พบศพสาวศรีสะเกษถูกฆ่าโหด ยิงหัวทะลุก่อนนำศพไปทิ้งในพงหญ้า ย่านพุทธมณฑลสาย 3 แม่คนตายเห็นไม่กลับบ้านเกิดช่วงปีใหม่ จึงขึ้นมาตามหา แต่ไม่พบ เลยเข้าแจ้งความให้ตำรวจติดตามจนพบศพ เบื้องต้นตำรวจรวบผัวขี้หึงเค้นสอบเครียดคาดเป็นผู้ก่อเหตุ
วันนี้ (2 ม.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.อ.พัฒนวิทย์ แสงมุกดา ร้อยเวร สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวเสียชีวิต ภายในคลองท่อ ซอยโรงเรียนคลองบางพรหม ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.น.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา แพทย์โรงพยาบาลศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่รกร้างภายในซอยดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในละแวกนั้นใช้เป็นที่ทิ้งขยะ บริเวณพงหญ้าริมคลอง เจ้าหน้าที่พบศพหญิงสาวไม่ทราบชื่อ สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่ในคลอง ที่บริเวณลำตัวถูกมัดด้วยเชือกไนล่อน และนำไปผูกติดกับต้นไม้บริเวณริมคลอง และมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศีรษะด้านหลังจำนวน 1 นัด สภาพศพขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ สวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงยีนส์ สีน้ำเงินขายาว จากการตรวจค้นภายในตัวผู้ตายเจ้าหน้าที่พบกุญแจห้อง 1 ดอก เงินสดจำนวน 20 บาท และยาดม 1 อัน โดยแพทย์คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน
ต่อมา นางใบ ระบำบท อายุ 48 ปี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพก็ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ก่อนกล่าวว่า ศพดังกล่าวเป็นศพของบุตรสาวของตน ชื่อ น.ส.วิไลวรรณ ระบำบท อายุ 17 ปี เนื่องจากตนจำกางเกงที่บุตรสาวสวมใส่ได้
นางใบ กล่าวว่า บุตรสาวได้แต่งงานและอยู่กินกับนายโภชน์ ไม่ทราบนามสกุล โดยทั้ง 2 คน ได้มาเช่าบ้านอยู่ภายในซอยดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุบุตรสาวได้โทรศัพท์ให้ตนจองตั๋วรถโดยสาร เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.ศรีสะเกษ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ตนก็ไม่พบบุตรสาวเดินทางกลับมาที่บ้านแต่อย่างใด จึงเดินทางมาหาบุตรสาวที่บ้านพัก
นางใบ กล่าวต่อว่า เมื่อเดินทางมาถึงบ้านพักของบุตรสาว ตนกลับไม่พบใคร มีเพียงเสื้อผ้าและสิ่งของที่บุตรสาวเก็บใส่กระเป๋า เพื่อเตรียมเดินทางกลับบ้าน ตนจึงได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“จากที่ได้สวนถามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง ทราบว่า ลูกสาวดิฉันได้หายตัวไป จากบ้านพักตั้งแต่ก่อนเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยเพื่อนบ้านคนหนึ่งบอกว่า ขณะที่ลูกสาวของดิฉันกำลังเก็บเสื้อผ้าเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.ศรีสะเกษ ได้มีโทรศัพท์เข้ามาหา จากนั้นลูกสาวก็ได้ออกไปนอกบ้าน และหายตัวไปตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ส่วน นายโภชน์ หลังจากลูกสาวดิฉันหายไปตัวไป ก็หายตัวไปด้วย เช่นกัน โดยไม่ยอมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นางใบ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุและศพของผู้ตาย นายโภชน์ ก็ได้เดินทางมาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้วย แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถามรายละเอียด นายโภชน์ ก็ได้มีอาการตัวสั่นและพูดจาไม่รู้เรื่อง พร้อมทั้งบอกว่า ผมไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายโภชน์ มาสอบสวนที่ สน.ธรรมศาลา เนื่องจากมีพิรุธ นอกจากนี้ จากการสอบสวนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบว่า ผู้ตายและนายโภชน์มักจะมีปากเสียงกับอยู่เป็นประจำ เนื่องจากนายโภชน์เป็นคนที่หึงหวงผู้ตายเป็นอย่างมาก อีกทั้งหลังจากที่ผู้ตายหายตัวไป นายโภชน์ก็ได้หายตัวไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องสาว
