟ้องจำเลยที่ 1 ในคดีดำหมายเลขที่ อ.1491/2549 รวม 6 ประการ 1.วัน-เวลาที่จำเลยที่ 1 ให้สัมภาษณ์ คือวันที่ 20 ก.พ.49 2.ข้อความที่ระบุว่า “จเรตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่ามีนายทหารยศนายพล หรือระดับสูง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าของบ่อน ปอ ประตูน้ำ หรืออยู่เบื้องหลังบ่อน ปอ ประตูน้ำ” 3.ข้อความที่ระบุว่า “จำเลยที่ 1 ไม่เคยรู้จักนายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือปอ ประตูน้ำ หรือจำเลยที่ 1 เอง ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับปอ ประตูน้ำ มาก่อน

4.ข้อความที่ระบุว่า “นายทหารรุ่นพี่ของจำเลยที่ 1 ที่รู้จักกับนายไพจิตร ขอให้จำเลยที่ 1 หาทนายเพื่อต่อสู้คดีให้ หรือ พล.ท.สุทธิศักดิ์ เทพาสิทธิ์ เพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แนะนำ ปอ ประตูน้ำ ให้จำเลยที่ 1 ช่วยหาทนายเพื่อต่อสู้คดี” 5.ข้อความที่ระบุว่า “จเรตำรวจแห่งชาติ จะพูดก็ไม่ควรนำสถาบันทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ (ซึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) จะทำอะไรก็ไม่ควรพาดพิงถึงทหาร และ 6.ข้อความที่ระบุว่า “ขณะที่หน้าที่หลักของจเรตำรวจแห่งชาติ คือ ตรวจสอบตำรวจที่กระทำผิดวินัย ไม่ใช่ใส่ร้ายป้ายสีนายทหาร และที่นำจับบ่อนปอ ประตูน้ำ ก็เหมือนสอดคล้องให้ย้ายไปเล่นที่บ่อนลอยฟ้า ที่คอนโดชั้น 8 ย่านปิ่นเกล้า ที่มีนายตำรวจใหญ่นนทบุรีซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของโจทก์ เป็นผู้ดูแล และภาพลักษณ์ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ไม่ได้สวยหรูอะไร ทุกวันนี้ทีมีชื่อเสียงขึ้นมาได้เพราะใช้ชีวิตของคนอื่นแลกมา”

ศาลเห็นว่า เมื่อข้อความที่โจทก์ฟ้องจำเลยคดีนี้ที่ปรากฏใน นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันที่ 21 ก.พ.49 มีใจความสอดคล้องทั้งวัน-เวลาและคำสัมภาษณ์ กับคดีที่โจทก์ ฟ้องจำเลยในคดีดำหมายเลขที่ อ.1491/549 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาแล้ว จึงถือว่าเป็นการกระทำที่จำเลยก่อขึ้นในกรรมเดียว ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1860/2512 และ 3116/2525 และตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 เมื่อศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วในความผิดซึ่งได้ฟ้องซ้ำ สิทธิการนำคดีอาญาย่อมระงับ ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ รวมทั้งให้ยกคำขอที่ให้นับโทษจำเลยคดีนี้ต่อจากคดีดำหมายเลขที่ อ.1491/2549

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้เตือน พล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง ให้ระมัดระวังคำพูดในการให้สัมภาษณ์และรักษาเกียรติความเป็นนิติศาสตร์ด้วย เพราะ พล.ต.ขัตติยะ ก็ได้จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
กำลังโหลดความคิดเห็น