รวบ 8 ตชด.ยัดยาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจกางเกงยีนส์ย่านฝั่งธน ก่อนอุ้มลูกสาวเรียกค่าไถ่ 8.5 ล้าน ผบช.น.อัดเลวมากเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาผิดเสียเอง
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 00.20 น.ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จำนวน 8 นาย ผู้ต้องหาคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ มาสอบปากคำ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน บก.น.1 ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท และหน่วยอรินทราช อาวุธครบมือกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมจับกุมได้ที่ห้องพักอารีย์สัมพันธ์เรสซิเด้นท์ ภายในซอยอารีย์สัมพันธ์ ย่านพญาไท กทม.เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 จ.ชุมพร จำนวน 13 นาย และพลเรือนอีก 4 คน มีข้อมูลว่า นางเพียงจิต พึ่งอ้น อายุ 42 ปี เจ้าของธุรกิจกางเกงยีนส์ ย่านฝั่งธนบุรี พัวพันยาเสพติด จึงยัดยาอี และยาไอซ์ให้กับ นางเพียงจิต แล้วอุ้ม นางเพียงจิต และลูกสาวอายุ 4 ขวบ และ 15 ปี จากห้องพักคอมมานเวลท์ คอนโดมิเนียม ห้องเลขที่ 412 ชั้นที่ 16 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงและเขตบางพลัด มาขังที่ห้องพักดังกล่าว
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้เรียกเงินจำนวน 8.5 ล้านบาทจาก นางเพียงจิต แต่ นางเพียงจิต ไม่ยอม คนร้ายจึงทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งขู่ฆ่าลูกสาวทั้ง 2 ให้ตาย ด้วยความกลัว นางเพียงจิต จึงยอมไปกับผู้ต้องหา ตระเวนกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มให้ตามที่คนร้ายเรียกร้อง เมื่อจ่ายเงินให้เสร็จคนร้ายได้ปล่อยตัวนางเพียงจิตไป เมื่อกลับถึงบ้านนางเพียงจิตได้บอกให้สามีทราบ แล้วพากันเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ก่อนนำกำลังจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถยึดเงินของกลางได้แล้วจำนวน 3.4 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทราบว่าเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือนำหลบหนีไป จ.ชลบุรี ซึ่งได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) เดินทางไปจับกุมแล้ว
“เลวมาก คนพวกนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาผิดเสียเอง ผมไม่เลี้ยงไว้หรอก ถึงแม้จะเจ็บแต่คนพวกนี้เอาไว้ไม่ได้ ประเทศชาติจะเสียหาย” ผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมอยู่นั้น คนร้ายเตรียมยิงสู้ และไม่ยอมให้จับกุมแต่โดยดี สถานการณ์กำลังตึงเครียด หวิดจะเกิดการยิงปะทะกัน พล.ต.ต.วิทยา เห็นว่าหากมีการยิงกันเกิดขึ้นตัวประกันจะตกอยู่ในอันตราย จึงรายงานให้ พล.ต.ท.อัศวิน มาเจรจา เมื่อเดินทางมาถึง หัวหน้าแก๊ง ซึ่งเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ.ออกมาเจรจา โดย พล.ต.ท.อัศวิน รับปากว่าจะไม่มีการวิสามัญ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาทั้งหมดมาสู้คดี กลุ่มคนร้ายจึงยอมวางอาวุธและมอบตัวแต่โดยดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ ซึ่งทาง พล.ต.ท.อัศวิน จะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล 9 โมงเช้าวันนี้
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 00.20 น.ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จำนวน 8 นาย ผู้ต้องหาคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ มาสอบปากคำ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน บก.น.1 ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท และหน่วยอรินทราช อาวุธครบมือกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมจับกุมได้ที่ห้องพักอารีย์สัมพันธ์เรสซิเด้นท์ ภายในซอยอารีย์สัมพันธ์ ย่านพญาไท กทม.เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 จ.ชุมพร จำนวน 13 นาย และพลเรือนอีก 4 คน มีข้อมูลว่า นางเพียงจิต พึ่งอ้น อายุ 42 ปี เจ้าของธุรกิจกางเกงยีนส์ ย่านฝั่งธนบุรี พัวพันยาเสพติด จึงยัดยาอี และยาไอซ์ให้กับ นางเพียงจิต แล้วอุ้ม นางเพียงจิต และลูกสาวอายุ 4 ขวบ และ 15 ปี จากห้องพักคอมมานเวลท์ คอนโดมิเนียม ห้องเลขที่ 412 ชั้นที่ 16 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงและเขตบางพลัด มาขังที่ห้องพักดังกล่าว
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้เรียกเงินจำนวน 8.5 ล้านบาทจาก นางเพียงจิต แต่ นางเพียงจิต ไม่ยอม คนร้ายจึงทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งขู่ฆ่าลูกสาวทั้ง 2 ให้ตาย ด้วยความกลัว นางเพียงจิต จึงยอมไปกับผู้ต้องหา ตระเวนกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มให้ตามที่คนร้ายเรียกร้อง เมื่อจ่ายเงินให้เสร็จคนร้ายได้ปล่อยตัวนางเพียงจิตไป เมื่อกลับถึงบ้านนางเพียงจิตได้บอกให้สามีทราบ แล้วพากันเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ก่อนนำกำลังจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถยึดเงินของกลางได้แล้วจำนวน 3.4 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทราบว่าเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือนำหลบหนีไป จ.ชลบุรี ซึ่งได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) เดินทางไปจับกุมแล้ว
“เลวมาก คนพวกนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาผิดเสียเอง ผมไม่เลี้ยงไว้หรอก ถึงแม้จะเจ็บแต่คนพวกนี้เอาไว้ไม่ได้ ประเทศชาติจะเสียหาย” ผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมอยู่นั้น คนร้ายเตรียมยิงสู้ และไม่ยอมให้จับกุมแต่โดยดี สถานการณ์กำลังตึงเครียด หวิดจะเกิดการยิงปะทะกัน พล.ต.ต.วิทยา เห็นว่าหากมีการยิงกันเกิดขึ้นตัวประกันจะตกอยู่ในอันตราย จึงรายงานให้ พล.ต.ท.อัศวิน มาเจรจา เมื่อเดินทางมาถึง หัวหน้าแก๊ง ซึ่งเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ.ออกมาเจรจา โดย พล.ต.ท.อัศวิน รับปากว่าจะไม่มีการวิสามัญ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาทั้งหมดมาสู้คดี กลุ่มคนร้ายจึงยอมวางอาวุธและมอบตัวแต่โดยดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ ซึ่งทาง พล.ต.ท.อัศวิน จะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล 9 โมงเช้าวันนี้
