กรมคุมประพฤติ เผย 3,212 คดี ที่ศาลสั่งคุมประพฤติจากการเมาแล้วขับในช่วง 7 วันอันตราย ที่ผ่านมา แยกเป็นเมาแล้วขับ 3,047 คดี ลดลงเมื่อปีก่อนกว่า 1,700 คดี กรุงเทพฯ นำลิ่ว 348 คดี โคราช ตามมาติดๆ 332 คดี “อธิบดี” ระบุ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมไม่ได้เป็นการประจาน แต่ต้องการให้รู้ซึ้งถึงเหยื่อที่ได้รับจากเหตุการณ์เมาแล้วขับ
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่กรมคุมประพฤติ นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติจากการเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2551 ว่า ในช่วง 7 วันอันตราย วันที่ 28 ธ.ค - 3 ม.ค.ที่ผ่านมา มีคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติทั้งสิ้น 3,212 คดี แยกเป็น เมาแล้วขับ 3,047 คดี พ.ร.บ.จราจร 165 คดี เมื่อเทียบสถิติเมาแล้วขับในช่วง 7 วันอันตรายในปี 2550 มีคดีเมาแล้วขับที่ศาลสั่งคุมประพฤติ 4,774 คดี ซึ่งปีนี้ มีสถิติเมาแล้วขับลดลง 1,727 คดี 10 จังหวัดที่เมาแล้วขับที่ศาลสั่งคุมประพฤติ ประกอบด้วย 1.กรุงเทพฯ 348 คดี 2.นครราชสีมา 332 คดี 3.สุรินทร์ 225 คดี 4.บุรีรัมย์ 193 คดี 5.ลำปาง 171 คดี 6.ราชบุรี 156 คดี 7.ชัยภูมิ 139 คดี 8.ขอนแก่น 100 คดี 9.สกลนคร 94 คดี 10.ศีรสะเกษ 52 คดี
นายนที กล่าวต่ออีกว่า ผู้ที่ถูกศาลสั่งคุมประพฤติจะต้องให้ทำงานสาธารณะ เพื่อสร้างจิตสำนึกการรักความปลอดภัย โดยต้องทำงานบริการสังคมให้ผู้กระทำผิดได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งงานบริการสังคมไม่ได้เป็นการประจานให้ผู้ถูกคุมประพฤติอับอาย แต่ก็ต้องการเน้นให้ผู้ที่เมาแล้วขับได้ช่วยเหลือผู้ป่วย และผู้พิการที่เกิดจากอุบัติเหตุ