xs
xsm
sm
md
lg

มรดก “ตระกูลตังทัตสวัสดิ์” ไม่ลงตัวไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ !

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


คดีมรดก “ตระกูลตังทัตสวัสดิ์” ไกล่เกลี่ยยังไม่สำเร็จ “รัชนี ตังทัตสวัสดิ์” เจ้าแม่อสังหาฯ ฟ้องศาลเยาวชน เพิกถอนโอนหุ้นมรดกลูก-หลาน 9 คน เป็นโมฆะ ขณะที่ฝ่ายลูกยื่นคำให้การโต้รัชนี ไม่ใช่แม่ตัวจริงแค่แม่เลี้ยง

วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สนามหลวง ศาลนัดไกล่เกลี่ยคดีที่ นางรัชนี ตังทัตสวัสดิ์ อายุ 88 ปี นักธุรกิจการโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.นพ.กำพล ตังทัตสวัสดิ์ อายุ 69 ปี อดีตแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ, นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ อายุ 65 ปี กรรมการผู้อำนวยการธนาคารกรุงเทพ อดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, นายอนันต์ ตังทัตสวัสดิ์ อายุ 57 ปี อดีตกรรมการผู้อำนวยการธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบุตรของนางรัชนี, น.ส.กุลวรา, น.ส.กุลธิรา, น.ส.วีริศา, นายจิรพล, น.ส.ลลิตา และ น.ส.ริรินดา ทั้งหมดนามสกุลตังทัตสวัสดิ์ ซึ่งเป็นหลาน นางรัชนี เป็นจำเลยที่ 1-9 เรื่องเรียกคืนสินสมรสของ นายกัญจน บิดาเจ้าของโรงแรมแกรนด์เดอวิลล์ ย่านสะพานหัน และเพิกถอนการโอนหุ้นให้จำเลยทั้งเก้ามูลค่า 763,511,399บาท โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้นิติกรรมเป็นโมฆะ

ทั้งนี้ หลังศาลเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย แต่คู่ความยังไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลจึงนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งครั้งในวันที่ 1 ก.พ.เวลา 09.00 น.โดยหากไม่สามารถหาข้อยุติกันได้ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ 3 ก.ย.นี้

ภายหลัง นายพจน์ คมน์อนันต์ ทนายความโจทก์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ จำเลยได้ยื่นคำให้การสู้คดีว่า ยอมรับว่า นางรัชนี เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของ นายกัญจน บิดา และยอมรับว่า ทรัพย์สินตามคำฟ้องบางรายการเป็นของนางรัชนีจริง แต่หุ้นจำนวน 11,540 หุ้น ไม่ใช่สินสมรสตามที่นางรัชนีอ้าง และฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ขณะที่คำให้การของจำเลยที่ 1-2 ยังระบุอีกว่า ทั้งสองไม่ได้เป็นบุตรของนางรัชนี โจทก์ในคดีนี้ แต่เป็นบุตรของ นายกัญจน กับ นางหมุยเง็ก แซ่จู ซึ่งสมรสกันเมื่อปี 2476 โดยจำเลยที่ 1-2 มีพี่น้องร่วมบิดามารดา คือ นายสิทธิ, นางสุกัญญา, น.ส.วิจิตรา และ นางประภาศรี ตังทัตสวัสดิ์ โดยบิดาและนางหมุยเง็ก มารดา ร่วมกันประกอบกิจการทำมาหากินจนมีทรัพย์สินมั่นคง แต่เมื่อนางหมุยเง็ก มารดาถึงแก่ความตาย นายกัญจน ได้ครอบครองทรัพย์มรดกในส่วนของนางหมุยเง็กแทนบุตรทั้งหมด โดยบิดาได้ใช้ทรัพย์มรดกเป็นทุนการค้าจนมีเงินเพิ่มนับหลายสิบล้านบาท ขณะที่เมื่อนางรัชนี โจทก์ ได้สมรสกับบิดาก็ไม่ได้ประกอบอาชีพ หรือดำเนินกิจการ นอกจากดูแลเลี้ยงบุตร ซึ่งกิจการโรงแรมแกรนด์ เดอวิลล์ และบริษัท กาญจนทัต จำกัด ที่บิดาจัดตั้ง ก็ได้นำเงินจากทรัพย์มรดกไปใช้ต่อยอดกิจการ ดังนั้น จึงขอให้ศาลยกฟ้อง

นายพจน์ กล่าวต่อว่า แม้ลูกๆ จะยื่นคำให้การว่า นางรัชนี ไม่ใช่มารดา แต่ก็ไม่วิตกอะไรซึ่งนางรัชนีได้ไปจดทะเบียนเพิกถอนความเป็นแม่ลูกระหว่าง พล.ต.ต.นพ.กำพล และ นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ ต่อสำนักงานเขตพระโขนงเรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่าเพิกถอนความเป็นแม่ลูกนั้นจะไม่ทำให้รูปคดีเสียหาย เพราะคดีนี้โจทก์ฟ้องเอาทรัพย์สินที่เป็นสินสมรสของโจทก์ที่เกิดกับนายกัญจน
กำลังโหลดความคิดเห็น