รมว.ยุติธรรม เตรียมขอกลับศาลเข้ารับราชการเป็นผู้พิพากษาอาวุโส หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ “จรัญ” ยัน ต้องการกลับไปเป็นผู้พิพากษา ด้าน “สุนัย” โต้ข่าวลือรองปลัดยุติธรรมจะมานั่งตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ยังไม่คิดโอนกลับศาลจนกว่าจะสร้างให้ดีเอสไปเป็นองค์กรอิสระให้จงได้
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตนได้ทำหนังสือขอกลับเข้ารับราชการเป็นผู้พิพากษาอาวุโส โดยยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกาแล้ว โดยกรณีของตนแตกต่างจาก นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ก่อนหน้านี้ ได้ทำหนังสือขอโอนกลับศาลยุติธรรม เพราะตนเป็นการลาออกจากราชการมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงต้องทำเรื่องขอกลับเข้ารับราชการใหม่ ส่วนขั้นตอนการพิจารณาของศาลยุติธรรม คาดว่า ต้องใช้เวลาพอสมควร น่าจะรู้ผลในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการข้าราชการตุลาการ (ก.ต.) มีมติรับโอนนายจรัญกลับศาลยุติธรรมก่อนตนพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ตนก็จะไม่เสนอตั้งปลัดกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ เพราะต้องการให้รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่เป็นผู้คัดเลือกปลัดกระทรวงยุติธรรมเอง ระหว่างนี้ หาก นายจรัญ ต้องโอนกลับศาลยุติธรรมไปก่อน ก็จะให้นายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่อาวุโสสูงสุด รักษาการในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมไปก่อน
สำหรับตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะมีการสลับตำแหน่งกับ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมนั้น นายชาญชัย ยืนยันว่า หากตนยังเป็นรัฐมนตรีอยู่จะยังไม่มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะตำแหน่งของนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีดีเอสไอ ที่สำคัญ ขณะนี้นายสุนัยยังไม่ได้ทำเรื่องขอโอนกลับศาลยุติธรรม เพราะต้องการวางระบบงานให้กับดีเอสไอก่อน ส่วนตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการอยู่ ขณะนี้ยังไม่สามารถเสนอแต่งตั้ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เป็นผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ เนื่องจากยังรอผลสอบสวนทางวินัยจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) อยู่
ด้าน นายจรัญ กล่าวว่า ตนทำเรื่องขอโอนกลับศาลยุติธรรม ไม่เกี่ยวข้องกับใครจะมาเป็นรัฐบาลใหม่ แต่เป็นความตั้งใจเดิมที่ต้องการมาทำงานในช่วงที่บ้านเมืองมีปัญหา เมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จึงอยากกลับไปเป็นผู้พิพากษาตามเดิม
ขณะที่ นายสุนัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องว่าจะมีการย้ายสลับตำแหน่ง และคิดว่าไม่เป็นความจริง ข่าวที่ออกมาน่าจะเป็นเพียงข่าวลือ โดยยืนยันว่าจะยังเป็นอธิบดีดีเอสไอต่อไป และยังไม่คิดขอโอนกลับศาลยุติธรรมในช่วงนี้ จนกว่าจะทำงานที่ตั้งใจไว้เสร็จสิ้น คือ การปรับโครงสร้างภายในดีเอสไอให้เป็นอิสระไม่ถูกแทรกแซง และเป็นที่พึงของประชาชน