วันนี้ (2 ม.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.อ.พัฒนวิทย์ แสงมุกดา ร้อยเวร สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวเสียชีวิต ภายในคลองท่อ ซอยโรงเรียนคลองบางพรหม ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.น.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา แพทย์โรงพยาบาลศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่รกร้างภายในซอยดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในละแวกนั้นใช้เป็นที่ทิ้งขยะ บริเวณพงหญ้าริมคลอง เจ้าหน้าที่พบศพหญิงสาวไม่ทราบชื่อ สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่ในคลอง ที่บริเวณลำตัวถูกมัดด้วยเชือกไนล่อน และนำไปผูกติดกับต้นไม้บริเวณริมคลอง และมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศีรษะด้านหลังจำนวน 1 นัด สภาพศพขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ สวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงยีนส์ สีน้ำเงินขายาว จากการตรวจค้นภายในตัวผู้ตายเจ้าหน้าที่พบกุญแจห้อง 1 ดอก เงินสดจำนวน 20 บาท และยาดม 1 อัน โดยแพทย์คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน
ต่อมา นางใบ ระบำบท อายุ 48 ปี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพก็ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ก่อนกล่าวว่า ศพดังกล่าวเป็นศพของบุตรสาวของตน ชื่อ น.ส.วิไลวรรณ ระบำบท อายุ 17 ปี เนื่องจากตนจำกางเกงที่บุตรสาวสวมใส่ได้
นางใบ กล่าวว่า บุตรสาวได้แต่งงานและอยู่กินกับนายโภชน์ ไม่ทราบนามสกุล โดยทั้ง 2 คน ได้มาเช่าบ้านอยู่ภายในซอยดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุบุตรสาวได้โทรศัพท์ให้ตนจองตั๋วรถโดยสาร เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.ศรีสะเกษ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ตนก็ไม่พบบุตรสาวเดินทางกลับมาที่บ้านแต่อย่างใด จึงเดินทางมาหาบุตรสาวที่บ้านพัก
นางใบ กล่าวต่อว่า เมื่อเดินทางมาถึงบ้านพักของบุตรสาว ตนกลับไม่พบใคร มีเพียงเสื้อผ้าและสิ่งของที่บุตรสาวเก็บใส่กระเป๋า เพื่อเตรียมเดินทางกลับบ้าน ตนจึงได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“จากที่ได้สวนถามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง ทราบว่า ลูกสาวดิฉันได้หายตัวไป จากบ้านพักตั้งแต่ก่อนเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยเพื่อนบ้านคนหนึ่งบอกว่า ขณะที่ลูกสาวของดิฉันกำลังเก็บเสื้อผ้าเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.ศรีสะเกษ ได้มีโทรศัพท์เข้ามาหา จากนั้นลูกสาวก็ได้ออกไปนอกบ้าน และหายตัวไปตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ส่วน นายโภชน์ หลังจากลูกสาวดิฉันหายไปตัวไป ก็หายตัวไปด้วย เช่นกัน โดยไม่ยอมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นางใบ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุและศพของผู้ตาย นายโภชน์ ก็ได้เดินทางมาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้วย แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถามรายละเอียด นายโภชน์ ก็ได้มีอาการตัวสั่นและพูดจาไม่รู้เรื่อง พร้อมทั้งบอกว่า ผมไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายโภชน์ มาสอบสวนที่ สน.ธรรมศาลา เนื่องจากมีพิรุธ นอกจากนี้ จากการสอบสวนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบว่า ผู้ตายและนายโภชน์มักจะมีปากเสียงกับอยู่เป็นประจำ เนื่องจากนายโภชน์เป็นคนที่หึงหวงผู้ตายเป็นอย่างมาก อีกทั้งหลังจากที่ผู้ตายหายตัวไป นายโภชน์ก็ได้หายตัวไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องสาว
