ตร.ท่องเที่ยว รวบ หนุ่มชาวโมร็อกโก ขณะเดินชอปปิ้งกลางห้างดัง ย่านถนนเพชรบุรี หลังสืบทราบมีผู้นำบัตรเครดิตผู้อื่นไปรูดซื้อสินค้า ก่อนขยายผลตรวจค้นห้องพัก พบแผ่นภาพยนตร์ดีวีดีหลายเรื่อง ที่มีหลักฐานการซื้อผ่านบัตร หนำซ้ำพบหนังสือเดินทางหมดอายุมากว่า 4 ปี
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชูชาติ สุวรรณาคม ผบก.ทท.พ.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบก.ทท.พ.ต.อ.สำราญ ยินดีอารมณ์ ผกก.1 บก.ทท.และ พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ รอง ผกก.1 บก.ทท.แถลงข่าวจับกุม นายฟาติ อับเดลฮาก อายุ 41 ปี ชาวโมร็อกโก พร้อมของกลางหนังสือเดินทางประเทศโมร็อกโก เลขที่ แอล 617903 ออกให้เมื่อวันที่ 05/10/1999 หมดอายุเมื่อวันที่ 04/10/2004 และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เนชั่นไวด์ วีซ่าเดบิต เลขที่ 4543 1345 2947 5124 ซึ่งเป็นของ นายอเล็กซานเดอร์ จี ริดเดล ผู้เสียหายชาวอังกฤษ
พล.ต.ต.ชูชาติ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีแก๊งชาวต่างชาติได้นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ต้องสงสัยไปใช้ซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม.ตนจึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.นำตรวจสอบ ต่อมาวันที่ 27 ม.ค.ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังดักซุ่มอยู่บริเวณหน้าร้านเอวี บริเวณชั้นที่ 3 ของห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า เจ้าหน้าที่พบพบ นายฟาติ เดินมาและท่าทางมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบหนังสือเดินทางของนายฟาติ ซึ่งหมดอายุมานานประมาณ 4 ปีแล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่าบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้เคยมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าสูญหายเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายฟาติ ไปตรวจค้นห้องพักย่านฝั่งธนบุรี
พล.ต.ต.ชูชาติ กล่าวต่อว่า จากตรวจค้นห้องพักของ นายฟาติ เจ้าหน้าที่พบแผ่นภาพยนตร์ดีวีดีหลายเรื่อง ซึ่งซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า โดยมีหลักฐานการซื้อขายผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้เสียหายชาวเนเธอร์แลนด์รายหนึ่ง ซึ่งเคยเข้าแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ว่า ถูกคนร้ายงัดห้องพักที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านถนนสีลม ซอย 8 โดยถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินไปจำนวน 6 รายการ อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนนายฟาติ ให้การรับสารภาพว่า ได้นำบัตรของผู้เสียหายไปซื้อสินค้าจริง แต่ตอนนี้นายฟาติยังไม่ยอมบอกว่านำบัตรอิเล็กทรอนิกส์มาจากที่ใด
ผบก.ทท.กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ใช้ หรือ มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชูชาติ สุวรรณาคม ผบก.ทท.พ.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบก.ทท.พ.ต.อ.สำราญ ยินดีอารมณ์ ผกก.1 บก.ทท.และ พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ รอง ผกก.1 บก.ทท.แถลงข่าวจับกุม นายฟาติ อับเดลฮาก อายุ 41 ปี ชาวโมร็อกโก พร้อมของกลางหนังสือเดินทางประเทศโมร็อกโก เลขที่ แอล 617903 ออกให้เมื่อวันที่ 05/10/1999 หมดอายุเมื่อวันที่ 04/10/2004 และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เนชั่นไวด์ วีซ่าเดบิต เลขที่ 4543 1345 2947 5124 ซึ่งเป็นของ นายอเล็กซานเดอร์ จี ริดเดล ผู้เสียหายชาวอังกฤษ
พล.ต.ต.ชูชาติ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีแก๊งชาวต่างชาติได้นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ต้องสงสัยไปใช้ซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม.ตนจึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.นำตรวจสอบ ต่อมาวันที่ 27 ม.ค.ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังดักซุ่มอยู่บริเวณหน้าร้านเอวี บริเวณชั้นที่ 3 ของห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า เจ้าหน้าที่พบพบ นายฟาติ เดินมาและท่าทางมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบหนังสือเดินทางของนายฟาติ ซึ่งหมดอายุมานานประมาณ 4 ปีแล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่าบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้เคยมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าสูญหายเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายฟาติ ไปตรวจค้นห้องพักย่านฝั่งธนบุรี
พล.ต.ต.ชูชาติ กล่าวต่อว่า จากตรวจค้นห้องพักของ นายฟาติ เจ้าหน้าที่พบแผ่นภาพยนตร์ดีวีดีหลายเรื่อง ซึ่งซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า โดยมีหลักฐานการซื้อขายผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้เสียหายชาวเนเธอร์แลนด์รายหนึ่ง ซึ่งเคยเข้าแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ว่า ถูกคนร้ายงัดห้องพักที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านถนนสีลม ซอย 8 โดยถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินไปจำนวน 6 รายการ อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนนายฟาติ ให้การรับสารภาพว่า ได้นำบัตรของผู้เสียหายไปซื้อสินค้าจริง แต่ตอนนี้นายฟาติยังไม่ยอมบอกว่านำบัตรอิเล็กทรอนิกส์มาจากที่ใด
ผบก.ทท.กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ใช้ หรือ มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป